ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : เตือน ! ห้ามใช้ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย อันตราย จริงหรือ ?
บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence : AI)โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ
22 กรกฎาคม 2568
ตามที่มีการแชร์เตือนผู้ใช้งานรถยนต์ว่า ห้ามใช้งานอุปกรณ์เสียบหลอกเข็มขัดนิรภัย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้นั้น
สรุป : จริง แชร์ได้
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ (สัมภาษณ์เมื่อ 14 พฤษภาคม 2568)
ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย “อันตราย” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
“แค่เสียบไว้ไม่ให้เสียงเตือนดัง” คือเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้หลายคนเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย” โดยไม่เคยตระหนักว่าอุปกรณ์ที่ดูไม่มีพิษสงชิ้นนี้ จะสามารถเปลี่ยนอุบัติเหตุธรรมดาให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมถึงชีวิตได้ในพริบตา บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ และไขข้อข้องใจว่าทำไมการ “ไม่คาดเข็มขัด” ถึงอันตรายยิ่งกว่า เมื่อมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ในรถของคุณ
Airbag และ เข็มขัดนิรภัย คู่หูที่ต้องทำงานร่วมกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าระบบความปลอดภัยในรถยนต์สมัยใหม่ถูกออกแบบมาให้ทำงานประสานกัน โดยเฉพาะ ถุงลมนิรภัย (Airbag) และ เข็มขัดนิรภัย (Seatbelt)
- เข็มขัดนิรภัย : มีหน้าที่หลัก คือ “รั้ง” ร่างกายของเราให้ติดอยู่กับเบาะ ป้องกันไม่ให้เราพุ่งไปข้างหน้าหรือกระแทกกับส่วนต่าง ๆ ของรถเมื่อเกิดการชน
- ถุงลมนิรภัย : ถูกออกแบบมาเพื่อ “ลดแรงปะทะ” ในจังหวะสุดท้าย โดยจะพองลมออกมาเป็นเบาะลมป้องกันไม่ให้ศีรษะและหน้าอกของเรากระแทกกับพวงมาลัยหรือคอนโซลหน้ารถโดยตรง ซึ่งสามารถลดการบาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิตได้มากกว่า 60%
ระบบทั้งสองนี้จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร “คาดเข็มขัดนิรภัย” เท่านั้น
หายนะที่เกิดขึ้นเมื่อ “ตัวหลอก”ทำงาน
ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย คือ อุปกรณ์ที่เสียบเข้าไปในช่องเสียบเพื่อหลอกระบบเซ็นเซอร์ของรถว่ามีการคาดเข็มขัดแล้ว ทำให้เสียงเตือนน่ารำคาญเงียบลง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ได้หลอกให้ “ถุงลมนิรภัย” พร้อมที่จะทำงานเต็มที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ลองจินตนาการภาพตามเมื่อเกิดการชนด้านหน้า :
- ร่างพุ่งไปข้างหน้า : เมื่อไม่มีเข็มขัดนิรภัยรั้งไว้ ร่างกายของคุณจะพุ่งไปข้างหน้าตามแรงกระแทกอย่างอิสระ
- Airbag ระเบิดสวน : ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ถุงลมนิรภัยจะทำงานและพองตัวออกมาด้วยความเร็วสูง (ประมาณ 300 กม./ชม.)
- การปะทะสองแรง : ร่างกายที่กำลังพุ่งไปข้างหน้าจะปะทะเข้ากับถุงลมที่ระเบิดสวนออกมาอย่างรุนแรง แรงกระแทกมหาศาลนี้จะผลักให้ศีรษะและลำคอสะบัดกลับมาด้านหลังอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส เช่น หมอนรองกระดูกต้นคอแตกทับเส้นประสาท หรือคอหัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ทันที
การกระทำเช่นนี้จึงอันตรายกว่าการไม่คาดเข็มขัดแล้วถุงลมไม่ทำงานเสียอีก และการนำเข็มขัดไปพาดไว้ด้านหลังแล้วนั่งทับ ก็มีผลลัพธ์ที่เลวร้ายไม่ต่างกัน
ทางออกสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัด
สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดทางสรีระ เช่น สตรีมีครรภ์ หรือรู้สึกอึดอัดเมื่อคาดเข็มขัด ก็ยังมีทางออกที่ปลอดภัยกว่าการใช้ตัวหลอก
- ปรับตำแหน่งเข็มขัด : รถยนต์ส่วนใหญ่สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำของสายเข็มขัดได้ ควรปรับให้สายพาดอยู่บน “บ่า” พอดี ไม่ใช่บนร่องคอ
- เปลี่ยนไปนั่งเบาะหลัง : โดยทั่วไปแล้ว เบาะหลังจะปลอดภัยกว่าและเข็มขัดอาจให้ความรู้สึกสบายตัวกว่า
- ปิดการทำงานของ Airbag (ในกรณีจำเป็นจริง ๆ) : หากไม่สามารถคาดเข็มขัดได้จริงๆ การปิดระบบถุงลมนิรภัย (ซึ่งรถบางรุ่นสามารถทำได้) ยังถือว่าปลอดภัยกว่าการปล่อยให้ถุงลมทำงานโดยไม่มีเข็มขัดรั้ง
โดยสรุปแล้ว ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัยคืออุปกรณ์ที่ไม่มีประโยชน์ใด ๆ นอกจากสร้างความเสี่ยงถึงชีวิต ความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักมีค่ามากกว่าความรำคาญจากเสียงเตือนเพียงชั่วครู่ การสละเวลาคาดเข็มขัดและปรับให้พอดีกับร่างกาย คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ทุกครั้งที่ขึ้นรถ
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : ณัฐพล อินทร์สวัสดิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส