มาม่า-ฟาร์มเฮ้าส์ ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ เน้น "กระจายพอร์ต-ลงทุนเชิงรุก"
เวทีเสวนา"นักวิเคราะห์ นักลงทุน พบกลุ่มสหพัฒน์" ครั้งที่ 14 ปี 2568 ภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 สองบริษัทลูกหม้อในเครือสหพัฒน์ มาม่า-ฟาร์มเฮ้าส์ แสดงวิสัยทัศน์สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและแรงกดดันรอบด้านทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกและทิศทางด้านการลงทุนในอนาคต
มาม่า "กระจายพอร์ต-บุกต่างประเทศ"
“พันธ์ พะเนียงเวทย์” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” ผู้คุมบังเหียนตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2.9 หมื่นล้านบาท เผยถึงแนวทางการสร้างการเติบโตในอนาคต โดยมีบทเรียนสำคัญจากวิกฤตต้นทุนที่เคยพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2540 และ 2551 ซึ่งในปี 2551 เป็นปีที่มาม่าปรับขึ้นราคาหลังเผชิญต้นทุนราคาน้ำมันปาล์มและแป้งสาลี บริษัทจำเป็นต้องปรับขึ้นราคามาม่าเป็นครั้งที่สองเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดทุนมหาศาลราว 200-300 ล้านบาท ณ ตอนนั้น
หลังจากวิกฤตการณ์ครั้งนั้น นายพันธ์ เล่าต่อว่า TFMAMA ได้ปรับกลยุทธ์สำคัญเพื่อสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจ ผ่านกระจายพอร์ตรายได้ ลดการพึ่งพิงรายได้จากตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยมีการส่งออกที่แข็งแกร่งขึ้น จากเดิมไม่ถึง 20% ของยอดขายรวม ซึ่งการจำหน่ายมาม่าในต่างประเทศไม่มีการควบคุมราคา ทำให้เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญในการประคองผลประกอบการเมื่อตลาดในประเทศเผชิญความท้าทาย
ทั้งนี้บริหารกระแสเงินสดและลงทุนใน 3 แกนหลัก ให้ความสำคัญกับการรักษากระแสเงินสด และนำไปลงทุนใน 3 ขาหลักที่สำคัญ ได้แก่
- การลงทุนต่างประเทศ: เพื่อสร้างฐานการผลิตและจำหน่ายในตลาดที่มีศักยภาพ
- การขายในประเทศ: ยังคงเป็นแกนหลักที่ต้องรักษาการเติบโต
- การลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง: เน้นกิจการที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจหลักและมีความถนัด
ทั้งนี้ผลประกอบการปี 2567 สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ โดยมีกำไรสุทธิรวม 3,565.46 ล้านบาท แบ่งเป็น
- กำไรจากการขายในประเทศ: 1,490 ล้านบาท (เติบโต 42%)
- ยอดขายต่างประเทศ: 951.11 ล้านบาท (เติบโต 27%)
- รายได้จากการลงทุนอื่น ๆ: 792.18 ล้านบาท (เติบโต 22%)
- รายได้อื่น ๆ: 331.38 ล้านบาท (เติบโต 9%)
ฟาร์มเฮ้าส์ ลงทุนในนวัตกรรม-กระจายช่องทาง หวังรับมือการแข่งขัน
นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปังรายใหญ่ภายใต้แบรนด์ "ฟาร์มเฮ้าส์" เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดขนมปังและเบเกอรี่มูลค่า 4 หมื่นล้านบาทในปัจจุบันว่าอยู่ในภาวะทรงตัวตามสภาพเศรษฐกิจที่ยังผันผวนและภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดยังคงดุเดือด ทำให้ฟาร์มเฮ้าส์ต้องเร่งปรับกลยุทธ์รับมือ
เพื่อรับมือกับปัจจัยท้าทายและรักษาการเติบโต ฟาร์มเฮ้าส์ได้ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกหลายด้าน ทั้งในด้านนวัตกรรมสินค้าและแบรนด์ดิ้ง มีการออกสินค้าใหม่ทุกปี พร้อมกับการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย มีการลงทุนในสายการผลิตและพลังงาน มีการลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อขยายไลน์การผลิต และมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานในระยะยาว
พร้อมลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม 9 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้า และลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยตั้งเป้ามีรถ EV จำนวน 100 คันภายในปีนี้ เพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิงและรองรับเทรนด์การขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายช่องทางการจำหน่าย ลงทุนในตู้หยอดเหรียญ โดยตั้งเป้ามี 500 ตู้ภายในปีนี้ และคาดว่าจะมีถึง 1,000 ตู้ภายในสิ้นปี ซึ่งเป็นการขยายช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคที่สะดวกและทันสมัย
การปรับตัวและลงทุนอย่างต่อเนื่องของทั้ง TFMAMA และฟาร์มเฮ้าส์ สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของเครือสหพัฒน์ในการบริหารจัดการธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน โดยมุ่งเน้นการสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลาย การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการดำเนินงาน รวมถึงการลงทุนในนวัตกรรมและช่องทางใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต