พรรคประชาชน ยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โละอำนาจ สว. โหวตเลือกองค์กรอิสระ
“เท้ง” นำ สส.พรรคประชาชน ยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โละอำนาจ สว. โหวตเลือกองค์กรอิสระ โยนให้เป็นหน้าที่ สส.-สว. ร่วมกันให้ความเห็นชอบ พร้อมเปิดช่องประชาชนเข้าชื่อ 20,000 คนสอยได้ หากทุจริตต่อหน้าที่-ร่ำรวยผิดปกติ
วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวที่รัฐสภา โดยยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การยุบพรรคตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก สว. หรือการขาดความรับผิดชอบจากกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะต้องมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายในสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่พรรคประชาชนเห็นว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขได้บางมาตรา โดยเป็นการแก้ไขแบบคู่ขนานกันไป
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรายื่นในวันนี้ มุ่งสู่การสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชนโดยแบ่งออกเป็น 3 ร่าง
ร่างที่ 1 เป็นการเปลี่ยนระบบ ที่ครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก
(1) ที่มาหลากหลาย ทำให้เรามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่มีความหลากหลายทางความคิด วิชาชีพ และประสบการณ์ โดยการเพิ่มช่องทางในการสรรหา-เสนอชื่อ จากเดิมที่เป็นการเสนอชื่อผ่านคณะกรรมการสรรหาช่องทางเดียว มาเป็นการเสนอชื่อหลายสายจากหลากหลายช่องทาง เช่น ศาล, สส.รัฐบาล, สส.ฝ่ายค้าน, สมาชิกวุฒิสภา (สว.)
(2) ไม่ผูกขาดโดย สว. ทำให้เรามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่ยึดโยงกับประชาชนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยจะใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาแทน
(3) ประชาชนตรวจสอบได้ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ไม่อยู่เหนือการตรวจสอบ โดยการคืนสิทธิให้ผู้แทนราษฎร และประชาชน 20,000 คน ในการเข้าชื่อเพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผ่านกลไกขององค์คณะพิจารณาถอดถอนที่มีตัวแทนจากหลายฝ่าย
นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปถึงร่างที่ 2 และร่างที่ 3 ว่า เป็นการปรับเฉพาะจุด โดยเป็นร่างไม่ผูกขาดกับ สว. และประชาชนสามารถเข้าชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระได้ ซึ่งเป็นการแยกจากร่างที่ 1 ออกมา โดยทั้ง 3 ร่างมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
“หวังว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนจะเห็นตรงกันว่าศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระไม่ควรเป็นอิสระจากประชาชน แต่ควรเป็นอิสระจากการถูกครอบงำโดยกลุ่มก้อนทางการเมืองเพียงกลุ่มเดียว และพรรคประชาชนหวังว่าทุกพรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาทุกคนจะเห็นตรงกันว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่เราควรร่วมกันปลดชนวน โดยการบรรจุและผลักดันร่างดังกล่าวในรัฐสภาโดยเร็ว”
เมื่อถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา สามารถนำมาทดแทนการแก้ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ นายพริษฐ์ ตอบว่า ไม่ได้มาทดแทนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่เป็นการดำเนินการแบบคู่ขนาน ผู้สื่อข่าวถามต่อ การแก้รายมาตราในเรื่ององค์กรอิสระเป็นเรื่องใหญ่สมาชิกรัฐสภาจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หรือไม่อยู่ที่มุมมอง เพราะร่างที่ 2 และร่างที่ 3 เป็นการแก้ไขเฉพาะจุด หวังว่าสมาชิกรัฐสภาน่าจะเห็นชอบร่วมกันได้ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 คือ 60 เสียงในการผ่านร่าง
ทางด้านคำถามว่าร่างทั้ง 3 ฉบับ จากสถานการณ์การเมืองขณะนี้จะพิจารณาทันสมัยการประชุมนี้หรือไม่ นายพริษฐ์ เผยว่า สภาฯ ชุดนี้จะอยู่นานเท่าไหร่ตนไม่ทราบ แต่ถ้าสภาฯ ยังคงทำงานอยู่ ฝ่ายค้านก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลคงไม่ทำให้เราทำงานน้อยลง และตอบไม่ได้ว่ารัฐบาลจะอยู่นานเท่าไหร่ แต่หากสภาฯ ทำงาน เราก็ยังทำงานอยู่
