สภาฯไฟเขียวงบกลาง6.32 แสนล. 'ชวน' ร้องเยียวยาไฟใต้-'จุลพันธ์'โยนครม.
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระสอง
ช่วงบ่ายที่ประชุมได้เข้าสู่การพิจารณา มาตรา6 งบกลาง ที่กมธ.ปรับลดเหลือ 632,968,750,000ล้านบาท จากเดิม 633,968,750,000บาท
สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายแสดงความเห็นหลากหลาย อาทิ การให้นำงบประมาณค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000ล้านบาท เยียวยาผู้ประกอบการ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการค้าสหรัฐฯให้มีประสิทธิ ภาพสูงสุด การนำเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนให้เกิดประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ในส่วนของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็นในงบกลางปีนี้ ได้รับ 99,000ล้านบาท ส่วนหนึ่งถูกนำไปเยียวยาทหารและประชาชน
จากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ตามมติครม.วันที่ 5ส.ค.ที่ระบุว่า ทหารเสียขีวิต ได้เงิน10ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 1ล้านบาท ประชาชนเสียชีวิตได้ 8ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 8แสนบาท เทียบกับเหตุความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เงินเยียวยาน้อยกว่า เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เหลื่อมล้ำ พื้นที่ชายแดนใต้มีระเบิด ขาขาด ไม่ต่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลเรียกร้องความสามัคคี แต่ความสามัคคีจะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่เลือกปฏิบัติ มติครม. 5ส.ค.
ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้ดูแลความมั่นคง พื้นที่อื่นๆที่มีความเสี่ยงควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่ากันหรือไม่ ถ้ายังไม่คิดก็เสนอให้คิด
รวมถึงคนบาดเจ็บ พิการจากเหตุการณ์ความไม่สงบ พอจะมีโอกาสใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น มาเพิ่มให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บ พิการหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความน้อยใจ
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า ในส่วนของการชดเชย ขณะนี้ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ จากเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชาไปแล้วประมาณ 300ล้านบาท ใช้งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น
แต่จะดำเนินการเลยไปยังกลุ่มอื่นๆที่สมาชิกได้มีความห่วงใยตนขอรับข้อสังเกตไปหารือกับครม. ส่วนที่สมาชิกถามว่าจะสามารถให้คำตอบได้หรือไม่วันนี้ตนมาในฐานะกมธ.งบประมาณ คงไม่สามารถตอบได้ด้วยตัวคนเดียวแม้จะใช้ฐานะรมช.คลังเพราะเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการผ่านครม.แต่ขอรับข้อห่วงใยและนำไปปรึกษาหารือต่อไป
หลังจากสมาชิกอภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา6 ด้วยคะแนน 250ต่อ137 งดออกเสียง7 ไม่ลงคะแนน2