ด่วน! คนไทยขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกา ต้องจ่ายเพิ่มอีก 8 พันบาท คาดมีผล 1 ต.ค.นี้
วันนี้ (วันที่ 18 กรกฏาคม 2568) สำนักข่าว CNN รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกา เตรียมประกาศใช้กฎหมายใหม่ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการทำวีซ่าเพิ่มอีก 250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,000 บาท กับผู้ขอวีซ่าชั่วคราวทุกประเภท โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ชื่อว่า “Visa Integrity Fee” สำหรับชาวต่างชาติที่ยื่นขอวีซ่าชั่วคราว เช่น วีซ่าท่องเที่ยว,ธุรกิจ (B1/B2) , นักเรียน หรือวีซ่าทำงาน เมื่อรวมกับค่าวีซ่าเดิม 185 ดอลลาร์ ผู้ยื่นวีซ่าจะต้องจ่ายรวม 435 ดอลลาร์ แม้ยังไม่มีประกาศวันเริ่มเก็บอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของสหรัฐฯ
ค่าธรรมเนียมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย “One Big Beautiful Bill Act” ลงนามโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งลงนามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมาย ในการเพิ่มความเข้มงวดด้านการเข้าเมืองและเพิ่มรายได้จากผู้เดินทางเข้าอเมริกาอย่างถูกกฎหมาย โดยสหรัฐฯ อ้างว่าเพื่อ ชดเชยต้นทุนที่ใช้ในการบริหารและควบคุมผู้อพยพผิดกฎหมาย รักษาพื้นที่ชายแดน รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงจากระบบวีซ่าชั่วคราว บางฝ่ายมองว่าอาจกระทบการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง
ดังนั้นคนไทยที่ต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้าสหรัฐอเมริกา อาจต้องจ่ายเงินรวมสูงถึง 435 ดอลลาร์ หรือกว่า 14,000 บาท เมื่อรวมกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ที่เพิ่มอีก 250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,000 บาท
อย่างไรก็ตามก็ยังมีพลเมืองจาก 42 ประเทศใน Visa Waiver Program ที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ชื่อว่า “Visa Integrity Fee” อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรีย ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม บรูไน ชิลี สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ กรีซ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิราเอล อิตาลี ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ นอร์เวย์ โปแลนด์ สเปน สวีเดน กาตาร์ โปรตุเกส สวิสเซอร์แลนด์
ต่อเรื่องนี้วงการท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา ออกโรงโอดครวญว่า นโยบายนี้ไม่ต่างอะไรกับการ "ตั้งกำแพงภาษี" สกัดกั้นนักท่องเที่ยว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมอุตสาหกรรมที่กำลังซบเซาอยู่แล้ว และที่น่าเจ็บใจคือ เงินจำนวนมหาศาลนี้จะถูกส่งเข้ากระทรวงการคลังของสหรัฐฯ โดยไม่ได้นำกลับมาพัฒนาการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
ทั้งการขึ้นค่าวีซ่าครั้งนี้สร้างความกังวลในวงการท่องเที่ยว โดยสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ ระบุว่า “ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ไม่ต่างจากภาษีนำเข้าในรูปแบบใหม่” และอาจกระทบการเดินทางในปี 2026 ซึ่งสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ใครบ้างที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มเข้าสหรัฐ และต้องจ่ายเท่าไร?
- ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่ามาตรฐาน: 185 ดอลลาร์ (คงเดิม)
- ค่าธรรมเนียมของวีซ่า: 250 ดอลลาร์ (ใหม่)
- ค่าธรรมเนียมแบบฟอร์มการมาถึง/ออกเดินทาง I-94: 24 ดอลลาร์
- ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (เช่น ESTA หรือ EVUS): 13–30 ดอลลาร์ รวมแล้วค่าวีซ่าประเภท B-1/B-2 (ท่องเที่ยว/ธุรกิจ) จะพุ่งจาก 185 ดอลลาร์เป็น 472 ดอลลาร์
- ประเภทวีซ่าที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่: B-1/B-2 – นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ, F-1 – นักเรียน , H-1B – ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง, J-1 – ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ดีก็ยังมีข่าวว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอาจพิจารณา "คืนเงิน" ค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้ หากนักท่องเที่ยวปฏิบัติตัวดี เป็นไปตามเงื่อนไขวีซ่าทุกประการ เช่น เดินทางกลับประเทศตามกำหนด หรือได้รับการขยายสถานะชั่วคราวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเปลี่ยนแปลงสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมาย
ผู้ที่มีแผนขอยื่นวีซ่า ควรติดตามรายละเอียดจากสถานทูตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมความสมบูรณ์ของวีซ่า ที่แม้จะไม่สามารถคืนได้โดยทั่วไป แต่หากปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น ออกจากประเทศตรงเวลา หรือไม่ทำงานผิดกฎหมาย อาจมีสิทธิ์ขอคืนเงินบางส่วนได้