วัดอนาคตภาษีทรัมป์ ความท้าทายทางกฎหมายรออยู่ข้างหน้า
ยิ่งใกล้ 1 ส.ค. สหรัฐยิ่งเดินหน้าทำข้อตกลงกับคู่ค้า ล่าสุดคือสหภาพยุโรป แต่อำนาจเก็บภาษีหว่านแหของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการทำข้อตกลงการค้าหลายฉบับเมื่อเร็วๆ นี้ อาจต้องเผชิญข้อกฎหมายในไม่ช้า
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า สัปดาห์นี้ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐมีกำหนดฟังคำให้การในคดีดังท้าทายอำนาจทรัมป์ในการเก็บภาษีกับทุกประเทศในทุกช่วงเวลา ที่ทรัมป์มองมาตลอดว่าจำเป็นต้องทำเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของชาติ
รัฐบาลทรัมป์อ้างว่า การเก็บภาษีอย่างกว้างขวางเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ หรือ IEEPA
การเก็บภาษีครั้งใหญ่สุดของทรัมป์ อาทิ กฎหมายเกี่ยวข้องกับเฟนทานิลที่เก็บจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน รวมทั้งภาษีศุลกากร “ตอบโต้” ที่ประกาศไว้เมื่อต้นเดือน เม.ย. ล้วนเป็นผลจากกฎหมายฉบับนี้
ปลายเดือน พ.ค. ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐพิพากษาว่า ทรัมป์ใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต IEEPA แต่ศาลอุทธรณ์เขตอำนาจรัฐบาลกลางระงับคำพิพากษาดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ภาษีมีผลบังคับใช้ต่อไปขณะที่คดีความของทรัมป์กำลังดำเนินอยู่
คดีที่รู้จักกันในนามกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กยื่นฟ้องทรัมป์ (V.O.S. Selections v. Trump) เป็นคดีที่ไปได้ไกลที่สุดในบรรดาคดีความกว่าครึ่งโหลที่ฟ้องทรัมป์ มีกำหนดให้การด้วยวาจาต่อศาลรัฐบาลกลางช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.)
“ผมคิดว่าภาษีกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง” เท็ด เมอร์ฟีย์ หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่ายการค้าโลก บริษัทกฎหมายซิดเลย์ ออสติน กล่าวกับซีเอ็นบีซี พร้อมอธิบายว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่เคยถูกใช้ด้วยวัตถุประสงค์นี้มาก่อน และกำลังถูกใช้อย่างกว้างขวาง “ผมจึงคิดว่ามีคำถามเรื่องความชอบธรรม”
IEEPA ให้อำนาจส่วนหนึ่งแก่ทรัมป์ เพื่อจัดการกับเรื่องเร่งด่วนของชาติที่มาจาก “ภัยคุกคามไม่ปกติจากภายนอก” นั่นคือภัยคุกคามทั้งหมดหรือส่วนใหญ่มาจากภายนอก
แต่ทนายความตัวแทนโจทย์โต้ว่า กฎหมายไม่ได้อนุญาตให้เขาเก็บภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว
"ไม่มีตรงไหนเลยที่ IEEPAกล่าวถึงภาษีศุลกากร ภาษีอากร ภาษีนำเข้า หรือภาษีใดๆ และไม่มีประธานาธิบดีคนใดในประวัติศาสตร์เกือบ 50 ปีของกฎหมายอ้างว่าได้อนุมัติให้เรียกเก็บภาษีศุลกากร” ข้อมูลจากทนายโจทย์ระบุในเอกสารสรุปของศาลในเดือนนี้
แต่ทนายของทรัมป์และรัฐบาลแย้งว่า สภาคองเกรสให้อำนาจประธานาธิบดีเก็บภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติมานานแล้ว ถ้อยคำในกฎหมายที่ให้สิทธิแก่ทรัมป์ในการ “ควบคุม … การนำเข้า” หมายความว่าเขาสามารถใช้สิทธินั้นเพื่อกำหนดภาษีศุลกากรได้
ไม่ว่าศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางจะตัดสินอย่างไร คดี V.O.S.ดูเหมือนว่าต้องไปถึงศาลสูงที่ฝ่ายอนุรักษนิยมครองเสียข้างมาก 6 ต่อ 3 โดยผู้พิพากษาสามคนได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งยังหวังว่าภาษีตาม IEEPA ของทรัมป์จะถูกยกเลิก
“ทรัมป์จะแพ้ต่อเนื่องในศาลชั้นต้นๆ และเราเชื่อว่าศาลสูงไม่น่าพิพากษาเข้าข้างเขา” เหล่านักวิเคราะห์การเมืองจากไพเพอร์ แซนด์เลอร์เขียนในรายงานเมื่อเช้าวันศุกร์ (25 ก.ค.)
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความพ่ายแพ้ดังกล่าวจะส่งผลให้พัฒนาการด้านการค้าแทบทุกอย่างที่ทรัมป์ได้ยึดถือเป็นความสำเร็จในช่วงหกเดือนแรกของการดำรงตำแหน่งต้องล่มสลาย
“ถ้าศาลสูงพิพากษาค้านทรัมป์ ดีลการค้าทุกฉบับที่ทรัมป์บรรลุเมื่อเร็วๆ นี้ และที่จะบรรลุต่อไปล้วนผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับบรรดาจดหมายที่เขาแจ้งอัตราภาษีใหม่กับนานาประเทศที่ตอนนี้ต่ำสุด 10% และภาษีศุลกากรตอบโต้ที่เขาจะเก็บหรือขู่จะเก็บ” นักวิเคราะห์กล่าว
ยังไม่ชัดเจนว่า ทุกสิ่งที่ไพเพอร์ แซนด์เลอร์อธิบายมานั้นสอดคล้องกับ IEEPA หรือไม่ ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้ทรัมป์ประกาศแค่กรอบเค้าโครงข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เท่านั้น โดยที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตามช่วงกลางเดือนมิ.ย.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งของฝ่ายบริหารระบุว่าเขาจะใช้กฎหมายอำนาจฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับสหราชอาณาจักร
เดือนนี้ทรัมป์ส่งจดหมาย 25 ฉบับไปถึงผู้นำแต่ละคน ระบุอัตราภาษีใหม่ที่ประเทศนั้นๆ ต้องเจอเมื่อส่งสินค้ามายังสหรัฐ เริ่มวันที่ 1 ส.ค. ทรัมป์บอกว่าจดหมายนี้เป็นข้อตกลงการค้าทวิภาคีไปในตัว
จดหมายเหล่านั้นไม่ได้อ้างอิงถึง IEEPA โดยตรง แต่ถ้อยคำในจดหมายสะท้อนถึงข้อโต้แย้งเดียวกันเกี่ยวกับการค้าที่ไม่เป็นธรรม การขาดดุล และความมั่นคงของชาติ ที่ทรัมป์อ้างถึงในระหว่างการเริ่มต้นใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้
“รัฐบาลใช้อำนาจภาษีอย่างถูกกฎหมายและเป็นธรรม เป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและสภาคองเกรสยอมรับ เพื่อสร้างการแข่งขันได้ให้กับคนงานอเมริกัน และปกป้องความมั่นคงแห่งชาติเรา” คุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับซีเอ็นบีซี แต่ไม่ยืนยันว่า จดหมายถึงที่ทรัมป์เขียนถึงผู้นำและอัตราภาษีที่กำหนดในการทำข้อตกลงการค้าใช้อำนาจตาม IEEPA แต่ที่ยืนยันได้คือการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิลในอัตรา 50% ใช้อำนาจตาม IEEPA
ที่น่าแปลกคือจดหมายไม่ค่อยได้เน้นไปที่การค้า แต่เน้นความไม่พอใจของทรัมป์ต่อการที่บราซิลปฏิบัติกับอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้ต้องคดีสนับสนุนให้มีการรัฐประหารพลิกผลการเลือกตั้งปี 2022 ที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
- คดีอื่นๆ
หนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้ารัฐบาลกลางออกคำตัดสินคดี V.O.S.ในเดือนพ.ค.รูดอล์ฟ คอนเทรราส ผู้พิพากษาศาลแขวงก็ได้มีคำตัดสินในคดีที่บริษัทเลิร์นนิงรีสอร์ซฟ้องทรัมป์ ณ ศาลรัฐบาลกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
คณะผู้พิพากษาสามคนในคดี V.O.S. พบว่าภาษีศุลกากรบางส่วนที่ทรัมป์กำหนดไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย IEEPA แต่คอนเทรราสพิพากษาว่าตัวกฎหมาย IEEPA ไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีดำเนินการด้านภาษีใดๆ แต่เพียงฝ่ายเดียวรัฐบาลยื่นอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาดังกล่าวที่ศาลอุทธรณ์เขตดีซี ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับคำพิพากษาของคอนเทรราส และกำหนดให้มีการโต้แย้งด้วยวาจาในคดีนี้ในวันที่ 30 ก.ย.
อีกสองคดีในศาลรัฐบาลกลาง คดีหนึ่งฟ้องโดยรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนอีกหนึ่งคดีสมาชิกชนพื้นเมืองแบล็กฟีตยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในมอนแทนา กำหนดให้การด้วยวาจาแยกกันในวันที่ 17 ก.ย. ณ ศาลอุทธรณ์ เขต 9
นอกจากนี้ยังมีอีกอย่างน้อยสามคดีค้างอยู่ในศาลการค้าระหว่างประเทศจนกว่าคดี V.O.S. เป็นอันสิ้นสุด