โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สะเก็ดเงิน ไม่ใช่แค่ผิวแห้ง! แยกให้ออก เข้าใจอาการและสาเหตุ วิธีรักษาที่ถูกต้อง

INN News

อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 23.05 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้บ่อย แต่ยังมีความเข้าใจผิดในสังคมจำนวนไม่น้อย หลายคนคิดว่าเป็นโรคติดต่อ หรือโรคของผู้สูงอายุ ทั้งที่ความจริงแล้วโรคนี้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และสามารถเกิดได้ในคนทุกช่วงวัย

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจอาการและสาเหตุของสะเก็ดเงินเพื่อหาแนวทางรักษาโรคอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นก้าวแรกในการดูแลสุขภาพผิวและสุขภาพใจให้ดีขึ้น

โรคสะเก็ดเงินคืออะไร? เมื่อผิวแห้งแตกอาจไม่ใช่แค่ผิวแพ้ธรรมดา

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) คือโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้ผิวหนังผลิตเซลล์ผิวเร็วกว่าเดิมทำให้อักเสบ จนเกิดเป็นแผ่นหนา ๆ สีขาวหรือเงินลอกเป็นขุย และมักจะคันหรือแสบร่วมด้วย โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมให้อาการดีขึ้นได้ด้วยการดูแลอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง

อาการแบบไหนใช่โรคสะเก็ดเงิน? สังเกตให้ดี จะได้ดูแลได้ทัน

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้ทั่วไปนี่แหละ และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้มากหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้นเรามาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า “อาการของโรคสะเก็ดเงิน” ที่แต่ละคนเป็นแม้จะแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปจะมีลักษณะเด่นที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้

ผื่นแดง ผิวหนา ลอกเป็นขุยสีเงิน

ผื่นมักมีรอยนูนสีแดงและผิวบริเวณนั้นจะหนากว่าปกติ มีลักษณะเป็นขุยสีขาวเงิน ซึ่งเกิดจากการผลัดเซลล์ผิวที่เร็วกว่าปกติ ผื่นเหล่านี้อาจมีจำนวนไม่มากหรือกระจายกว้างทั่วร่างกาย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค

คัน แสบ หรือแห้งจนแตก

ผู้ป่วยหลายรายจะรู้สึกคัน บางครั้งอาจมีความรู้สึกแสบหรือระคายเคืองผิวร่วมด้วย หากผิวแห้งมากอาจถึงขั้นแตกและมีเลือดซึมได้ อาการเหล่านี้มักทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

มักพบบริเวณหนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า หลังส่วนล่าง

ตำแหน่งที่พบบ่อยคือบริเวณที่มีแรงเสียดทานหรือถูกกดทับบ่อย ๆ เช่น ข้อศอก หัวเข่า หรือหลังส่วนล่าง ในบางรายอาจพบที่หนังศีรษะ ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นแค่รังแคธรรมดา

อาจมีเล็บผิดปกติ

เล็บของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินอาจมีลักษณะหนา เปราะ หรือมีรูบุ๋มเล็ก ๆ คล้ายถูกเข็มจิ้ม มีการยกตัวของเล็บจากฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย

บางรายอาจมีอาการปวดข้อร่วมด้วย

ในบางกรณี โรคสะเก็ดเงินจะมีอาการปวด บวม หรือข้อยึดร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่า “สะเก็ดเงินชนิดข้อ (Psoriatic Arthritis)” อาการนี้ควรได้รับการดูแลโดยเร็วเพื่อป้องกันข้อเสียหายถาวร

ตำแหน่งที่มักพบผื่นสะเก็ดเงิน

  • หนังศีรษะ

  • ข้อศอก หัวเข่า

  • หลังส่วนล่าง

  • ฝ่ามือ ฝ่าเท้า

  • รอบสะดือ หรือบริเวณอวัยวะเพศ

  • เล็บมือและเล็บเท้า

สาเหตุการเกิดโรคสะเก็ดเงิน

ไม่ใช่เพราะไม่สะอาด! โรคสะเก็ดเงินไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ หรือการดูแลผิวไม่ดี แต่เกิดจาก ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วเกินไป จนเกิดการสะสมและอักเสบของผิวหนัง

