SET แกว่งไซด์เวย์ กรอบ 1,140-1,180 จุด ติดตามเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ยังคงประเมินแนวต้าน 1172/1180 หลังจากวันก่อนชะลอไประดับหนึ่งแล้ว แนวรับอยู่ที่ 1155/1145-1140 ไม่ควรหลุดต่ำกว่าหากยังแกว่งขึ้น ปัจจัยติดตามการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ แม้ว่าไทยมีเป้าหมายภาษีอย่างมากที่ 18% แต่ไม่ง่าย เนื่องจากประเทศอื่นเสนอภาษีนำเข้า 0% ทั้งหมด และคืนนี้คุณทักษิณจะไปขึ้นเวทีพูดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก”
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากยังกังวลอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ สำหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและกดดันให้ GDP อาจเติบโตชะลอตัวได้ ซึ่ง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับไทยอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี ประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 2/2568 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ไตรมาส 3/2568 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่ พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรครึ่งแรกของปี 2568 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
4. Trading Ideas: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPALL มองราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดจำกัด และไตรมาส 2/2568 คาด กำไรปกติอยู่ที่ 6.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%YoY จากการฟื้นตัวของธุรกิจ CVS และ CPAXT และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 15%YoY และซื้อขาย PER 2568F ที่ 14 เท่า ส่วนโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
ADVANC ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากมองเป็นหุ้น Defensive และโมเมนตัมกำไรแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 2/2568 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท โตเด่น 29%YoY และ 3.3%QoQ อีกทั้งครึ่งหลังปี 2568 คาดกำไรจะเติบโตเร่งตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการประหยัดต้นทุนได้จากการประมูลคลื่นความถี่เมื่อไม่นานนี้ และ ARPU ระบบเติมเงินที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง