โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เขมร, ขอม, ขแมร์, กัมปูเจีย, กัมพูชา, แคมโบเดีย แต่ละคำในภาษาเขมรมาจากไหน?

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพประกอบ - อักษรเขมรโบราณ ศิลาจารึกปราสาทบันทายศรี พุทธศตวรรษที่ 16

เขมร, ขอม, ขแมร์, กัมปูเจีย, กัมพูชา, แคมโบเดีย แต่ละคำในภาษาเขมรมาจากไหน?

เขมร, ขอม, ขแมร์, กัมปูเจีย, กัมพูชา, แคมโปเดีย เป็นคำที่อยู่ในความรับรู้ของคนไทย ยิ่งช่วงนี้เราคงได้ยินคำเหล่านี้บ่อยขึ้น แล้วคำในภาษาเขมรเหล่านี้มาจากไหน?

ผศ. อัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์หลักสูตรไทยศึกษา วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลแบบย่อพอเข้าใจง่ายว่า

“เขมร” เป็นคำเก่าที่สุดที่พบในจารึกสมัยก่อนเมืองพระนคร เดิมคือ “เกมร” นักวิชาการสันนิษฐานว่า มาจากคำว่า “กัมพุช” + “เมรา” คือ ชื่อฤาษีกับนางฟ้ารวมกัน แต่เดิมใช้ “ก” ต่อมาเขียนด้วย “ข”

“ขอม” ตามรูปศัพท์ เป็นการกร่อนเสียงจากคำว่า “กะโรม” หรือ “กะหล๋อม” แปลว่า อยู่ข้างล่าง ต่อมากร่อนเสียงเป็น “ขอม” ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ทั้ง ศิลาจารึก, ตำนาน, พงศาวดาร หลายเล่ม เป็นคำที่ใช้เรียกคนอื่นที่อาศัยอยู่ทางใต้ของตน

กล่าวแต่เฉพาะในบริบทของไทย ซึ่งหมายถึง “อยุธยา” นั้น ถ้าเห็นคำว่า “ขอม” ในเอกสารสมัยกรุงศรีอยุธยา จะหมายถึง “เขมร” คือ อาณาจักรและผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของอยุธยา เช่น ละแวก เป็นต้น หมายความว่า “ขอม” สำหรับอยุธยา คือ เขมร

“กัมปูเจีย” มาจากตอนที่ประเทศนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Democratic Kampuchea สมัยเขมรแดงปกครอง

“กัมพูชา” มาจากคำว่า “กัมโพชะ” เป็นชื่อแคว้นโบราณในชมพูทวีป และยังเป็นชื่อฤาษีด้วย

“แคมโบเดีย” มาจาก “Kingdom of Cambodia” ซึ่งเป็นชื่อประเทศในปัจจุบัน

“ขแมร์” และ “กัมปูเจีย” เป็นการออกเสียงของคนปัจจุบันในประเทศกัมพูชา

ด้าน ผศ. ดร. กังวล คัชชิมา อาจารย์สาขาวิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็แลกเปลี่ยนข้อมูลว่า

“เกมร” กับ “กัมพุชา” ถ้าว่าตามหลักฐานที่เป็นจารึก “เกมร” เกิดก่อนคำว่า “กัมพุชา” อย่างน้อยเกือบ 200 ปี ที่บอกว่ามาจาก “กัมพุ” + “เมรา” เป็น “เกมร” เป็นข้อสันนิษฐานของนักวิชาการเขมร ดังนั้นคำว่า “เกมร” บางทีอาจไม่สามารถแปลความหมายได้ เหมือน ไท พม่า มอญ ซึ่งเป็นคำเรียกชื่อกลุ่มคน ที่เรามักจะสันนิษฐานเอาภายหลัง

ส่วนคำว่า “กัมปุเจีย” (Cambodia) ก็คือคำว่า “กัมพุชา” เพียงแต่เขมรออกเสียง “ช” + “-า” ว่า เจีย (พยัญชนะกลุ่มหนึ่ง+สระอา ออกเสียงเป็น เอีย) เหมือนอ่าน “เสียมราบ” เป็น “เสียมเรียบ” หรืออ่านคำว่า “มิตรภาพ” เป็น “มิตตะเพียบ” หรืออย่างพระเขมรสวด “อิติปิโส ภควา” เป็น “เอะเตะเปะซอ เพียะเคียะเวีย” นั่นเอง

“คำว่า ‘กัมวุ’ หรือ ‘กัมพุ’ ปรากฏครั้งแรกที่จารึกบ่ออีกา เมืองเสมา พ.ศ. 1411 ซึ่งเป็นจารึกของเมืองศรีจนาศะ ในคำว่า ‘กมฺวุเทศานฺตเร’ แปลว่า ภายนอกดินแดนแห่งกัมพุ หลังจากนั้นจึงเริ่มปรากฏชื่อนี้ในสมัยพระเจ้าอินทรวรมัน ยโศวรมัน จนกระทั่งที่เล่าเรื่องราวจริงจังในจารึกปราสาทปักษีจำกรุง ที่กล่าวถึงฤษีกัมพุ กับนางอัปสรเมรา” ผศ. ดร. กังวล ให้รายละเอียด

แม้คำในภาษาเขมรที่กล่าวมาจะหลากหลาย และมีที่มาต่างกันไปตามยุคสมัย แต่อย่างหนึ่งคือคำเรียกเหล่านี้ไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการพยายามหาทางจัดการแก้ไขข้อพิพาท โดยเฉพาะเรื่องเขตแดน และหาทางอยู่ร่วมกันอย่างสันติให้ได้มากที่สุด ซึ่ง ผศ. อัครพงษ์ ย้ำถึง 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องว่า

1. เรากำลังทะเลาะถกเถียงกับกัมพูชาเรื่องข้อพิพาท “การปักหลักเขตแดน” และ “เส้นเขตแดน” ใช่หรือไม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มจากความไม่ลงรอยกันเรื่องเขตแดน ซึ่งควรจำกัดการแก้ปัญหาอยู่ที่การหาหลักฐานประเภทสนธิสัญญาและแผนที่ ที่ส่งผลโดยตรงทางกฎหมายต่อการตัดสินว่า “3 ปราสาท 1 พื้นที่” เป็นของใคร ระหว่างไทยหรือกัมพูชา

2. แต่เราไม่แก้ปัญหาที่ข้อ 1 เรากลับดึงเอาปัญหาอื่นเข้ามาร่วมสุมไฟกองนี้ให้ใหญ่ขึ้นไปอีก จนตอนนี้ปัญหาขยายไปพัวพันกับประเด็นอื่นจนยากจะแก้ไข แทนที่จะจำกัดอยู่แต่ประเด็นด้าน “กฎหมาย”

“สุดท้าย ข้อที่ 3. ประเด็นคำเรียกชื่อ ‘ประเทศ’ และ ‘คน’ นั้น เราจะรณรงค์ให้เรียกคำไหน? ไปเพื่ออะไร? จุดประสงค์ของการเรียกชื่อต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลทางกฎหมายต่อปัญหาในข้อ 1 อย่างไร ? ถ้าเรียกชื่อนั้น ชื่อนี้ แล้วจะแก้ปัญหาที่มีอยู่ หรือจะทำให้เรามีชัยชนะ และ/หรือเกิดความได้เปรียบทางกฎหมายอย่างไร หรือจะยิ่งไปเพิ่มปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น อันนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆ ครับ”

ที่มา : ผศ. ดร. อัครพงษ์ ค่ำคูณ

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 สิงหาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เขมร, ขอม, ขแมร์, กัมปูเจีย, กัมพูชา, แคมโบเดีย แต่ละคำในภาษาเขมรมาจากไหน?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

พระองค์ผิว เจ้าหญิงกัมพูชาที่มีเชื้อสายไทย พระมารดาเป็นคนไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตัวละครรามเกียรติ์ไทย ทำไมมีสีกายหลายสีสัน? ทั้งที่ต้นฉบับ (อินเดีย) ไม่มีสี!

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

“ปืนพระราม 6” มีที่มาอย่างไร? ใช้ในกองกำลังใดของไทย? ใช้ครั้งแรกเมื่อใด?

ศิลปวัฒนธรรม

7 อาหารย้อนวัย กินแล้วไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม เสริมความเปล่งปลั่ง ดูเด็กลง!

sanook.com

ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ยังไงให้เวิร์ก? นักวิจัยถอดสูตรสำเร็จ 3 ข้อ

กรุงเทพธุรกิจ

A Quiet Place ภาค 3 จะเข้าฉายวันที่ 9 ก.ค. 2027 ภายใต้การกำกับของ John Krasinski คนเดิม

THE STANDARD

พันธุ์ไทย ขยายตลาด สปป.ลาว ผุด “ปันคาเฟ่” (Puncafe) สาขาใหม่

Insight Daily

“โดรนในการรบ” หรือ “โดรนทางทหาร” มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง!?

สยามรัฐวาไรตี้

โรบินสันไลฟ์สไตล์ ฉลองเทศกาลวันแม่ เปิดตัว “Happy Mother’s Day รางวัลแห่งความสุข ของคุณแม่แห่งปี”

new18

Omazz เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ใจกลางเมืองเก่าภูเก็ต

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

เขมร, ขอม, ขแมร์, กัมปูเจีย, กัมพูชา, แคมโบเดีย แต่ละคำในภาษาเขมรมาจากไหน?

ศิลปวัฒนธรรม

ทำไมเรียก "ซุบหน่อไม้" ทั้งที่เมนูฮิตในร้านส้มตำนี้ไม่เหมือน soup แบบ "ซุปฝรั่ง"

ศิลปวัฒนธรรม

เลิฟซีนแรกของ “หนุมาน” กับ “นางบุษบามาลี” อัปสรต้องคำสาป

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...