ปัจจัยกระตุ้นที่ควรระวัง ได้แก่

ความเครียด

เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นสำคัญ ความเครียดเรื้อรังสามารถกระตุ้นให้โรคกำเริบได้ง่าย ผู้ป่วยควรหาเวลาผ่อนคลายอย่างสม่ำเสมอ

การติดเชื้อ

โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น การติดเชื้อจากเชื้อสเตรปโตคอกคัสอาจกระตุ้นให้เกิดโรคสะเก็ดเงินชนิดเฉียบพลันได้

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

เช่น ในช่วงวัยรุ่น ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลต่อระดับภูมิคุ้มกันแปรปรวน ทำให้โรคกำเริบ

การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาความดัน

ยาบางกลุ่ม เช่น Beta-blockers, ยาลิเทียม หรือยาต้านมาลาเรีย อาจกระตุ้นหรือทำให้อาการแย่ลง

การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์

เป็นปัจจัยที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย และสัมพันธ์กับอาการที่รุนแรงมากขึ้น

พันธุกรรม

หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ความเสี่ยงในการเป็นโรคสะเก็ดเงินจะสูงขึ้น

รักษาโรคสะเก็ดเงินอย่างไร? หมอมีคำแนะนำที่ใช้ได้จริง

แม้ว่าโรคสะเก็ดเงินจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ คือเป็นแล้วครั้งหนึ่ง ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้ แต่สามารถควบคุมอาการให้ดีขึ้นได้ ด้วยการรักษาที่ถูกวิธี และขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและสภาพร่างกายของแต่ละคน โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้

ใช้ยาทาภายนอก

เช่น ครีมสเตียรอยด์ วิตามินดี หรือยาทาลดการอักเสบ เพื่อช่วยลดผื่น บรรเทาอาการคัน และให้ความชุ่มชื้นกับผิว ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ใช้ยารับประทานหรือฉีด

ในรายที่อาการรุนแรงหรือดื้อต่อการรักษาทางผิวหนัง อาจต้องใช้ยาควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน เช่น Methotrexate, Cyclosporine หรือยาชีวภาพ (Biologics) ซึ่งให้ผลดีในการควบคุมอาการ

ฉายแสง UV (Phototherapy)

เป็นการใช้แสง UVB หรือ PUVA ในการลดการอักเสบของผิวหนัง โดยจะทำภายใต้การควบคุมอย่างปลอดภัยในคลินิกหรือโรงพยาบาล

คำแนะนำจากแพทย์

ไม่ควรซื้อยามาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวบางลง อาการกำเริบ หรือเกิดผลข้างเคียงในระยะยาวได้

อาการแบบไหนที่ควรหาหมอด่วน? อย่ารอให้โรครุนแรงจนควบคุมยาก

แม้โรคสะเก็ดเงินหลายกรณีจะสามารถดูแลเบื้องต้นด้วยตนเองได้ แต่มีบางอาการที่หากเกิดขึ้นแล้ว ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินและเริ่มการรักษาโดยเร็ว เพราะการปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้โรคกำเริบมากขึ้นจนกระทบต่อชีวิตประจำวันได้

  • มีไข้ร่วมกับผื่นแดงและลอกผิวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นภาวะสะเก็ดเงินชนิดรุนแรง (Erythrodermic Psoriasis)
  • มีอาการปวด บวม และข้อยึดหลายข้อ โดยเฉพาะนิ้วมือ ข้อนิ้วเท้า หรือข้อเข่า อาจเป็นภาวะสะเก็ดเงินชนิดข้อ
  • มีอาการแสบผิว ผิวแดง คันรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ใช้ยาทาแรงๆ เองต่อเนื่อง แต่ผื่นไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง
  • มีอาการซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล เพราะผื่นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์หรือการเข้าสังคม

