พลิกปมร้อน! บิ๊กเต่าเปิดโปงเส้นทางเงินวัดพระบาทน้ำพุพันล้าน! ชี้เป้าคนใกล้ชิด 30 คนโยงใย พบชนวนแตกหัก “หมอบี” รักไม่เท่ากันถึงขั้นแฉกันเอง
วันที่ 27 ส.ค. 68 ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าคดีเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ ที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์และวงการบันเทิง โดยชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนของคดีที่เกี่ยวพันกับบุคคลใกล้ชิดถึง 30 คน และปมความขัดแย้งภายในที่จุดชนวนให้เรื่องแดงขึ้นมา!
ปมแตกหักจากรักสี่เส้า!
รองผู้บัญชาการฯ จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าปมหลักที่ทำให้เกิดการแฉความผิดปกติครั้งนี้ มาจากความขัดแย้งภายในของ “หมอบี” อดีตคนสนิทของ ทิดอลงกต ที่มีผู้หญิงใกล้ชิดถึง 4 คน โดย 3 คนสนิทมาก และอีก 1 คนสนิทห่างๆ ซึ่งเกิดปัญหารักไม่เท่ากัน! หนึ่งในสี่คนนี้ได้ให้ปากคำกับตำรวจถึงเรื่องราวทั้งหมด
ที่น่าตกใจคือ หมอบีได้เขียนหนังสือเพื่อโน้มน้าวให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ โดยอ้างว่า ผู้หญิงทั้ง 4 คนเป็นพี่น้องร่วมชาติภพกันมาก่อน! ซึ่งรองผู้บัญชาการฯ จรูญเกียรติ กล่าวอย่างไม่ปิดบังว่า “ฟังแล้วก็ตกใจ…หมอบีเก่งเรื่องการโน้มน้าวใจคน” แต่ก็ชี้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เรื่องรักใคร่เท่านั้น เพราะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่หมอบีโอนไปให้คนใกล้ชิดทั้ง 4 คนด้วย
เปิดโปงเส้นเงินพันล้าน! ลากคอคนใกล้ชิด 30 คน
จากการเข้าตรวจค้น 17 จุด เจ้าหน้าที่พบเงินสดจำนวนมาก และอาวุธปืนอีก 2-3 กระบอก ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักฐานทั้งหมด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่คาดว่ามีมูลค่าหมุนเวียนสูงถึง หลักพันล้านบาท! โดยเงินจำนวนนี้ถูกกระจายไปยังบุคคลใกล้ชิดของทิดอลงกตประมาณ 30 คน!
รองผู้บัญชาการฯ จรูญเกียรติ ย้ำว่าใครที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ฟอกเงิน ทั้งหมด และได้ประกาศเตือนให้ทุกคนที่ยังครอบครองทรัพย์สินของวัด ไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน หรือที่ดิน นำมาคืนวัดให้หมด หากไม่คืนถือว่ามีเจตนาทุจริต
เปิดคำสารภาพทิดอลงกต: “อลงกตการละคร” ฉ้อฉลประชาชน
นอกจากปมเรื่องเงินแล้ว ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกมากมายที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบสวน โดยรองผู้บัญชาการฯ จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ทิดอลงกตเคยให้การกับตำรวจว่าช่วงที่หายไปได้ไปทำงานก่อสร้างที่มาเลเซีย ไม่ใช่เป็นนักฟุตบอลอย่างที่เคยอ้าง
ส่วนเรื่องที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการนั่งรถเข็นของทิดอลงกต รองผู้บัญชาการฯ จรูญเกียรติ มองว่าเป็นการแสดง “อลงกตการละคร” เพื่อหลอกลวงประชาชน เพราะแท้จริงแล้วไม่มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีนี้ และมองว่าการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอชไอวีอาจเข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชน ได้ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของตำรวจคือการนำทรัพย์สินทั้งหมดกลับคืนสู่วัด จึงเน้นหนักที่ข้อหาตามมาตรา 147, 157 และข้อหาฟอกเงิน
ข่าวนี้จะนำไปสู่การออกหมายจับครั้งใหญ่หรือไม่ และอีก 30 คนที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินพันล้านบาทจะเป็นใครบ้าง ติดตามได้ในตอนต่อไป!
ข่าวที่น่าสนใจ