ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย เหมือนกันไหม ? แชร์ทริคเมคอัพกลบถุงใต้ตา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ มีใครเคยส่องกระจกแล้วเจอกับ ‘ ถุงใต้ตา ’ ที่มันดูบวมๆ ตุ่ยๆ จนมองเห็นได้อย่างชัดเจนบ้างรึเปล่า? ทุกคนทราบไหมว่าถุงใต้ตาไม่ได้เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นกับวัยผู้ใหญ่เท่านั้น เพราะวัยรุ่นวัยใสอย่างเราๆ ก็มีโอกาสเจอกับถุงใต้ตาที่มันดูบวมตุ่ยได้เหมือนกัน
บางคนอาจมองว่าถุงใต้ตาช่วยให้ใบหน้าดูหวานๆ แบ๊วๆ แต่ถ้าใต้ตาบวมฉึ่งแถมยังหมองคล้ำ ก็อาจทำให้ดวงตาดูเศร้าหมองไม่สดใส เหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วงแทนได้เช่นกัน แล้วสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังสงสัยอยู่ในตอนนี้ว่า ถุงใต้ตา มันเกิดขึ้นได้ยังไง ? ทำไมบางคนมีแต่บางคนไม่มี ? หรือ ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันยังไง ? วันนี้ทางเราก็ได้ไปหาคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ แถมยังหยิบวิธีลดถุงใต้ตาและทริคเมคอัพที่จะช่วยกลบจุดด้อยและเสริมให้ดวงตาดูหวานกรุบมาฝากกันด้วยนะ เอาละ! รีบตามไปดูพร้อมกันเลย
・・・・・・・・・・・・
ถุงใต้ตา คืออะไร ?
เริ่มต้นด้วยการไขข้อสงสัยของคำถามยอดฮิตที่ว่า‘ ถุงใต้ตา ’ คืออะไร ? ก่อนเลยดีกว่าค่ะ ถุงใต้ตาที่ดูบวมๆ ตุ่ยๆ ก็คือ การที่เนื้อเยื่อรอบดวงตาและกล้ามเนื้อบางส่วนอ่อนแอลง ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไขมันและของเหลวมารวมตัวกันบริเวณใต้ตา จนสังเกตเห็นถุงใต้ตาบวมๆ ได้อย่างชัดเจนนั่นเองค่ะ ยิ่งผิวร่วงโรยตามวัยก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ แล้วยิ่งทำให้ถุงใต้ตาทั้งบวมและดำคล้ำมากขึ้น จนกลายเป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนกังวลใจ เพราะจะส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สดใส แถมยังทำให้แต่งหน้ายากและต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร ?
คำถามข้อต่อมาที่หลายคนสงสัยหนักมากไม่แพ้กันก็คงหนีไม่ ‘ ถุงใต้ตา ’ เกิดจากอะไร? ใช่มั้ยละคะ การที่ถุงใต้ตาบวมเป่งแบบสุดๆ นั่นก็เพราะสาเหตุ ดังนี้
- กรรมพันธุ์ ปัญหาถุงใต้ตาจากกรรมพันธุ์เกิดจากการที่ระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ฮอร์โมนที่ควบคุมการไหลเวียนของเหลวในร่างกายไม่ปกติตามไปด้วย และทำให้ไขมัน ของเหลวต่างๆ มารวมตัวกันที่บริเวณใต้ตาจนกลายเป็นถุงใต้ตาที่มองเห็นได้ชัด ถุงใต้ตาที่เกิดจากกรรมพันธุ์มักจะเกิดขึ้นในระยะยาว และสังเกตเห็นได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ
- ภูมิแพ้ ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อากาศ แพ้อาหาร หรือแพ้อะไรก็ตาม ก็มีโอกาสจะเจอปัญหาถุงใต้ตาได้ง่ายค่ะ เพราะอาการของภูมิแพ้จะทำให้เกิดการคันและระคายเคืองรอบดวงตา รวมทั้งเส้นเลือดดำบริเวณรอบดวงตาขยายตัวใหญ่ขึ้นจนทำให้ผิวบริเวณใต้ตาบวมขึ้น ปรากฎเป็นรอยคล้ำใต้ตาด้วยค่ะ
- อายุที่มากขึ้น อย่างที่เราแอบเกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ค่ะ เพราะยิ่งอายุมากขึ้นกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาก็เริ่มหย่อนคล้อยและอ่อนแอลง ทำให้ไขมันและของเหลวเคลื่อนตัวลงมารวมกันที่บริเวณใต้ตาจนกลายเป็นถุงใต้ตาบวมๆ หย่อนๆ นั่นเอง
・・・・・・・・・・・・
เช็กพฤติกรรมทำถุงใต้ตาบวมตุ่ย มีอะไรบ้าง ?
แม้ว่าสาเหตุของถุงใต้ตามันจะเกิดจากกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ หรือผิวร่วงโรยตามวัยเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมบางอย่างที่เราทำจนชิน อาจเป็นตัวการกระตุ้นให้ถุงใต้ตาบวมเป่ง ใต้ตาดำ หรือผิวรอบดวงตาดูอิดโรยได้เหมือนกัน ว่าแล้วก็รีบตามไปเช็กพฤติกรรมที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาด่วนๆ เลย
ไม่เช็ดเครื่องสำอางก่อนนอน หลายคนพอกลับถึงบ้านมาเหนื่อยๆ นอกจากจะไม่อาบน้ำแล้วก็ยังขี้เกียจล้างหน้า นอนหลับไปพร้อมกับเมคอัพตลอดคืน การไม่เช็ดเครื่องสำอางก่อนนอนอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผิวทั้งแดง คัน และบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปิดทางให้สารพัดปัญหาผิวตามมา ทั้งสิว ผิวเหี่ยวย่น ถุงใต้ตา ฯลฯ
กินอาหารรสเค็มจัด ใครที่ติดนิสัยชอบกินอาหารรสเค็ม นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ค่ะ เพราะในอาหารรสเค็มมีปริมาณโซเดียมสูง โซเดียมจะกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้มากขึ้นพอกินอาหารรสเค็มเข้าไปในปริมาณมากๆ จึงส่งผลให้ตัวบวม หน้าบวม และถุงใต้ตาบวมง่ายขึ้น
นอนดึก / พักผ่อนไม่เพียงพอ ใครที่ชอบนอนดึกหรือโต้รุ่งเป็นประจำแทบทุกวันจนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย อารมณ์ รวมไปถึงผิวพรรณด้วยนะคะ เพราะการนอนน้อยอาจทำให้ผิวแห้ง เลือดสูบฉีดได้ไม่ดี ใต้ตาคล้ำ และเห็นถุงใต้ตาบวมๆ ชัดเจนขึ้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวจนอ่อนแอลงเยอะเลย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สายปาร์ตี้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือดื่มเป็นประจำทุกวัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเป็นตัวการทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ค่ะ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและถุงใต้ตาดูบวมขึ้นอีกด้วย
สูบบุหรี่ อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ทำลายสุขภาพ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรง แถมการสูบบุหรี่ยังทำร้ายผิวด้วยเหมือนกันนะคะ โดยการสูบบุหรี่จะส่งผลให้วิตามินซีในร่างกายลดลง แล้ววิตามินซีถือเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว พอปริมาณวิตามินซีลดลงก็จะทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยผิวเหี่ยวย่น และเกิดปัญหาผิวรอบดวงตาอย่างใต้ตาดำและถุงใต้ตาด้วย
・・・・・・・・・・・・
ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย เหมือนกันไหม ?
บางคนอาจสับสนว่าถุงใต้ตากับดอลลี่อายเป็นสิ่งเดียวกัน มีถุงใต้ตาแล้วไง? ออกจะน่ารักโต่วอินทเหมือน พส จีน หยุดความคิดนี้ก่อนค่ะ เพราะถุงใต้ตา (Under-eye bags) กับ ดอลลี่อาย (Dolly eyes) ไม่เหมือนกัน ถึงจะอยู่บริเวณเดียวกันใต้ดวงตา แต่ทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ลักษณะ สาเหตุ เลยนะคะ
ถุงใต้ตา (Under-eye Bags) มีลักษณะบวมตุ่ยใต้ตา จากไขมันสะสม หรือของเหลวคั่ง เป็นปัญหาความงามที่หลายคนอยากลดหรือกำจัดออกไป สาเหตุมาจาก อายุ , การนอนน้อย , พฤติกรรมการกิน , โรคภูมิแพ้ ลักษณะของถุงใต้ตาจะดูบวม เหี่ยวย่น อ่อนล้าและทำให้หน้าเราดูเหนื่อย ดูแก่ลง
ดอลลี่อาย (Dolly Eyes หรือ Aegyo-sal) เป็นกล้ามเนื้อใต้ตาที่นูนขึ้นเล็กน้อยเมื่อยิ้ม หรือที่เรียกว่า ไขมันใต้ตาน่ารัก ช่วยให้ตาดูโต สดใส และมีเสน่ห์แบบเด็กๆ ดอลลี่อายไม่ใช่ปัญหาผิว แต่เป็นการเสริมความงาม ได้รับความนิยมจากไอดอลเกาหลี เพราะทำให้ใบหน้าดูน่ารัก (คล้ายตุ๊กตา จึงเรียกว่า Dolly Eyes) ลักษณะดอลลี่อายจะเป็นเส้นนูนเล็กๆ ชิดขอบตาล่าง ต่างจากถุงใต้ตาที่อยู่ต่ำกว่า และจะเห็นชัดเวลายิ้ม
・・・・・・・・・・・・
ถุงใต้ตาแท้ กับ ถุงใ้ต้ตาเทียม ต่างกันยังไง ?
เคยได้ยินไหมคะว่า ถุงใต้ตามันมีทั้งแบบ แท้ และ เทียม แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าถุงใต้ตาที่เรามีเป็นลักษณะไหน ทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร ลองไปดูกันค่ะ
ถุงใต้ตาเทียม (Pseudo Eye Bags หรือ ถุงใต้ตาเทียมจากการบวมน้ำ) ถุงใต้ตาจะบวมชั่วคราว จากการคั่งของน้ำหรือของเหลว ไม่ใช่ไขมันจริงๆ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของเรา เช่น นอนดึก กินเค็ม ดื่มแอลกอฮอล์ ฮอร์โมนแปรปรวน เป็นต้น ลักษณะของถุงใต้ตาเทียมจะบวมไม่แน่นอน บางวันบวม บางวันไม่บวม มักเห็นชัดตอนตื่นนอน แล้วจะค่อยๆ ยุบลง เกิดด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า และกดลงแล้วอาจรู้สึกเป็นน้ำๆ ซึ่งถุงใต้ตาเทียมสามารถหายได้ อาจไม่จำเป็นต้องทำการรักษา แค่ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา นอนให้พอ, ดื่มน้ำเยอะๆ , ลดกินเค็ม ใช้การประคบเย็นหรือครีมลดบวมช่วยก็จะหายไปได้
ถุงใต้ตาแท้ (True Eye Bags) เกิดจาก ไขมันใต้ตาดันออกมา เนื่องจากกล้ามเนื้อและผิวหนังใต้ตาเสื่อมสภาพตามอายุ หรือกรรมพันธุ์ ทำให้ถุงไขมันนูนชัดอย่างถาวร ลักษณะของถุงใต้ตาแท้จะตุ่ยตลอดเวลา มักเกิดทั้งสองข้างเท่ากัน สัมผัสแล้วนิ่มๆ ไม่ยุบหายไปแม้พักผ่อนเพียงพอ ซึ่งถุงใต้ตาแท้ใช้ครีมอาจไม่ค่อยเห็นผล ฟิลเลอร์ช่วยบ้าง ในกรณีถุงไม่ใหญ่มาก แต่การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นทางออกดีที่สุดที่จะทำให้ถุงใต้ตาแท้หายไป
・・・・・・・・・・・・
มีถุงใต้ตาบอกโรค จริงไหม ?
คำถามว่า มีถุงใต้ตาบอกโรคได้จริงไหม? ต้องบอกว่า บางกรณีอาจใช่ แต่ไม่เสมอไป ค่ะ โดยทั่วไป การมีถุงใต้ตาไม่ได้หมายถึงโรคโดยตรง แต่มัน อาจเป็นสัญญาณบางอย่างของความผิดปกติในร่างกายได้ โดยเฉพาะถ้าถุงใต้ตาเกิดขึ้นผิดปกติ กะทันหัน หรือรุนแรงร่วมกับอาการอื่น ไปดูกันว่าการมีถุงใต้ตาอาจบอกโรคไหน และอาการเป็นอย่างไรได้บ้าง เพื่อนๆ ลองไปสังเกตตัวเองดูนะคะ
โรคไต
- อาการ : ถุงใต้ตาบวมตอนเช้า และมีอาการบวมร่วมทั้งใบหน้า เท้า หรือขา ด้วย
- สาเหตุ : การทำงานของไตผิดปกติ ทำให้ร่างกายขับน้ำและของเสียได้ไม่ดี จนมีอาการบวมน้ำ
โรคภูมิแพ้ เช่น ไซนัสอักเสบ, แพ้อากาศ
- อาการ : บวมใต้ตา คันตา น้ำมูกไหล จาม
- สาเหตุ : เยื่อบุจมูกอักเสบ ทำให้เกิดการอักเสบหรือคั่งของเหลวรอบดวงตา
ปัญหาการนอน หรือ นอนไม่หลับเรื้อรัง
- อาการ : ถุงใต้ตาชัด ตาคล้ำ เหนื่อยง่าย
- สาเหตุ : ร่างกายไม่ฟื้นฟูขณะหลับ มีการไหลเวียนน้ำเหลืองไม่ดี ทำให้คั่งใต้ตาได้
ภาวะขาดน้ำ
- อาการ : ผิวดูแห้ง หย่อน ผิวใต้ตาไม่กระชับ ทำให้ถุงใต้ตาดูชัดขึ้น
- สาเหตุ : ดื่มน้ำน้อย จึงทำให้ร่างกายต้องพยายามกักน้ำไว้ และทำให้บวมน้ำนั่นเอง
โรคตับ
- พบได้น้อย แต่บางครั้งมีอาการบวมคล้ายถุงใต้ตาร่วมกับตัวเหลือง ตาเหลือง
