“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนจับตาท่าทีเฟดหลังตัวเลขแรงงานสหรัฐแกร่ง
"ตลาดหุ้นเอเชีย" เปิดการซื้อขายวันที่ 25 ก.ค.ในแดนลบ หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ จากข้อมูลแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าคาด ส่งผลให้แรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงชะลอตัวทั่วทั้งภูมิภาค
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ตลาดหุ้นเอเชีย เริ่มต้นวันซื้อขายลดลง (25 ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐ และการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งได้ลดแรงจูงใจในการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
- *ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ 41,760.58 จุด ลดลง 65.76 จุด หรือ -0.16%*
- *ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดที่ 25,531.59 จุด ลดลง 135.59 จุด หรือ -0.53%*
- *ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน เปิดที่ 3,604.45 จุด ลดลง 1.28 จุด หรือ -0.04%*
- *ดัชนี KOSPI เกาหลีใต้ ปรับตัวลง 0.20%*
- *ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ลดลง 0.41%*
โดยแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในวันนี้ มาจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานรายงานว่า ลดลง 4,000 ราย มาอยู่ที่ 217,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยัง ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ยังร้อนแรง
ผลจากข้อมูลนี้ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ โดย FedWatch Tool ของ CME Group แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย มากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29–30 กรกฎาคมนี้ ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25–5.50% ต่อไป
นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันรวมถึง JPMorgan และ Goldman Sachs ระบุว่า การคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงอาจดำเนินต่อไปอีกระยะ หากยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดแรงงานและเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างยั่งยืน