ตลาด M&A โลกซบเซาครึ่งปีแรก “เอเชีย-สหรัฐ” จุดประกายหวังเมกะดีลครึ่งปีหลัง
สงครามการค้า-ดอกเบี้ยสูง ฉุดกิจกรรมควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ทั่วโลกครึ่งปีแรกต่ำกว่าคาด แม้มูลค่ารวมแตะ 2.14 ล้านล้านดอลลาร์จากดีลขนาดใหญ่ในเอเชียและอเมริกาเหนือ ขณะดีลเมกะระดับ 50,000 ล้านดอลลาร์มีแนวโน้มกลับมา
วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เวลา 08.03 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาพรวมกิจกรรมควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ต่ำกว่าที่ธนาคารเพื่อการลงทุนคาดหวังไว้ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่าภาพรวมเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก โดยเฉพาะดีลขนาดใหญ่ในเอเชีย และความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวในตลาดสหรัฐ อาจเป็นแรงส่งให้เกิดเมกะดีลในช่วงครึ่งปีหลัง
โดยสงครามการค้าภายใต้นโยบายวันปลดปล่อย เมื่อ 2 เมษายน ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกชะลอตัว หลายดีลและแผนเสนอขายหุ้นใหม่ (IPO) ต้องเลื่อนออกไป
ทอมมี่ รูเกอร์ หัวหน้าร่วมฝ่ายตลาดทุนหุ้นโลกของ UBS กล่าวว่า “ทุกฝ่ายคาดหวังว่าครึ่งปีแรกจะมีดีลจำนวนมาก แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นเช่นนั้น” พร้อมระบุว่าความปั่นป่วนเริ่มคลี่คลาย และตลาดมีแนวโน้มกลับมาคึกคักในช่วงครึ่งปีหลัง
ข้อมูลจาก Dealogic ระบุว่า มูลค่าดีลทั่วโลกตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 27 มิถุนายน อยู่ที่ 2.14 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จำนวนดีลลดลงจาก 20,583 รายการ เหลือ 17,528 รายการ แต่ขนาดดีลใหญ่ขึ้น โดยดีลที่มีมูลค่าเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 62%
นักวิเคราะห์จากหลายสถาบัน เช่น Bank of America และ Morgan Stanley เชื่อว่าแนวโน้มการเกิดดีลขนาดใหญ่มูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ มีโอกาสสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายแข่งขันทางการค้าของรัฐบาลทรัมป์ที่ผ่อนคลายลง
ขณะเดียวกันดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ ช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวก นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับมาลงทุนในตลาดหุ้น และหลายบริษัททยอยฟื้นแผน IPO ที่ถูกเลื่อนออกไป
โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเป็นจุดสว่างของตลาดโลก โดยมูลค่าดีลครึ่งปีแรกพุ่งแตะ 5.839 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 27.3% ของมูลค่าดีลทั่วโลก นำโดยญี่ปุ่นและจีน
ดีลขนาดใหญ่ในภูมิภาค ได้แก่ โตโยต้า ประกาศแผนซื้อกิจการซัพพลายเออร์รายหนึ่ง มูลค่า 33,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อ 3 มิ.ย. กลุ่ม ADNOC จากอาบูดาบี ร่วมทุนซื้อกิจการ Santos ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของออสเตรเลีย มูลค่า 18,700 ล้านดอลลาร์ เมื่อ 16 มิ.ย.
ราฆาฟ มาลิอาห์ รองประธาน Goldman Sachs มองว่า แนวโน้มกิจกรรม M&A ในเอเชีย โดยเฉพาะระหว่างประเทศในภูมิภาคเดียวกัน (Asia-to-Asia) จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยญี่ปุ่นยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
แม้ตลาดผันผวนจากสงครามการค้า แต่ปริมาณการออกหุ้นใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 8% แตะ 350,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนดัชนีวัดความผันผวนตลาด (VIX) ปรับลดลง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มฟื้นกลับมา
ดีลขนาดใหญ่ที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดในช่วงที่ผ่านมา เช่น Global Payments ซื้อกิจการด้านการประมวลผลบัตร มูลค่า 24,250 ล้านดอลลาร์, Charter Communications ซื้อกิจการ Cox Communications มูลค่า 21,900 ล้านดอลลาร์ และ Chart Industries และ Flowserve ควบรวมกิจการ มูลค่ารวม 19,000 ล้านดอลลาร์
อ้างอิง : reuters.com