สวนนงนุชพัทยา โชว์ผลมะพร้าวทะเล 10 ลูก รอเกือบ 40 ปี ตกผลรวดเดียว
สวนนงนุชพัทยา สร้างความสำเร็จระดับโลก เพาะพันธุ์มะพร้าวทะเล (Coco de Mer) นำมาจากเกาะเซเชลส์สู่พัทยา ใช้ระยะเวลา 4 ทศวรรษ ตกผลรวดเดียว ปลอก “มะพร้าวทะเล” หายาก 9 ลูก พบเมล็ดแฝดรวม 10 ลูก มูลค่านับล้านบาท สะท้อนภารกิจอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากของไทยสู่เวทีโลก
17 กรกฎาคม 2568 - นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา นำทีมผู้เชี่ยวชาญพันธุ์พืช ร่วมปลอกผล “มะพร้าวทะเล” (Coco de Mer) หรือมะพร้าแฝด หรือที่ชาวโลกขนานนามว่า มะพร้าวก้นสาว ซึ่งเป็นผลไม้หายากระดับโลก จำนวน 9 ลูก ปรากฏว่า 1 ในนั้นให้เมล็ดแฝดเป็น 10 ลูก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง โดยแต่ละลูกมีมูลค่าสูงถึง 200,000 บาทขึ้นไป ทำให้ผลมะพร้าวทะเลที่สุกตกจากต้นในคราวเดียวกันครั้งนี้ มีมูลค่านับล้านบาทเลยทีเดียว
นายกัมพลเผยว่า มะพร้าวทะเล หรือมะพร้าวแฝด ถือเป็นพันธุ์มะพร้าวที่มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์เด่นที่มีลักษณะคล้ายก้นสาว ถือเป็นพันธุ์ไม้หายาก จัดเป็นปาล์มชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่บนเกาะเล็กๆ ในหมู่เกาะซีเซลล์ ในมหาสมุทรอินเดีย ได้รับการบันทึกในกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ว่าเป็นพืชที่มีเมล็ดใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับ มะพร้าวทะเล 1 ต้น ต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 3 ทศวรรษ (30 ปี) จึงจะออกลูก และใช้เวลา 5-7 ปี ผลถึงจะสุก ส่วนมะพร้าวทะเลที่ปอกให้ชมในวันนี้ ลูกที่น้ำหนักมากสุด 5.7ก.ก. สวนนงนุชพัทยา จะนำไปเพาะปลูกขยายพันธุ์ และใช้เป็นพันธุ์ไม้แลกเปลี่ยนจากทั่วโลก
สวนนงนุชพัทยา ในฐานะสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ ปัจจุบันได้รวบรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลกกว่า 18,000 ชนิด โดย “มะพร้าวทะเล” เป็นหนึ่งในพืชหายากที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์อย่างพิถีพิถัน ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์มะพร้าวทะเลได้แล้ว 229 ต้น นับได้ว่ามีจำนวนมากที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวงการพฤกษศาสตร์ไทย ที่ก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างภาคภูมิ