โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ห่วง PayLater ลามกินข้าวผ่อนจ่าย หวั่นกระตุ้นก่อหนี้เกินตัว มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

เดลินิวส์

อัพเดต 25 สิงหาคม 2568 เวลา 20.26 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
สศช.ห่วงซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) PayLater กระตุ้นก่อหนี้เกินตัว อาจไม่พิจารณาความเสี่ยง รับวงเงินสูง นำไปใช้เติมน้ำมัน-กินอาหารผ่อนจ่าย ถือเข้าขั้นวิกฤติ จี้เป็นปัญหาต้องดูแลจริงจัง หวั่นมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

วันที่ 25 ส.ค. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้เปิดให้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) ค่อนข้างมาก ซึ่งอาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคก่อหนี้เกินตัว และมีความเสี่ยงไม่พิจารณาภาระหนี้อื่นๆ ของลูกหนี้, ได้รับวงเงินสินเชื่อสูง โดยนำไปใช้เติมน้ำมัน หรือกินอาหารผ่อนชำระได้ด้วย เป็นปัญหาต้องดูแลจริงจัง เพราะจะเป็นปัญหาและมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากของพวกนี้ควรจ่ายเต็ม ไม่ควรผ่อน

“เรื่องซื้อก่อนจ่ายทีหลัง จากแพลตฟอร์มซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ได้แค่ซื้อสินค้าอย่างเดียว แต่ได้ขยายไปเติมน้ำมัน หรือทานอาหาร และมีผ่อนชำระด้วย ถือว่าเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ตอนนี้ข้อมูลเห็นมาได้ไม่นาน และขยายไปเรื่องพวกนี้ด้วยคงต้องมาหารือกันว่าจะทำอย่างไร”

สำหรับหนี้ครัวเรือนไตรมาสแรกปี 68 มูลค่าหนี้ปรับตัวลดลง 0.1% ถ้าดูในแง่มูลค่าไตรมาสต่อไตรมาส เพิ่มขึ้น 0.5% โดยมูลค่าหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 16.35 ล้านล้านบาท ลดลงทุกรายการตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมา กำกับดูแลเรื่องปล่อยสินเชื่อ ส่วนหนี้ด้อยคุณภาพ หรือเอ็นพีแอลธนาคารพาณิชย์ ไตรมาสแรกขยายตัวเพิ่มจาก 3.26% ในไตรมาส 4 เป็น 3.41% มาจากที่อยู่อาศัยและบัตรเครดิต ส่วนรถยนต์ทรงตัว

ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้น สศช.ได้ให้ความสำคัญมาก เพราะถ้าคนมีบ้านและหลุดไป จะขาดความมั่นคงในชีวิตตามไปด้วย ซึ่งช่วงที่ผ่านมา สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มนั้น ไม่ได้อยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลางหรือรายได้น้อย แต่ขยับไปกลุ่มอื่น

“เอ็นพีแอลเป็นระเบิดเวลาที่เกิดขึ้น แต่การแก้ปัญหาซับซ้อนและยากขึ้นเรื่อยๆ มีแนวโน้มกู้นอกระบบผ่านแอปพลิเคชัน และไม่ถูกกฎหมายมีช่องทางโซเชียลมีเดียด้วย โดยต้องกำกับดูแลจริงจังและปราบปราม ในขณะที่ได้พยายามแก้หนี้ 3 เรื่อง คือ หนี้ที่อยู่อาศัย หนี้รถยนต์ และหนี้ธุรกิจ ถ้ามีแนวโน้มแก้ได้ จะช่วยคนมีความมั่นคง มีรายได้มากขึ้น เพราะหนี้จะลดลงมาก อย่างโครงการคุณสู้เราช่วยอาจต้องปรับเงื่อนไขเพิ่มเติมให้คนเข้าร่วมโครงการมากขึ้นเรื่อยๆ”

นายดนุชา กล่าวว่า ภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 68 การจ้างงานดีขึ้น อัตราว่างงานใกล้เคียงก่อนหน้า โดยผู้มีงานทำอยู่ที่ 39.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 0.02% มีผู้ว่างงาน 0.91% ทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า 0.88% หรือมีผู้ว่างงาน 3.7 แสนคน เป็นกลุ่มที่เคยทำงาน 1.4 แสนคน และไม่เคยทำงาน 2.3 แสนคน ส่วนผู้เสมือนว่างงานเพิ่มขึ้น 5.2% มาอยู่ที่ 2.1 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม เนื่องจากมีการชะลอเพาะปลูก และ 1 ใน 4 เป็นแรงงานผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังแรงงานจากผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมามีการเร่งนำเข้า โดยช่วงต่อไปมีความเสี่ยงเรื่องภาษีและการสวมสิทธิสินค้า (ทรานชีฟเมนท์) ให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้โดนภาษี 40% อย่างไรก็ตามภาครัฐจะต้องมีส่วนช่วยขยายตลาดใหม่ ส่งเสริมการใช้สินค้าไทย กำกับดูแลมาตรการป้องกันเรื่องนำเข้าสินค้า ต้องมีการกำกับนำเข้าอย่างเข้มงวด และเรื่องสวมสิทธิ รวมทั้งขยายซัพพลายเชนให้มากขึ้น

ส่วนรูปแบบการจ้างงานมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป จากฟูลไทม์ (เต็มเวลา) ปรับเป็นพาร์ตไทม์ (ชั่วคราว) และใช้พนักงานสัญญาจ้างมากขึ้น หรือทำงานพาร์ตไทม์ชั่วคราวมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ กระทบความมั่นคงการจ้างงานและรายได้แรงงาน ทำให้หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องดูแลอย่างเข้มงวด เช่น เรื่องการจ่ายค่าจ้างให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ด้วย

ขณะที่สถานการณ์แรงงานต่างด้าว กรณีมีแรงงานกัมพูชากลับประเทศนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีจำนวนเท่าใด แต่เบื้องต้นมีแรงงานกัมพูชากลับประเทศ 80% ของแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารจัดการทำได้ระดับหนึ่ง พอแรงงานส่วนนี้หายไป จะดึงแรงงานประเทศอื่นเข้ามาเพิ่มเติม เชื่อว่าผลกระทบแรงงานขาดหายไปแค่ระยะสั้น คงมีแรงงานประเทศอื่นทดแทน ทำให้ผลกระทบเศรษฐกิจไม่มากอย่างที่คาด ไม่น่าจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก

นายดนุชา กล่าวว่า มีบางองค์กรได้ทำการเปิดสมัครใจลาออก ซึ่งเปิดให้ตั้งแต่อายุ 45 ปี ในเรื่องนี้มองว่า ต้องดูว่าบุคคลที่สมัครใจลาออก จะไปทำอะไรต่อ แต่เชื่อว่าเงินที่ได้จากการสมัครใจออก ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ อายุ 70-80 ปี คงต้องดูว่าคงสมัครใจออกไปทำอะไรต่อ ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าสมัครใจหรือไม่

ขณะเดียวกัน ภาพใหญ่อาจเป็นการปรับโครงสร้างองค์กร อาจต้องการแรงงานใหม่ และค่าจ้างแรงงานต่ำกว่า และเป็นเรื่องการบริหารจัดการองค์กร เชื่อว่าคงมีแรงงานเข้ามาทดแทน แต่การตัดสินใจการสมัครใจออกหรือไม่ แต่ละบุคคลพิจารณาให้ดี ออกไปแล้วทำอะไรเลี้ยงชีพได้ต่อไป ซึ่งในโลกปัจจุบัน และค่าครองชีพ คงไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ทำงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

กต.แจงยิบ MOU43 เอื้อไทยได้เปรียบ มัดกัมพูชาต้องกู้ทุ่นระเบิด

9 นาทีที่แล้ว

‘แม่ทัพภาค2’ ไฟเขียวยิงตอบโต้ ‘เขมร’ ทันที หากรุกอธิปไตย-วางทุ่นระเบิด

13 นาทีที่แล้ว

ด่วน! ศาลสั่งจำคุก ‘มารี เบิร์นเนอร์’ เมาขับ 2 เดือน – ‘ไฮโซบอส’ ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ 1 เดือน

13 นาทีที่แล้ว

‘ไอคอนสยาม’ชิงรางวัลสุดยอดโครงการค้าปลีกของโลกในรอบ 30 ปี

14 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ส่งออกไทย 7 เดือนขยายตัว 14.4% ลุ้น 5 เดือนสุดท้าย ทั้งปีโอกาสโตเกินเป้า 2-3%

ประชาชาติธุรกิจ

SAM เปิดรับผู้แนะนำทรัพย์ รับค่าตอบแทนสูงถึง 3 ล้านต่อรายการ

ฐานเศรษฐกิจ

ต่างชาติแห่เที่ยวจีน-ญี่ปุ่น พุ่งเพิ่มแรงกว่า 20% เข้าไทยหดวูบกว่า 6% | คุยกับบัญชา | 22 ส.ค. 68

BTimes

ส่งออกไทยยังทำสถิติบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 เฉลี่ย 7 เดือนโต 14%

The Better

RT เร่งเจาะทะลุอุโมงค์คลองทวีวัฒนา มูลค่ากว่า 1.8 พันล.

Manager Online

"สภาพัฒน์" เผย จ้างงานในไทยทรงตัว-หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก ระวังผลกระทบภาษีทรัมป์-ขาดแคลนแรงงาน

TNN ช่อง16

SBI Group จับมือ Chainlink ปฏิวัติวงการการเงินเอเชียด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

Manager Online

ทองพุ่ง รับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย "หมอกฤชรัตน์" ย้ำกลยุทธ์ "ย่อซื้อ"

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...