ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ขณะใกล้ถึงเส้นตายการบังคับใช้ภาษีทรัมป์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ซึ่งส่งสัญญาณว่าสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าเส้นตายในการเจรจาการค้าจะใกล้เข้ามาแล้ว
ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่หุ้นเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยดีทำให้ดัชนีแนสแด็กตกลงมา
ผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปีนี้กำลังประกาศออกมามากขึ้น โดยมีเกือบ 20% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลแล้ว ซึ่ง 79% ของบริษัทเหล่านั้นทำกำไรได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
นักวิเคราะห์คาดว่า S&P 500 จะเติบโตขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5.8%
แต่สงครามการค้ากำลังเริ่มส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เช่น General Motors ที่กำไรในไตรมาสที่สองลดลง 32% จากต้นทุนภาษีที่สูง
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปดูเหมือนจะไม่คืบหน้าเมื่อเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมใกล้เข้ามา ทำให้สมาชิกสหภาพยุโรปต้องเตรียมมาตรการตอบโต้
สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าจะมีการพบปะกับผู้แทนจากจีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดการเจรจาทางการค้ากับจีนในวันที่ 12 สิงหาคม
ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 179.12 จุด ที่ 44,502.19 จุด
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.99 จุด ที่ 6,309.59 จุด
และดัชนีแนสแด็กลดลง 81.49 จุด ที่ 20,892.69 จุด
น้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.47% ปิดที่ 66.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบรนท์ลดลง 0.9% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง
ทองสปอตเพิ่มขึ้น 1.07% ที่ 3,431.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.15% ที่ 3,441.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์