บทวิเคราะห์ ส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ขึ้นสู่ระดับใหม่
บทวิเคราะห์ ส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ขึ้นสู่ระดับใหม่
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย ทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศได้จัดกิจกรรมรำลึกและเฉลิมฉลองกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีคำขวัญร่วมกันว่า “จีน-ไทยร่วมใจ สู่อนาคตร่วมกัน” การส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่อย่างต่อเนื่องได้กลายเป็นเสียงจากใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และเป็นทิศทางของทั้งสองประเทศในการใช้ความพยายามร่วมกันในระยะยาว
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยมีรากฐานอันยาวนาน ประชาชนทั้งสองประเทศมีประวัติการไปมาหาสู่กันฉันมิตรมายาวนานนับพันปี นับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี ค.ศ. 1975 ความร่วมมือฉันมิตรในทุกด้านระหว่างจีนกับไทยได้พัฒนาอย่างคึกคัก ทั้งสองฝ่ายต่างนิยมหยิบยกวลี “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มาเปรียบเปรยความสัมพันธ์จีน-ไทย ซึ่งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้หาได้ยากยิ่งในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอื่น ๆ ทางการจีนยังมักจะสรุปความสัมพันธ์จีน-ไทยด้วย 3 ประโยค อันได้แก่ “เพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมถึงกันทั้งภูเขาและแม่น้ำ”, “ญาติสนิทร่วมสายโลหิต”, และ “หุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน”
ในช่วงเวลายาวนานที่ผ่านมา แม้ทั้งสองประเทศมีระบบสังคมที่แตกต่างกัน และไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงเพียงใด แต่จีนและไทยยึดมั่นในหลักการเคารพซึ่งกันและกัน เสมอภาค ช่วยเหลือกันและร่วมมือกันเสมอมา ทั้งสองฝ่ายต่างสนับสนุนสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ในการเลือกเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ของประเทศ และสนับสนุนซึ่งกันและกันในการปกป้องผลประโยชน์หลักของตน สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงนำความผาสุกมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังร่วมกันพิทักษ์เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคกระทั่งทั่วโลกอีกด้วย ถือเป็น “ต้นแบบแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประเทศที่มีระบบสังคมต่างกัน” และ “ต้นแบบแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
เมื่อเผชิญกับความยากลำบากและบททดสอบ ทั้งสองประเทศเข้าใจซึ่งกันและกัน และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาโดยตลอด ยกตัวอย่างตั้งแต่วิกฤตการเงินในเอเชีย ไปจนถึงภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย จากแผ่นดินไหวเวิ่นชวน ไปจนถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่างฝ่ายต่างยื่นมือเข้าช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้มิตรภาพระหว่างจีนกับไทยแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การอำนวยประโยชน์ซึ่งกันและกันเป็นลักษณะที่โดดเด่นของความร่วมมือระหว่างจีนกับไทย และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของกันและกัน มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับไทยเพิ่มขึ้นจาก 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเริ่มต้นการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปัจจุบัน จีนเป็นแหล่งลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของไทย จีนสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการยกระดับอุตสาหกรรมของไทย พร้อมใช้ข้อได้เปรียบของตลาดขนาดใหญ่ของจีนเพื่อขยายการนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองประเทศยังเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น ปัจจุบันมีบริษัทสัญชาติจีนในไทยที่ได้ลงทะเบียนไว้กับสถานทูตจีนประจำประเทศไทยกว่า 1,000 บริษัท โดยส่วนใหญ่ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง พลังงานใหม่ และการสื่อสาร ซึ่งล้วนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศไทย
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนของประชาชนที่มีความคึกคัก ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนและไทยเข้าสู่ “ยุคปลอดวีซ่า” ระหว่างกันเมื่อปี 2024 ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนของประชาชนและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศกำลังก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง ปัจจุบัน “กระแสความนิยมภาษาจีน” ในไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลมีโรงเรียนในไทยมากกว่า 3,000 แห่ง เปิดสอนภาษาจีน มีนักเรียนที่เรียนภาษาจีนมากกว่า 1 ล้านคน มีครูและอาสาสมัครจากจีนเดินทางมาไทยเพื่อสอนภาษาจีนรวมแล้วมากกว่า 20,000 คน และแต่ละประเทศต่างก็มีนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างกันที่กำลังศึกษาอยู่มากกว่า 30,000 คน
จีนกับไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีบนเวทีพหุภาคี ทั้งสองประเทศต่างก็ยืนหยัดสนับสนุนระบบพหุภาคีและการค้าเสรี สนับสนุนการเสริมสร้างความร่วมมือและความสามัคคี ต่อต้านการแบ่งแยกและการเผชิญหน้า ซึ่งได้เพิ่มพลังบวกให้กับสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคกระทั่งทั่วโลก
ความสัมพันธ์จีน-ไทยได้รับการเอาใจใส่และให้ความสำคัญอย่างสูงจากผู้นำทั้งสองประเทศและพระราชวงศ์ไทย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ โดยผู้นำสองประเทศได้เห็นพ้องต้องกันที่จะสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนกับไทยที่มั่นคง เจริญรุ่งเรือง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งได้ขับเคลื่อนความสัมพันธ์เข้าสู่ยุคใหม่
เท่าที่ทราบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการในปีนี้ ซึ่งฝ่ายจีนถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย โดยฝ่ายจีนจะเตรียมการอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อให้การเยือนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เชื่อว่าด้วยการชี้นำของผู้นำระดับสูงและความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางยุทธศาสตร์ จะช่วยเสริมสร้างรากฐานทางการเมืองให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยมั่นคงยิ่งขึ้น และสร้างแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่
เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)