หากมีข้อสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นโรคสะเก็ดเงินหรือไม่ การพบแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และวางแผนการดูแลได้ทันก่อนที่โรคจะลุกลาม

แนะนำวิธีป้องกัน-ลดโอกาสกำเริบของโรคสะเก็ดเงิน

แม้โรคสะเก็ดเงินจะไม่สามารถหายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการและลดโอกาสกำเริบได้ด้วยการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม

พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด

การนอนหลับและการจัดการอารมณ์มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น ทำสมาธิ หรือออกกำลังกายเบา ๆ

หลีกเลี่ยงการเกา หรือการบาดเจ็บที่ผิว

เพราะการอาการระคายเคืองหรือมีแผลเล็ก ๆ อาจไปกระตุ้นให้เกิดผื่นใหม่ขึ้นในบริเวณนั้นซ้ำอีก

เลือกรับประทานอาหารที่ลดการอักเสบ

เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สด ปลาแซลมอน อะโวคาโด หรือถั่วเปลือกแข็ง หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและน้ำตาลสูง

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

สารเหล่านี้จะไปกระตุ้นการอักเสบและทำให้การรักษาได้ผลน้อยลง

ใช้ครีมบำรุงให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำ

การทาครีมหลังอาบน้ำจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดอาการแห้ง คัน และลอกของผิวได้อย่างดี

สรุป โรคสะเก็ดเงิน ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจส่งผลต่อสุขภาพแบบเรื้อรัง ถ้ายังมีความเชื่อผิด ๆ และรักษาแบบผิด ๆ

โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ควรเป็นสาเหตุของการตีตราหรือหลีกเลี่ยงผู้ป่วย เพราะความเข้าใจผิดอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยว การเปิดใจและให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการคล้ายที่กล่าวมา อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะแรก เพราะ ยิ่งเริ่มดูแลเร็ว ก็ยิ่งควบคุมอาการได้ดีและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

เพื่อไทย เคาะส่ง “ไชยา พรหมา” นั่ง รองปธ.สภา คนที่ 1 แทน “พิเชษฐ์”

26 นาทีที่แล้ว

ทรู คอร์ปอเรชั่น โชว์ผลงานไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 2.0 พันล้านบาท ทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน

46 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

เพจดังแฉ “ดาราไม่ดัง” อ้างงานหดเพราะมีข่าวมือที่สาม ชาวเน็ตเมนต์สนั่น! | iNN Entertainment

53 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

“ธามไท” แฮปปี้เป็นเกสต์คอนเสิร์ต ”อิ๊งค์“ ลั่นหัวใจโสด | iNN Entertainment

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

หนูร้องหาเสียงขับกล่อม ใช่เสียงกระสุนปืน “Pan’s Labyrinth” ยอดวรรณกรรมดาร์กแฟนตาซี

a day magazine

“แม่โขง” แบรนด์สุราไทยที่มาจากเพลงปลุกใจ เรียกร้องดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืน

ศิลปวัฒนธรรม

Wang Yibo ขึ้นแคมเปญล่าสุดของ CHANEL สำหรับไลน์เครื่องประดับ COCO CRUSH

THE STANDARD

UVU แบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกายมาแรงที่ออกแบบด้วยจิตวิญญาณของอดีตทหารอากาศ

Capital

ไข้สูง-ปวดตัว ระวังโรคชิคุนกุนยา ระบาดหนักหลายพื้นที่

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

“บีทีเอส” สดุดีทหารกล้า “ขบวนรถไฟฟ้าธงชาติไทยที่ยาวที่สุด”

Manager Online

ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย เหมือนกันไหม ? แชร์ทริคเมคอัพกลบถุงใต้ตา

SistaCafe

เติมคุณภาพความเป็นอยู่ของชีวิตอย่างไรให้ร่างกายร้องเฮ! หัวใจร้องฮิ้ว!

a day magazine

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...