นายกฯ สรุปเหตุตึกสตง.ถล่ม พบออกแบบ-วิธีก่อสร้างบกพร่อง ส่งข้อมูล ‘ดีเอสไอ-ตร.’ ชี้ใครผิด
30 มิ.ย.2568-ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายพิศุทธ์ สุขุม วิศวกรใหญ่กรมโยธาและผังเมือง นายนิเวศน์ ล้ำเลิศลักษณชัย ผอ.สำนักวิศวกรรมโครงสร้างและงานระบบ นายธนิต ใจสอาด ผอ.สำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย รศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และรศ.อเนก ศิริพานิชกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม
จากนั้นเวลา 12.15 น. นายกฯแถลงว่า จากการประชุมเรื่องเหตุการณ์พังถล่มของอาคาร สตง. ที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 เราได้รับความร่วมมือจากกรมโยธาธิการและผังเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเอกภาพ โดยจากทุกสถาบันมีข้อมูลที่สอดคล้องกันดังนี้ พบว่ามีการบกพร่องในการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง โดยเฉพาะเทคนิคในการก่อสร้าง ในส่วนของผนังช่องลิฟท์ ผนังบันไดหรือที่เรียกว่าผนังรับแรงเฉือน เป็นสิ่งที่เกิดปัญหา
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของวัสดุไม่ว่าจะเหล็กหรือคอนกรีตเป็นวัสดุปกติที่ได้มาตรฐานทั่วไป แต่การนำมาใช้ในโครงการนี้และเกิดปัญหา เป็นเรื่องของคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานและวิธีการสร้างของโครงการนี้ที่มีปัญหา ก็เป็นสิ่งที่หลายภาคส่วนมีความกังวลอาคารอื่นๆจะเป็นอย่างไร ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานมามีการก่อสร้างหลายๆจุดที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง ทั้งในการวิจัยออกมาและมีการทำจำลองตัวตึก ระบุว่าถ้าปฏิบัติตามกฎหมายจะสร้างความแข็งแรงให้ตึกเพิ่มมากขึ้นและจะสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่านี้แน่นอน โดยเราใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับที่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นในการดำเนินการ
“ขอย้ำอีกครั้งว่าโครงการอื่นๆ ได้มีการตรวจสอบในด้านวัสดุก่อสร้างอย่างเคร่งครัดไม่ได้มีปัญหาใดๆ และอยากให้ประชาชนสบายใจในเรื่องนี้ ต่อจากนี้เราจะนำข้อมูลที่ได้ทำเป็นรูปเล่มให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ และส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ เพื่อดำเนินการต่อ ทั้งนี้ขอตอบปัญหาประชาชนเบื้องต้นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการออกแบบและการก่อสร้างของโครงการนี้ที่มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัดซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย”
เมื่อถามว่า สรุปได้หรือยังว่าความเสียหายอาคาร สตง. ถล่ม ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการออกแบบและโครงสร้างการก่อสร้างที่มีปัญหา เรื่องที่ว่าใครผิดหรือไม่ ต้องให้ตำรวจทำงานร่วมกับดีเอสไอ ซึ่งเราทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ใครที่ไม่เกี่ยวข้องหรือว่าอย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมายตามกระบวนการ
ถามว่า ตัวเหล็กไม่มีปัญหาแต่มีปัญหาที่คอนกรีตใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตัวเหล็กไม่มีปัญหาอะไร แต่มีปัญหาพวกวัสดุอื่นๆ ซึ่งเอามาไม่ผิด แต่พอมาสร้างในโครงการนี้มีการเฉือนให้บางลงซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ ตอนแรกตนก็กังวลใจในเรื่องของที่ไม่มีคุณภาพกับโครงการอื่น แต่เป็นการมาบิดในโครงการนี้
ซักว่า ถ้าปัญหาเป็นเรื่องของการออกแบบ ทาง สตง.ที่เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องให้ทางดีเอสไอกับตำรวจช่วยดูว่าอย่างไรบ้าง ใครต้องรับผิดชอบส่วนไหนบ้าง เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราได้ให้ทางผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี 90 วัน ในการหาสาเหตุจากกรณีแผ่นดินไหวและยื่นข้อมูลให้ดีเอสไอกับตำรวจดำเนินการต่อ
ถามอีกว่า น้ำหนักที่จะเอาผิดอยู่ที่ผู้ออกแบบและผู้ที่ทำเรื่องของโครงสร้างใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ข้อมูลที่ออกไป คนก็จะมองต่างมุมว่าแบบไหนผิดหรือถูก ฉะนั้นก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการที่เป็นกลางมากที่สุด ทำแบบนี้ใครผิด ซึ่งตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ชี้ว่าใครผิด แต่ตอนนี้ทราบว่าดำเนินการผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า กระบวนการการตรวจสอบ สตง. จะไม่เงียบใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เงียบแน่นอนเดี๋ยวอีก 2 สัปดาห์ก็จะมีรายงานที่เป็นรูปเล่ม และส่งให้ดีเอสไอกับตำรวจทำงานต่อ และเรารู้ว่าประชาชนไม่ได้ลืม และรออยู่ว่าตึกสตง. ถล่มเกิดขึ้นจากอะไร วันนี้เราได้คำตอบแล้ว และหลังจากนั้นให้ว่าไปตามกระบวนการ