ปาฏิหาริย์ ลูกระเบิดกัมพูชาตกกลางศาล รูปปั้นปู่ตาไม่เป็นไร แต่บ้านพังยับ
25 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินไปบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านทุ่งประทาย ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกสะเก็ดระเบิดของกัมพูชากระเด็นใส่จนบ้านพรุนเป็นรูเสียหายทั้งหลัง
ด้านนางลำภา ยงย้อย อายุ 55 ปี พี่สาวของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านน้องสาว ที่สร้างไว้ให้พ่อกับแม่อยู่อาศัย ส่วนตัวน้องสาวเองไปทำงานที่ กทม. ในวันที่ระเบิดมาลง คือ วันที่ 24 ก.ค. เป็นวันเดียวกันกับที่ระเบิดลงเซเว่นบ้านผือ ที่อยู่ห่างไปประมาณ 5 กิโลเมตร ในวันนั้นตนและชาวบ้านทยอยอพยพออกจากหมู่บ้าน แต่ยังเหลือพ่อตนที่ไม่ยอมอพยพ ยืนยันว่าจะอยู่บ้าน เพราะพ่อเชื่อว่าระเบิดไม่มาตกที่บ้านเราหรอก หลังจากที่ระเบิดลงเซเว่นไม่กี่นาที ระเบิดก็มาตกที่ข้างบ้านตรงศาลปู่ตาพอดี
ปกติพ่อตนจะนอนเปิดทีวีดูในบ้าน แต่ช่วงที่ระเบิดลงนั้น พ่อเดินไปปัสสาวะที่ข้างบ้านพอดี ทำให้พ่อรอดตายอย่างหวุดหวิด จังหวะที่ลูกระเบิดลงนั้น สะเก็ดระเบิดกระเด็นเข้าบ้าน ทำให้ผนังบ้านหน้าต่างประตูกระจกหลังคาเสียหายหมด ถ้าพ่อไม่ลุกขึ้นไปปัสสาวะสะเก็ดระเบิดอาจจะโดนพ่อเต็มๆ
จากความเชื่อของคนในครอบครัวคิดว่า คงเป็นเพราะ "ศาลปู่ตา" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านที่พวกตนกราบไหว้บูชา ช่วยปกปักรักษาพ่อให้พ่อรอดตายรอดพ้นจากลูกระเบิด นอกจากนี้ลูกระเบิดที่ตกใส่ศาลปู่ตา ทำให้ศาลและเครื่องสังวาลย์พังเสียหายทั้งหมดเหลือเพียงรูปปั้นปู่ตาและองค์แม่ธรณีที่ยังอยู่ครบไม่เสียหายอะไรเลย
นางลำภา กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือในตอนนี้มีเจ้าหน้าที่เข้าประเมินความเสียหายให้บ้านหลังนี้ประมาณ 1 แสนกว่าบาท ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเงินแสนกว่าบาท ถ้าเทียบกับความเสียหายตนว่าไม่น่าจะพอ แต่ก็ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่เรือนจำนำผู้ต้องขังชั้นดีเข้ามาช่วยซ่อมแซมบ้านให้ ตอนนี้น้องสาวตนรู้สึกเป็นกังวลทั้งเสียขวัญกำลังใจ ทั้งเครียดที่บ้านพัง ไม่รู้ว่าบ้านจะกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมหรือไม่ เพราะน้องสาวต้องเก็บสะสมเงินหลายปี งบที่ใช่สร้างบ้านหลังนี้คือล้านกว่าบาท เงินทั้งหมดก็หมดไปกับการทำบ้านหลังนี้ น้องสาวตนหวังไว้ว่าจะได้มาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ในช่วงบั้นปลายชีวิต
วอนให้รัฐบาลเห็นใจพวกตนด้วย อยากให้เข้ามาช่วยเหลือทำบ้านให้เสร็จสมบูรณ์ และช่วยเหลือในเรื่องการเยียวยาจิตใจด้วย เพราะตอนนี้รายได้ในแต่ละเดือนก็ไม่พอใช่ ต้องเทียวไปเทียวมา เพราะความเป็นห่วงบ้านเป็นห่วงพ่อ พ่อตนก็ยังตื่นกลัวกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กล้าอยู่บ้าน น้องสาวต้องเอาไปอยู่ที่ กทม. ด้วย น้องสาวก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ค่ากินค่าอยู่ ค่าเช่าบ้าน อยากให้หน่วยงานรัฐเห็นใจและเข้ามาช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
โดยนายอรรถสิทธิ์ ทองแส ผบ.เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ สั่งการให้ นายธรกฤต ประชาราษฎร์ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นำผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 10 คน ที่มีความชำนาญด้านช่างก่อสร้าง มาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่พังเสียหายจากการปะทะด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยวันนี้ถือว่าลงมาช่วยประชาชนเป็นวันที่ 5 แล้ว ส่วนบ้านหลังนี้คาดว่าหน้าจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณเดือนกว่าถึงแล้วเสร็จจนสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้