‘ธีรรัตน์’ นั่งหัวโต๊ะถก กอปภ.ก. กำชับ 8 แนวทางรับมือ ‘พายุคาจิกิ’
“ธีรรัตน์” เรียกประชุม กอปภ.ก. ติดตามความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุคาจิกิ พร้อมกำชับ 8 แนวทางป้องกันและบริหารจัดการภัยให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจกับประชาชน
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น คาจิกิ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ด้วย
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุคาจิกิ และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 13 (216/2568) ได้แจ้งว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พายุไต้ฝุ่น คาจิกิ บริเวณอ่าวตังเกี๋ยได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวิญตอนล่าง ประเทศเวียดนามแล้วด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันตามลำดับเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทย ในช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค. 2568 และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่านในช่วงเย็นวันที่ 26 ส.ค. 2568
จากอิทธิพลดังกล่าว ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงโดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่ จ.บึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย และลำปาง โดยภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากพายุ
จากสถานการณ์พายุฯ ดังกล่าว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงทุกจังหวัด ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และมีการตรวจตราป้ายขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ป้ายถูกลมพัดพังถล่ม รวมถึงการป้องกันข่าวปลอมหรือการส่งข้อมูลที่ยังไม่ได้กลั่นกรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ทุกกลไกกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานด้านพยาการณ์อากาศและด้านบริหารจัดการน้ำได้ทำงานแบบบูรณาการเชิงรุกเพื่อป้องกันภัยก่อนเหตุจะเกิด
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานด้านสารนิเทศและการประชาสัมพันธ์ได้ช่วยกันสร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการสื่อสารข้อความที่จำเป็นต้องสื่อสารไปยังประชาชน นอกจากนี้ ให้ทุกจังหวัดประเมินสถานการณ์ คาดการณ์ผลกระทบ และข้อแนะนำที่อยากให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในทุกช่องทางสื่อสาร
จากการรับฟังรายงานของทุกจังหวัดทำให้ทราบว่าตอนนี้ทุกพื้นที่มีความพร้อม และมีการประสานร่วมกับหน่วยงานในระดับพื้นที่เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเป็นอย่างดี และมีข้อสั่งการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานการณ์เพิ่มเติม ได้แก่
1. ทบทวนพื้นที่ที่เป็นจุดที่เกิดเหตุน้ำท่วมขังซ้ำซากและกำหนดให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอย่างมีนัยสำคัญ
2. จัดเตรียมพื้นที่รองรับน้ำให้เพียงพอเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
3. ประเมินศักยภาพและความสามารถในการระบายน้ำออกในแต่ละพื้นที่ให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด หากต้องการขอรับการสนับสนุนให้เร่งประสานไปยังศูนย์ ปภ.เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาและบริหารจัดการหน้างานโดยทันที ซึ่งแม้ว่าจะมีแผนเตรียมการไว้แล้ว แต่หากสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าแผนที่คาดการณ์ก็ต้องเร่งลงไปรับทราบปัญหาและดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที เพื่อประชาชนจะได้ลดความวิตกกังวลและมีความอุ่นใจที่มีผู้บริหารจังหวัด อำเภอ หรือเจ้าหน้าที่ลงไปอยู่เคียงข้างในการแก้ปัญหา ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง
5. ประชาสัมพันธ์สายด่วน 1784 พร้อมทั้งจัดให้มีสายด่วนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มมากขึ้น และอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเพื่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารผ่านทุกช่องทาง ทั้งหอกระจายข่าว เสียงตามสาย รถประชาสัมพันธ์ โซเชียลมีเดีย เพื่อประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่หลงเชื่อข่าวปลอมที่อาจเกิดการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในช่วงเวลานี้
6. สร้างพลังการมีส่วนร่วมและร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการสถานการณ์
7. ในด้านเส้นทางการจราจร ให้ประสานหน่วยงานเจ้าของเส้นทางในเบื้องต้นเพื่อวางแผนการใช้เส้นทางสำรองและการอำนวยความสะดวกประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน
8. จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน ขอให้ได้ประสานให้หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังอันตรายในช่วงเวลานี้ หากพิจารณาแล้วมีแนวโน้มความรุนแรง ให้ปิดการเข้าชม ท่องเที่ยว และอพยพย้ายนักท่องเที่ยวไปยังที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ผู้ปฏิบัติงาน ควบคู่การดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'ดร.สนธิ' ประเมิน 'พายุคาจิกิ' การเตรียมรับมือของภาครัฐ
- กรมชลฯ เฝ้าระวังพายุ 'คาจิกิ' เน้นบริหารจัดการน้ำ ลดผลกระทบมากที่สุด
- 'เวียดนาม' สั่งปิด 'สนามบิน-โรงเรียน' เร่งอพยพกว่า 5 แสน รับมือ 'ไต้ฝุ่นคาจิกิ' ขึ้นฝั่งเย็นนี้
ติดตามเราได้ที่