ปตท.ขยายลงทุนโรงแยกอากาศ MAP2 มุ่งหน้าสู่ Net Zero Emissions
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จับมือบริษัท บีไอจี เดินหน้าขยายการลงทุนโรงงานแยกอากาศแห่งที่ 2 หรือโครงการ MAP2 ในพื้นที่มาบตาพุด โดยมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนอุตสาหกรรมไทยให้เข้าถึงก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำคุณภาพสูง และขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions
พิธีลงนามแก้ไขสัญญาผู้ถือหุ้นของ บริษัท มาบตาพุด แอร์โปรดักส์ จำกัด มีนายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. เป็นประธาน พร้อมด้วยนายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. และนายรามานี คาธีร์ เวลู กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีไอจี ร่วมลงนาม
โครงการ MAP2 จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1 ปี 2569 โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่นำพลังงานความเย็นเหลือทิ้งจากกระบวนการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาใช้ในกระบวนการแยกอากาศ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 100,000 ตันต่อปี
นายรามานี เวลู กล่าวว่า โครงการ MAP2 จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทยในหลากหลายสาขา ทั้งปิโตรเคมี ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร ด้วยก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำที่ตอบโจทย์แนวโน้มสิ่งแวดล้อมระดับโลก พร้อมย้ำความมุ่งมั่นของทั้ง ปตท. และ บีไอจี ในการขับเคลื่อนโครงการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
ทั้งนี้ MAP2 ถือเป็นการต่อยอดจากโครงการ MAP1 ที่ส่งมอบก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เช่น ออกซิเจน ไนโตรเจน และอาร์กอน ให้ภาคอุตสาหกรรม พร้อมโซลูชันลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) โดยช่วยลดการปล่อย CO₂ ได้เฉลี่ยปีละ 93,000 ตัน (ช่วงปี 2565 – 2567) ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกยกระดับใช้ในโครงการ MAP2 เพื่อเพิ่มศักยภาพอีกขั้น
ปตท. ยืนยันว่าการลงทุนใน MAP2 เป็นอีกก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และตอบโจทย์พันธกิจของกลุ่ม ปตท. ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของประเทศ