ตำรวจสอบสวนกลาง ตามรวบหนุ่มขาย5บัญชีม้า ให้แก๊งหลอกทำงานออนไลน์ ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามรวบหนุ่มขาย5บัญชีม้า ให้แก๊งหลอกทำงานออนไลน์ ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายวีรภาพ หรือเจ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 32/2568 ลงวันที่ 28 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.488/2568 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ฯ ”
สถานที่จับกุม ริมถนนในหมู่บ้าน ม.7 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งหลอกลวงโดยการใช้เพจเฟซบุ๊กปลอม อ้างเป็นบริษัทงานฝีมือ จำกัด โฆษณาในหน้าเพจเฟซบุ๊กรับสมัครทำงานเสริมทางออนไลน์ โดยรับงานมาทำที่บ้าน ผู้เสียหายสนใจจึงส่งข้อความไปทางเพจดังกล่าวเพื่อขอทราบรายละเอียด ต่อมาคนร้ายได้ส่งลิงก์ไอดีไลน์มาให้ทางแชทข้อความอัตโนมัติเพื่อให้ผู้เสียหายเพิ่มผู้ติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นผู้เสียหายได้พูดคุยแชทข้อความผ่านทางแชทไลน์ของคนร้าย โดยเสนองานรูปแบบเป็นการทำงานแพ็กสินค้า ซึ่งจะส่งสินค้ามาให้ผู้เสียหายทำที่บ้าน โดยคนร้ายได้ส่งเอกสารยืนยันการมีอยู่จริงของบริษัทพร้อมส่งภาพวิธีการแพ็กสินค้ามาให้ผู้เสียหายดู แต่อ้างว่าจะต้องผ่านการประเมินก่อนเริ่มทำงาน โดยมีบุคคลอื่นอยู่ในกลุ่มทำงานในรูปแบบนี้อยู่ด้วย แล้วแนะนำให้ผู้เสียหายทำกิจกรรมด้วยการโอนเงินลงทุนซื้อสินค้ากับทางเพจ แล้วจะได้ค่าคอมมิสชันกลับคืนมา ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของนายวีรภาพฯ ตามที่คนร้ายแจ้งมา หลังจากโอนเงินดังกล่าวแล้ว ผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวกลับคืนมาได้ หากจะถอนเงินต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขระบบไปก่อน จึงรู้ว่าถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงิน จำนวน 1,029,221.37 บาท ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับนายวีรภาพ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นบัญชีที่รับเงินโอนจากผู้เสียหายไว้

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถ สืบสวนจนนำไปสู่การติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ริมถนนในหมู่บ้าน ม.7 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบพบว่านายวีรภาพฯ มีหมายจับคดีฉ้อโกงออนไลน์ รวม 2 หมายจับ
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เล่นเฟซบุ๊กพบกลุ่มซื้อขายบัญชีธนาคารทางเฟซบุ๊ก ตนเองตกงานจึงต้องการเงินมาใช้จ่ายจึงติดต่อไปทางแอดมินแจ้งว่ารับซื้อบัญชีละ 1,000 บาท จึงไปเปิดบัญชีมา 5 ธนาคาร ขายให้แอดมินเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เงินมา 5,000 บาท กระทั่งมีคนร้ายนำบัญชีของตนไปก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจนตนเองถูกจับกุมในวันนี้
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูล พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. หมายเลขโทรศัพท์ 094-9159193
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”