สำหรับกรณีที่มีการไปคุยกับพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน นายพริษฐ์ กล่าวว่า การเสนอร่างวันนี้มี สส.พรรคประชาชน 100 กว่าคนลงนาม แต่หลังจากนี้จะนำร่างไปพูดคุยกับ สส.ซีกฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลด้วย ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์จุดยืน ต้องดูจากการกระทำ จากผลการลงมติ เป็นเครื่องพิสูจน์
ในคำถามว่าการปรับแก้กระบวนการสรรหาขององค์กรอิสระมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยเพียงใดนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า ขั้นตอนการสรรหาจากเดิมเป็นการเสนอชื่อซึ่งเป็นเพียงแค่ช่องทางเดียว โดยมีการตั้งคณะกรรมการสรรหา 1 ชุด ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายฝ่าย ส่วนข้อเสนอของพรรคเปลี่ยนจากการเสนอชื่อให้คณะกรรมการสรรหา เป็นการเสนอชื่อจากหลายช่องทาง เช่น การเสนอชื่อผ่านที่ประชุม การเสนอชื่อจากฝั่ง สส.รัฐบาล และการเสนอชื่อจาก สส.ฝ่ายค้าน และการเสนอชื่อจากฝั่ง สว.
ขณะที่คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในการออกแบบการปฏิรูปและการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญ ในองค์กรอิสระเป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคมองว่า ถ้าจะเป็นการแก้ไขทุกประเด็น ต้องแก้ไขใน ส.ส.ร. ส่วนในเรื่องของคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระไม่มีการปรับมากนัก ยกตัวอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำหนดไว้ต้องมีกรรมการ 9 คน ซึ่งมีการปรับในรายละเอียดว่าจะต้องมีบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านไหน เท่าไหร่ เพื่อให้มีผู้ประกอบวิชาชีพรวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ในด้านภาพรวมนั้นไม่มีการปรับ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ ทางพรรคประชาชนมีการประเมินสถานการณ์นี้อย่างไรบ้าง นายพริษฐ์ ตอบว่า ตนไม่แน่ใจว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ได้เขียนบทบัญญัติที่ไม่ให้องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองหรือไม่ เพราะคนที่คัดเลือกองค์กรอิสระเข้ามาคือ สว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำให้เป็นที่ถกเถียงและเกิดคำถามว่าถูกครอบงำจากกลุ่มก้อนทางการเมือง ซึ่งตนอยากให้ตั้งหลักจุดตรงนี้ก่อน เพราะเวลานี้กติกาถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองใดการเมืองหนึ่งหรือไม่
“เป้าหมายของพรรคประชาชน คือการทำให้องค์กรอิสระเป็นอิสระจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นอิสระจากประชาชน ซึ่งถ้าหากเรามองว่าบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย จะเป็นหลักประกันให้เรามั่นใจว่าคนที่ดำรงตำแหน่งนั้นจะปฏิบัติกับทุกฝ่ายตามกฎหมายบังคับใช้ และสามารถตรวจสอบทุกฝ่ายอย่างทัดเทียมกัน”
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงขั้นตอนหลังการรับร่างไปแล้ว ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะตรวจสอบรายชื่อ หากทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์จะมีการนัดประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่าย คือ วิป สว., วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล เพื่อตกลงกันว่าจะให้บรรจุระเบียบวาระได้เมื่อใด เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนการบรรจุระเบียบวาระของการประชุมรัฐสภา.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พรรคประชาชน ยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โละอำนาจ สว. โหวตเลือกองค์กรอิสระ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- พรรคประชาชน ยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โละอำนาจ สว. โหวตเลือกองค์กรอิสระ
- ผู้นำฝ่ายค้าน กังวลรัฐบาลเล่นตุกติก สอดไส้ร่าง พ.ร.บ.Entertainment Complex
- สว.ผวายุบสภา ฉุดแก้รัฐธรรมนูญสะดุด ได้กติกาใหม่ไม่ทันเลือกตั้งสมัยหน้า
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath