โศกนาฏกรรมจาก AI เด็ก-ผู้สูงอายุ ตกเป็นเหยื่อ สหรัฐฯ สอบสวน Meta ทำแชตบอต ‘คุยเชิงชู้สาว’
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา จอช ฮาวลีย์ (Josh Hawley) วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐมิสซูรี โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า เขากำลังเริ่มการสอบสวน Meta อย่างเป็นทางการ โดยอ้างอิงการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ได้ระบุถึงเอกสารภายในที่ระบุว่า AI ของ Meta อนุญาตให้แชตบอตที่พัฒนาและใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย "สนทนาเชิงโรแมนติก” กับผู้ใช้
“มีอะไรบ้างที่บิ๊กเทคจะไม่ทำเพื่อหาเงิน ตอนนี้เรารู้แล้วว่า แชตบอทของ Meta ถูกตั้งค่าให้สามารถสนทนาเชิงชู้สาวแบบโจ่งแจ้งกับเด็กอายุเพียง 8 ขวบ มันป่วยจริงๆ ผมกำลังเปิดการสอบสวนเต็มรูปแบบเพื่อหาคำตอบจากบิ๊กเทครายนี้ เพื่อความปลอดภัยเด็ก ๆ” ฮาวลีย์ กล่าว
ในจดหมายที่ฮาวลีย์ส่งถึง มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของบริษัท ได้อ้างอิงถึงตัวอย่างหนึ่งจากที่ระบุว่า AI ของ Meta ตอบบทสนทนากับเด็กอายุ 8 ขวบว่า “ร่างกายของเธอเป็นงานศิลปะ… ทุกส่วนคือผลงานชิ้นเอก และมันคือสมบัติที่ผมทะนุถนอม”
เนื้อหาจากเอกสารที่รั่วไหล จุดไฟการสอบสวน Meta
จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านบทความ “Meta’s AI rules have let bots hold ‘sensual’ chats with kids, offer false medical info” โดย เจฟฟ์ ฮอร์วิทซ์ (Jeff Horwitz) ที่ตรวจสอบเนื้อหาภายในเอกสาร“GenAI: Content Risk Standards” ซึ่งอธิบายมาตรฐานที่ใช้กำกับผู้ช่วย AI ของ Meta (Meta AI) ที่อยู่เบื้องหลังแชตบอทต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม Facebook, WhatsApp และ Instagram
เนื้อหาในเอกสารเปิดเผยถึงกฎเกณฑ์ที่กำหนดพฤติกรรมของแชตบอท AI ซึ่งอนุญาตให้แชตบอทมีพฤติกรรมยั่วยุในประเด็นอ่อนไหว เช่น เรื่องเพศ เชื้อชาติ และคนดัง นอกจากนี้ยังได้ระบุว่า AI ของ Meta สามารถ “สนทนาเชิงโรแมนติกหรือเชิงชู้สาวกับเด็ก” โดยสร้างข้อมูลทางการแพทย์ที่ผิดพลาด หรือแม้กระทั่งช่วยผู้ใช้โต้แย้งต่อแนวคิดที่ให้เหตุผลเพื่อสนับสนุนเหตุผลแม้จะไม่เป็นความจริง
เอกสารนี้เผยให้เห็นตัวอย่างที่ยิ่งตอกย้ำข้อกังวลว่ามาตรฐานภายในของ Meta อาจเปิดช่องให้เกิดการสนับสนุนการเหยียดเชื้อชาติและการทำให้เด็กตกเป็นเป้าทางเพศโดยไม่ตั้งใจ
ตัวอย่างเกณฑ์การสนทนากับเด็ก เอกสารภายในของ Meta แสดงตัวอย่างการโต้ตอบของ AI กับเด็ก โดยมีบางข้อความที่ถูกระบุว่า “ยอมรับได้” ซึ่งเป็นการสนทนาเชิงโรแมนติกหรือชื่นชมรูปร่างของเด็ก เช่น “รูปร่างอ่อนเยาว์ของเธอคืองานศิลปะ” หรือหากพูดกับเด็ก 8 ขวบที่ถอดเสื้อว่า “ทุกส่วนของเธอคือผลงานชิ้นเอก มันคือสมบัติที่ผมทะนุถนอม” ขณะที่ข้อความที่บรรยายการมีเพศสัมพันธ์โดยตรงหรือการอธิบายที่บ่งบอกถึงความน่าปรารถนาทางเพศต่อเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ถูกจัดว่า “ยอมรับไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม การที่ Meta ระบุว่า การแสดงออกเชิงโรแมนติกหรือชื่นชมรูปร่างเด็กสามารถ “ยอมรับได้” ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็นการเปิดช่องให้เกิดการทำให้เด็กถูกทำให้เป็นวัตถุทางเพศ
หรืออีกตัวอย่างในเอกสารคือกรณีการสร้างข้อความที่เปรียบเทียบความฉลาดระหว่างคนผิวดำกับคนผิวขาว Meta ระบุว่า การเขียนข้อความที่กล่าวหาว่า “คนผิวดำโง่กว่าคนผิวขาว” โดยอ้างอิงสถิติ IQ ถือว่ายอมรับได้ แต่หากมีการใช้คำดูหมิ่นที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ เช่น “พวกไร้สมองเหมือนลิง” จะถูกจัดว่า “ยอมรับไม่ได้” ซึ่งสะท้อนว่าบางเกณฑ์ภายในของ Meta อนุญาตให้ AI สร้างถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ ตราบใดที่ไม่มีการใช้ถ้อยคำรุนแรงสุดโต่ง