เห็นแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปก่อน เพราะถุงใต้ตาส่วนใหญ่เป็น “ปัญหาทางความสวยความงาม” มากกว่า “สัญญาณโรคร้าย” นะคะ แต่ก็ต้องไม่ลืมสังเกตตัวเองหากถุงใต้ตาบวมพร้อมกับมีอาการอื่นร่วมด้วย หรือบวมผิดปกติ ก็ควรพบแพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อความสบายใจต่อไป
・・・・・・・・・・・・
รวมวิธีลดถุงใต้ตา ทำตามง่ายและได้ผล
ชาวซิสที่รู้สึกว่าถุงใต้ตาของตัวเองมันไม่คิ้วท์ๆ น่าเอ็นดูเหมือนดอลลี่อาย อยากจะลดอาการบวมของถุงใต้ตาด้วยตัวเองที่บ้าน ทางเราก็ไม่พลาดที่จะรวบรวม วิธี ‘ ลดถุงใต้ตา ’ ที่ทั้งทำตามง่ายและได้ผลมาฝากกันค่ะ
- ประคบเย็น
วิธีลดอาการบวมของถุงใต้ตาที่ง่ายที่สุดแบบไม่ต้องพึ่งครีมราคาแพงก็คือการประคบเย็นค่ะ เพียงแค่นำช้อน แตงกวา หรือผ้าชุบน้ำไปแช่เย็น แล้วนำออกมาพันด้วยผ้าบางๆ เพื่อปกป้องผิวจากความเย็นจัด ก่อนประคบผิวบริเวณรอบดวงตา การประคบเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็วและลดบวมได้ค่ะ
- ประคบด้วยถุงชา
ใครที่ชอบดื่มชาเป็นประจำก็เลือกใช้วิธีประคบด้วยถุงชา เพื่อลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้นะคะ เพราะในชามีคาเฟอีนที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณมาก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงผิวหนังส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้น ลดรอยหมองคล้ำและถุงใต้ตาอย่างมีประสิทธิภาพ แค่นำถุงชาแช่น้ำนาน 3 - 5 นาที แล้วนำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นบีบน้ำออกจากถุงชา แล้วประคบถุงชาใต้ตาประมาณ 15 - 30 นาที เท่านี้ก็ช่วยลดบวมได้ง่ายๆ แล้ว
- ทาครีมบำรุงที่มีเรตินอล
เวลาที่เกิดปัญหาผิวบริเวณรอบดวงตา วิธีแก้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการใช้อายครีมนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่ถุงใต้ตาบวมตุ่ย ก็แนะนำให้เลือกใช้อายครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล เพราะเรตินอลจะเข้าไปช่วยเติมคอลลาเจนให้ผิว ลดปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาและถุงใต้ตาด้วย
- นอนหนุนหมอนสูง
ขณะนอนหลับฝันหวานในช่วงเวลากลางคืน ก็สามารถใช้เทคนิคการนอนหมอนสูงเพื่อลดถุงใต้ตาได้นะคะ โดยการนอนหนุนหมองสูงขึ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ของเหลวไหลมาสะสมบริเวณผิวใต้ตา จึงช่วยลดปัญหาตาบวมหลังตื่นนอนไปได้นั่นเอง
- กินอาหารที่มีวิตามินซีสูง
แค่เลือกกินให้เป็นก็แก้ปัญหาถุงใต้ตาได้นะคะ ควรหันมากินอาหารที่มีวิตามินซีสูงให้มากขึ้น เช่น ส้ม บรอกโคลี สตรอว์เบอร์รี ฯลฯ เพราะวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ผิวดูสดใส แล้วยังช่วยลดถุงใต้ตาด้วยค่ะ
・・・・・・・・・・・・
แชร์ 5 ทริคเมคอัพกลบถุงใต้ตาบวมตุ่ย แต่งลุคให้ดวงตาดูสวยหวาน
คราวนี้ขอเอาใจสาวๆ ที่อยากจะใช้พลังของเมคอัพ เพื่อช่วยกลบจุดด้อยและเสริมจุดเด่นบ้างค่ะ เพราะเรามีทริคเมคอัพแต่งตาแบบง่ายๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนถุงใต้ตาที่ดูบวมตุ่ย ให้กลายเป็นลุคดวงตาสวยหวานน่ามองมากขึ้นกว่าเดิม ลองไปดูกันเลยค่ะ
