กรมเชื้อเพลิงฯ เร่งเครื่องสำรวจปิโตรเลียม คาดใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดยื่นสิทธิสำรวจบนบกครั้งที่ 25 เบื้องต้น 5 บริษัทชั้นนำ ยื่น 8 คำขอสิทธิแล้ว เชื่อสร้างความมั่นคงพลังงานชาติลดพึ่งพานำเข้า สร้างงานในพื้นที่ เตรียมสรุปผลภายใน ธ.ค. นี้ ก่อนชง ครม. อนุมัติการลงทุน คาดใช้เงินลงทุนกว่า2 พันล้านบาท
นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบก ครั้งที่ 25 ภายใต้ระบบสัมปทาน ว่ากรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ประสบความสำเร็จในการเปิดรับข้อเสนอจากบริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม โดยมีผู้ยื่นขอสิทธิฯ รวมทั้งสิ้น 5 ราย และมีจำนวนคำขอรวม 8 คำขอ ภายหลังจากเปิดรับระหว่างวันที่ 1-16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สำหรับผู้ที่ยื่นขอสิทธิฯ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย :
- บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 3 คำขอ
- แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด และ CanAsia Energy Corp. จำนวน 1 คำขอ
- บริษัท จีโอเมคคานิคอล เซอร์วิสเซส จำกัด จำนวน 1 คำขอ
- อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 คำขอ
- บริษัท ยูเอซี ยูทิลิตีส์ จำกัด จำนวน 2 คำขอ
นายวรากรกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับรายชื่อผู้ยื่นขอสิทธิฯ แล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะดำเนินการพิจารณาและประเมินข้อเสนอของแต่ละบริษัทอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยยึดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 นี้
จากนั้น กรมฯ จะนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะประกาศผลผู้ชนะและดำเนินการลงนามในสัมปทานต่อไป
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเชื่อมั่นว่า โครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้จะก่อให้เกิด การลงทุนขั้นต่ำกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในหลายมิติ
“โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานเท่านั้น แต่ยังจะช่วยสร้างรายได้และการจ้างงานในพื้นที่ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างสูงสุด” นายวรากรกล่าวย้ำถึงประโยชน์ของโครงการ