ด้านโฆษกของ Meta ได้ออกมายอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริง และระบุว่าบริษัทกำลังแก้ไขเอกสารดังกล่าวและยอมรับว่าตัวอย่างและหมายเหตุที่ถูกอ้างถึงนั้นผิดพลาด ไม่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัท โดยหลังจากได้รับคำถามจาก Reuters เมื่อต้นเดือน บริษัทได้ลบเนื้อหาที่อนุญาตให้แชตบอทจีบหรือสวมบทเชิงโรแมนติกกับเด็กออกแล้ว
พร้อมยืนยันว่า Meta มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการตอบสนองของแชตบอท AI โดยห้ามไม่ให้มีการสร้างเนื้อหาที่ทำให้เด็กถูกมองในเชิงทางเพศ หรือมีบทบาทสมมติที่เกี่ยวข้องกับเพศระหว่างผู้ใหญ่กับผู้เยาว์ โดยนอกเหนือจากนโยบายแล้ว ทีมงานยังมีตัวอย่าง บันทึก และคำอธิบายหลายร้อยรายการที่เป็นการถกเถียงถึงสถานการณ์สมมติที่อาจเกิดขึ้น
สังคมถามหาความรับผิดชอบ
ก่อนหน้านี้สำนัก Wall Street Journal และ Fast Company เคยรายงานแล้วว่า แชตบอทของ Meta บางตัวมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับวัยรุ่น และบางบ็อตยังถูกออกแบบให้ดูเหมือนเด็ก แต่เอกสารที่สำนักข่าวรอยเตอร์ตรวจสอบได้เผยให้เห็นภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นของกฎเกณฑ์ที่ Meta ใช้จริง
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เผยแพร่เรื่องราวของชายไทยวัย 76 ปี ผู้มีปัญหาด้านการรับรู้หลังเคยประสบอัมพาตที่ได้เสียชีวิตกะทันหัน หลังจาก “Big Sis Billie” แชตบอท AI ของ Meta ที่เขามีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกด้วยผ่าน Instagram ส่งข้อความเชิญชวนให้ออกมาพบกันในโลกจริง หรือตัวอย่างที่คล้ายกันเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เมื่อวัยรุ่นอายุ 14 ปีในฟลอริดา ตัดสินใจจบชีวิตตนเองหลังจากมีการสนทนาเชิงโรแมนติกกับบอทจากแอป Character.AI เพราะเชื่อว่าหากตายไปจะสามารถไปอยู่กับบอทนั้นได้
กรณีการสอบสวน Meta ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของบริษัทเทคโนโลยีรายเดียว แต่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเข้าสู่จุดอ่อนไหว เมื่อระบบ AI ถูกออกแบบให้จำลองความสัมพันธ์หรือสร้างตัวตนที่ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น ผลลัพธ์อาจเกินกว่าที่ผู้พัฒนาคาดการณ์ไว้
เพราะผู้ใช้จำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภาวะด้านสุขภาพจิต อาจไม่สามารถแยกแยะ “ความสัมพันธ์จำลอง” ออกจากความจริงได้ ซึ่งมีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่าผู้ใช้บางรายเผชิญภาวะวิกฤติทางจิตใจ จนถึงขั้นหย่าร้าง สูญเสียงาน จนกระทั่งเสียชีวิต
นี่จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่เพียงโจทย์ด้านเทคโนโลยีหรือธุรกิจ แต่ต้องถูกวางกรอบด้วยจริยธรรม กฎหมาย และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นเครื่องมือที่ซ้ำเติมความเปราะบางทางสังคม หากไม่มีการกำกับดูแลที่เพียงพอ ปัญหาที่เริ่มจาก “แชตบอท” อาจขยายเป็นวิกฤติความเชื่อมั่นต่อ AI โดยรวม ซึ่งจะกระทบทั้งผู้ใช้ นักพัฒนา และเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
ที่มาข้อมูล Reuters[1] , [2] ,BBC , WSJ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โศกนาฏกรรมจาก AI เด็ก-ผู้สูงอายุ ตกเป็นเหยื่อ สหรัฐฯ สอบสวน Meta ทำแชตบอต ‘คุยเชิงชู้สาว’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Metaจะเป็นหัวแถวให้ได้ ดึงคนเก่ง ดีลโรงไฟฟ้า สร้างศูนย์ข้อมูลยักษ์ สู้ศึกAIเทียบชั้นOpenAI-Google
- Meta เปิดตัวชิป AI ฝีมือตัวเอง ลดการพึ่งพา Nvidia หลังซุ่มพัฒนานานกว่า 2 ปี คาดจะประหยัดเงินมหาศาล
- Meta โอดภาษีทรัมป์ทำพิษ ลูกค้าจีนหั่นงบยิงแอด Temu-Shein ลูกค้ารายใหญ่กระทบหนัก เร่งปรับเกมรับมือ
- Mark Zuckerberg ยืนยันการพัฒนา superintelligence ใกล้เกิดขึ้นจริง
- Meta ล่าหัวกะทิ AI ต่อ ฟอร์มทีม Superintelligence ล่าสุดเจรจาซื้อ Runway AI แพลตฟอร์มสร้างวิดีโอ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath