โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

อยากเปลี่ยนนิสัยการกิน? เริ่มจากความเข้าใจ ไม่ใช่การบังคับ

TOJO NEWS

อัพเดต 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 6.18 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sattawat Veranon

“พรุ่งนี้จะไม่กินของหวานแล้ว”
“จะไม่หลุดอีกเด็ดขาด”
ประโยคเหล่านี้ดูจริงจัง มีไฟ และเปี่ยมด้วยเจตนาดี…
แต่ทำไมพอผ่านไปแค่ไม่กี่วัน เราก็กลับมาที่เดิมอีก?

คำตอบคือ เรามักเริ่มต้นจาก “ความพยายามบังคับตัวเอง” แทนที่จะเริ่มจาก “ความเข้าใจตัวเอง”
และนั่นแหละ…คือกับดักที่ทำให้การเปลี่ยนนิสัยการกินล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิสัยการกิน = ภาพสะท้อนของใจ

ก่อนจะเปลี่ยนอะไร เราต้องเข้าใจก่อนว่า นิสัยการกินของเราไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ
แต่มันมาจากหลายปัจจัยในอดีต เช่น

  • ความเชื่อที่บ้านสอนว่า “กินให้หมดจานคือเด็กดี”
  • ประสบการณ์วัยเด็กที่ถูกให้รางวัลด้วยขนม
  • ความเครียดสะสมที่ทำให้เรากินเพราะอยากรู้สึกดีชั่วคราว
  • หรือแม้แต่ความเบื่อ ที่ทำให้เราเปิดตู้เย็น ทั้งที่ไม่ได้หิวเลย

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่เข้าใจว่า “ทำไมเรากินแบบนี้” การเปลี่ยนแปลงก็จะเหนื่อยและไม่ยั่งยืน

ความเข้าใจ สำคัญกว่าความเข้มงวด

หลายคนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกินด้วย “ความตั้งใจแน่วแน่” เช่น:

  • หักดิบเลิกน้ำตาล
  • งดแป้งเด็ดขาด
  • ชั่งน้ำหนักทุกเช้า
  • ลงโทษตัวเองถ้าหลุด

แต่ความเคร่งแบบนี้อาจทำให้เราเครียด อึดอัด และสุดท้ายก็ระเบิดเป็นการหลุดหนักกว่าเดิม

ลองเปลี่ยนจาก "ต้องควบคุม" → "ต้องเข้าใจ"
และจาก “ห้ามกินเด็ดขาด” → “เลือกกินอย่างรู้ตัว”

วิธีเปลี่ยนนิสัยการกินแบบอ่อนโยน แต่ยั่งยืน

1. ฟังร่างกาย ไม่ใช่เสียงในหัว

  • หยุดก่อนกิน แล้วถามตัวเองว่า "หิวจริง หรือแค่เบื่อ/เครียด?"
  • ฟังความอิ่ม อย่าฝืนกินให้หมดเพราะ “เสียดาย”

2. กินช้าลงอีกนิด เพื่อให้รู้สึก

  • เคี้ยวช้าๆ พักช้อนเป็นระยะ
  • สังเกตรสชาติ กลิ่น เนื้อสัมผัส และความรู้สึกในร่างกาย
  • ยิ่งช้า ยิ่งรู้ว่าจุดไหนคือ “พอ” โดยไม่ต้องอิ่มจนแน่น

3. จดบันทึก “อารมณ์ก่อนกิน”

  • เขียนบันทึกสั้นๆ ก่อนมื้ออาหาร เช่น “รู้สึกยังไงก่อนกิน?”
  • บางทีแค่รู้ว่าเรากินเพราะเหงา ไม่ใช่หิว ก็ช่วยให้เราหยุดทัน

4. ให้อภัยตัวเองเวลาเผลอหลุด

  • การหลุด 1 มื้อ ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างพัง
  • ความอ่อนโยนต่อตัวเองจะช่วยให้เรากลับมาได้ง่ายขึ้นกว่าการโทษตัวเอง

สรุป

การเปลี่ยนนิสัยการกิน ไม่จำเป็นต้องเริ่มจาก “การบีบตัวเอง”
แต่ควรเริ่มจาก “การฟังใจตัวเอง” และเข้าใจว่าอาหารไม่ใช่ศัตรู
มันคือสิ่งที่เราเรียนรู้จะอยู่กับมันอย่างสันติ เพื่อให้สุขภาพดีขึ้นทั้งกายและใจในระยะยาว

อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา

Line Today TOJO NEWS , ToJoNews

#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #นิสัย #พฤติกรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TOJO NEWS

ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้หายไป… แค่คุณอาจเหนื่อยเกินไปจะเข้าถึงมัน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จัดการ “ความรู้สึกผิด” ที่เกาะอยู่ในใจแบบไม่รู้ตัว

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อยู่กับความไม่แน่นอนยังไง โดยไม่รู้สึกหลุดลอย?

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทำไมเราถึง “หมดไฟ” ทั้งที่ไม่ได้ทำงานหนัก?

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

ประโยชน์ “น้ำผลไม้สกัดเย็น” ต่างจากน้ำผลไม้อื่นอย่างไร?

PPTV HD 36

อัพเดท ประกันสังคม ตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการมีอะไรบ้าง พร้อมรายชื่อรพ.ให้บริการ

ฐานเศรษฐกิจ

ชี้เป้า กลุ่มเสี่ยง กทม. ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 2,400 โดส

ฐานเศรษฐกิจ

ออกกำลังกายแบบใจเย็น: ทำไมช้าๆ ถึงได้ผลยาวกว่า

TOJO NEWS

ทำยังไงเมื่อรู้สึกว่า “เป้าหมายที่ตั้งไว้…ไม่ใช่ของเราอีกต่อไป”

TOJO NEWS

สร้างพื้นที่ปลอดภัยในใจตัวเอง: เริ่มจากตรงไหนดี?

TOJO NEWS

การนอนหลับสำคัญแค่ไหนต่อสุขภาพจิตและร่างกาย?

TOJO NEWS

วิธีเริ่มออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่เคยเริ่ม

TOJO NEWS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...