1. ใช้คอนซีลเลอร์ 2 สี ( เทคนิค Triangular Highlight )
เทคนิคการใช้ คอนซีลเลอร์ 2 สีแบบ Triangular Highlight เป็นวิธีที่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพใช้บ่อยมาก เพื่อกลบถุงใต้ตาและทำให้หน้าแลดู สดใส ยกกระชับ ไม่โทรม โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปหรือออกงาน
วิธีทำ คือใช้คอนซีลเลอร์สีที่ สว่างกว่าสีผิว 1 เฉด ทาเป็นรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ (V คว่ำ) ใต้ตา แล้วแต้มคอนซีลเลอร์เข้มกว่านิดหน่อยบริเวณขอบถุงใต้ตา ช่วยเก็บเงาและลดความบวม ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ เกลี่ยให้เรียบ เทคนิคจะช่วยกระจายแสงให้หน้าสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ และดึงความสนใจออกจากถุงใต้ตาทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
2. ใช้ Corrector สีส้ม/ชมพู
สำหรับคนที่มี ใต้ตาคล้ำมากๆ จะออกสีม่วงหรือน้ำตาล ทริคที่จะกลบได้ดีให้ใช้ corrector สีพีช/ชมพูบางๆ ก่อนลงคอนซีลเลอร์ตามอีกที เพราะสีของ corrector จะช่วย "หักล้าง" ความคล้ำให้ดูสว่างขึ้นได้ค่ะ
3. ทาไฮไลต์ตรงแนวร่องใต้ตา
เมื่อลง corrector และ concealer ลงเรียบร้อยแล้ว เพื่อความปังให้สุด ลองแต้มไฮไลต์เนื้อครีมบางๆ ตรงแนวร่องใต้ตา ไม่ใช่ทั้งถุงใต้ตา วิธีนี้จะช่วยทำให้แสงกระทบแล้วทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ช่วยไม่ให้เห็นเงาร่องใต้ตาชัด
4. ใช้ลิปสติก หรือ บรัชครีมกลบใต้ตา
สำหรับใครที่ไม่มี corrector จะลิปสติกหรือบรัชครีมสีโทนส้มๆ กลบใต้ตาแทนกันได้อยู่นะ เป็นเทคนิคที่คล้ายกับการใช้ corrector เลยค่ะ ทาลิปสติกหรือบรัชครีมก่อนลงคอนซีลเลอร์ ให้โทนสีส้มช่วยหักล้างความคล้ำใต้ตาได้เช่นกัน
5. ใช้แป้งโปร่งแสงเซตใต้ตา
หลังจากลง corrector และ concealer แล้ว ให้ใช้แป้งฝุ่นเนื้อเบา (translucent powder) เซตบริเวณใต้ตาเบาๆ อีกครั้ง เพื่อป้องกันคอนซีลเลอร์ไหลหรือเป็นคราบ และช่วยให้ใต้ตาสว่างแน่นติดทน
・・・・・・・・・・・・
ถุงใต้ตา ถือเป็นปัญหาผิวที่พบเจอได้กับคนทุกเพศทุกวัย แถมยังเกิดได้จากหลายสาเหตุอีกด้วย ทั้งกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ อายุที่มากขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แบบนี้หากรู้ตัวว่าปัญหาถุงใต้ตาของตัวเองมันเกิดจากพฤติกรรมบางอย่าง ก็ต้องรีบหยุดพฤติกรรมนั้นๆ แล้วหันมาใส่ใจดูแลผิวให้ถูกวิธี ทั้งการประคบเย็น เลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะสม และกินอาหารบำรุงผิวจากภายใน หรืออาจลองทำตามทริคเมคอัพที่เราหยิบมาแชร์กัน เพื่อเปลี่ยนถุงใต้ตาที่เคยเป็นจุดด้อยและทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ให้กลายเป็นดวงตาที่ดูสวยหวานและมีความน่ารักขึ้นกันนะค้าา ♥
ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik
บทความแนะนำ