โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศบ.ทก. ยัน พร้อมตอบโต้กัมพูชา หากตรวจสอบแล้วพบเป็น ทุ่นระเบิดใหม่ ขออย่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวา - อธิปไตยของไทย

สยามรัฐ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริรองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า กรณีสถานการณ์เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่มีพลทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เหยียบกับระเบิด ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ. อุบลราชธานีว่า พลทหารทั้ง 3 นายมีอาการดีขึ้น และมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม ซึ่งทั้ง 3 นายได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งการรักษาเป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้ทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ทั้งนี้พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่า ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 มีมาตรการในการช่วยเหลือและมีสวัสดิการให้กับกำลังพล โดยการปูนบำเหน็จและเลื่อนชั้นยศเป็นสิบเอก และได้บำเหน็จเดือนละ 15,600 บาท เมื่อรวมเงินเดือนและเงินสนับสนุนจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน 29,800 ต่อเดือน นอกจากนี้ ยังได้รับเงินก้อนจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ กว่า 1 ล้านบาท

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า หน่วยงานราชการเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่กำลังพลได้เสียสละ จึงได้บรรจุทายาททดแทน ซึ่งพี่สาวของกำลังพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บ มีความประสงค์รับราชการ ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงจะได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภท 1 พร้อมกับได้บัตรทหารผ่านศึก ชั้นที่ 3 ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือในการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางตลอดชีวิต

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิด ปัจจุบันกองทัพบกได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ นปท. เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานและนำมาวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องของชนิด และห้วงเวลาในการวางทุ่นระเบิดว่า เป็นการวางระเบิดขึ้นมาใหม่หรือเป็นของเดิม ซึ่งจะมีการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ จะเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งไทยและกัมพูชา ถือเป็นประเทศภาคีอยู่ในอนุสัญญาดังกล่าวตั้งแต่ปี 2542

“พร้อมกันนี้ขอเน้นย้ำว่า ถ้ารัฐบาลไทยตรวจพบว่าเป็น ทุ่นระเบิดที่มีการวางใหม่ ฝ่ายไทยจะไม่เพิกเฉย นอกจากนั้น หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย เราก็จะดำเนินการและตอบโต้อย่างชัดเจนแน่นอน และย้ำว่าให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และฝ่ายไทยจะยึดมั่นในการใช้ข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นหลักการที่ยึดมั่นมาโดยตลอด เป็นไปตามหลักสากล โดยข้อมูลต่างๆ จะนำไปสู่การปฏิบัติของฝ่ายไทยต่อไป” พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีหญิงชาวกัมพูชาตะโกนใส่ทหารไทย ที่ปราสามตาเมือนธม กรณีนี้ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 16 ก.ค. เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปว่า หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวฝ่ายไทย ขอให้ชุดประสานปราสาทของฝ่ายไทยเป็นผู้ดำเนินการ แต่หากเป็นการก่อเหตุโดยนักท่องเที่ยวของกัมพูชา ชุดประสานปราสาทกัมพูชาจะเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้หากเกิดปัญหาในพื้นที่ การแก้ไขปัญหาจะให้ชุดประสานงานปราสาทในพื้นที่ที่อยู่บนปราสาทฝ่ายละ 7 คน เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยไม่ต้องเรียกกำลังชุดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ยังให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่ายก่อนขึ้นมาท่องเที่ยว โดยเชื่อว่ามาตรการทั้ง 3 ข้อ จะสามารถแก้ไขปัญหา นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบนปราสาทได้

ขณะที่นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จุดผ่านแดนทุกแห่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงมาตรการไม่ปิดด่าน แต่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน รวมถึงการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องนี้ ตามที่ได้มีการประกาศไว้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งได้ตั้งข้อสังเกต ถึงความจริงจังของฝ่ายกัมพูชาว่า จะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลก็ต่อเมื่อ มีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย

นางมาระตี กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ศบ.ทก.ได้หารือถึงผลกระทบของมาตรการควบคุมการผ่านแดนของธุรกิจ และผู้ประกอบการจากต่างประเทศ โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาตระหนักถึงมิติดังกล่าวด้วยว่า ในบริบทความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศสมาชิกอาเซียน ต้องเข้าใจว่ามีประโยชน์ร่วมกันที่จะส่งเสริมให้ประชาคมระหว่างประเทศมองว่า ภูมิภาคอาเซียนมีความสงบและเป็นสถานที่น่าลงทุน การปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล และการระงับการนำเข้าสินค้า อาจกระทบต่อการค้าระหว่างภูมิภาคและโลกอย่างมีนัยสำคัญ

นางมาระตี กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานีระหว่างที่กองทัพบกดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิดของเก่าหรือของใหม่ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ และเมื่อรับทราบผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยปัจจุบันทั้งไทย-กัมพูชา ต่างเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งข้อบทแรกคือ ห้ามใช้ ห้ามผลิต และรัฐภาคี มีหน้าที่ที่ต้องทำลายคลังทุ่นระเบิดที่มีอยู่ โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นเจ้าภาพการประชุมทบทวนอนุสัญญา ครั้งที่ 5 เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ทั้งนี้หากการตรวจสอบแล้วพบหลักฐานที่เป็นที่ประจักษ์ จะถือว่าขัดต่อพันธกรณีของอนุสัญญา ซึ่งฝ่ายไทยจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงโดยตรงกับฝ่ายกัมพูชาตามกรอบทวิภาคี และมาตรการอื่นๆ ตามความเหมาะสม โดยเฉพาะหากพบว่าเป็นการละเมิด MOU 2543 หรือการละเมิดอธิปไตยของไทย

นางมาระตี กล่าวว่า ขอย้ำว่าไทยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยมีพันธกรณี ฝ่ายไทยยังยืนยันที่จะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดผ่านกลไกที่มีอยู่ ทั้งการหารือในคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา (เจบีซี) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบรับเข้าร่วมการประชุมเจบีซี สมัยพิเศษ ที่ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพช่วงเดือน ก.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ ฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบรับเข้าร่วมการประชุมเจบีซีดังกล่าว เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียด รวมถึงการใช้ทวิภาคีอื่นๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ไทยจะใช้ช่องทางใช้ช่องทางที่เป็นทางการสื่อสารกับฝ่ายกัมพูชา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

รวบ"เสือปุ่น" หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้อง ปล้นเงิน 3.4 ล้าน ตุ๋นแลกคริปโต จนมุมบ้านเช่า จ.ปทุมธานี

33 นาทีที่แล้ว

โคราช ชวนเที่ยว “วันผลไม้และของดีวังน้ำเขียว” สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน

42 นาทีที่แล้ว

รัฐมนตรี "สรวงศ์" ร่วมถกภาครัฐ-เอกชนพัทยา ฟื้นฟูความเชื่อมมั่นด้านความปลอดภัย นทท.

48 นาทีที่แล้ว

"ภราดร" ลงพื้นที่หารือในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการใช้ถนน ทางหลวงแผ่นเดินหมายเลข 309

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

"ธนาธร" เชื่อ พรรคประชาชน ยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่มีดีลแลกผลประโยชน์

THE ROOM 44 CHANNEL

กู่ไม่กลับ! ‘ธนาธร’ ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน

ไทยโพสต์

กองทัพเร่งสอบเหตุ ทหารเหยียบระเบิด ชายแดนไทย-กัมพูชา

TNN ช่อง16

ธนาธร เชื่อ ยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ รัฐบาล ต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ

MATICHON ONLINE

ธนาธร มั่นใจ ปชน.ยึดอุดมการณ์ ยันไร้ดีลแดง-น้ำเงิน เผยโทรหา 'อนุทิน' แค่กดผิด

MATICHON ONLINE

ธนาธร ลั่นอย่าเพิ่งหมดหวังแก้ รธน. แนะทำประชามติ พร้อมเลือกตั้งใหญ่ ลดงบประมาณ

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม