เรียกคืน พาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อดัง ระเบิดไฟลุกเอง ลือสนั่น 5 ผู้บริหารหอบเงินหนีไปแล้ว
ลือสนั่น 5 ผู้บริหารหนีไปแล้ว หลังพาวเวอร์แบงค์แบรนด์ดัง มีปัญหาระเบิดไฟลุกไหม้ บ้านใครใช้ยี่ห้อนี้อยู่ต้องระวัง
บริษัท Shenzhen ROMOSS Technology Co., Ltd. เจ้าของแบรนด์แบตเตอรี่สำรอง "ROMOSS" ในจีนแผ่นดินใหญ่ เพิ่งประกาศเรียกคืนสินค้าครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาคุณภาพ พร้อมทั้งประกาศหยุดการผลิตและหยุดดำเนินงานเป็นเวลา 6 เดือน แต่ล่าสุดมีพนักงานออกมาเปิดเผยว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท 5 คนได้หายตัวไปหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่าได้หลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียและมีการเปลี่ยนแปลงนิติบุคคลเรียบร้อยแล้ว ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์
พาวเวอร์แบงค์ระเบิดไฟลุกเอง
ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยในปักกิ่งหลายแห่งออกประกาศพร้อมกัน ห้ามใช้แบตเตอรี่สำรอง Romoss ความจุ 20,000 mAh ภายในมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยหลายครั้งติดต่อกัน หลังจากที่คณะกรรมการการศึกษาแห่งกรุงปักกิ่งออกคำสั่ง Romoss ก็ออกแถลงการณ์ทันที ระบุว่าทางบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างสูง กำลังตรวจสอบสาเหตุ พร้อมขออภัยผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ และยินดีรับผิดชอบ
ตามข้อกำหนดของสำนักงานบริหารเทศบาลเมืองเซินเจิ้นว่าด้วยการกำกับดูแลตลาด ROMOSS จะดำเนินการเรียกคืนสินค้าตามบทบัญญัติชั่วคราวว่าด้วยการจัดการการเรียกคืนสินค้าอุปโภคบริโภค การเรียกคืนครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่แบตเตอรี่สำรองสามรุ่นของแบรนด์ ROMOSS ที่ผลิตระหว่างวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ถึง 31 กรกฎาคม 2567 จำนวน 491,745 เครื่อง ซึ่งรวมถึงรุ่นและล็อตการผลิตต่อไปนี้
- รุ่น: PAC20-272, ชุดการผลิต: C14-P6/P7, M14-P6/P7, C13-P6/P7, M20-Q1/Q2, M14-Q1/Q2, C14-Q1/Q2, วันที่ผลิต: 5 มิถุนายน 2023 ถึง 28 กรกฎาคม 2023, 5 มกราคม 2024 ถึง 8 กุมภาพันธ์ 2024
- รุ่น: PAC20-392 ชุดการผลิต: M14-Q6/Q7, C13-Q6/Q7, M20-Q6/Q7, M22-Q6/Q7 วันที่ผลิต: 23 มิถุนายน 2024 ถึง 31 กรกฎาคม 2024
- รุ่น: PLT20A-152, ชุดการผลิต: M20-P8/Q1, วันที่ผลิต: สิงหาคม 2023 ถึงมกราคม 2024
หากผู้บริโภคยังคงมีพาวเวอร์แบงค์ทั้งสามรุ่นข้างต้น ขอแนะนำให้หยุดใช้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
Romoss ความจุ 20,000 mAh
บริษัทหยุดชะงัก ผู้บริหารหายตัว
ตามรายงานจากสื่อจีนอย่าง Sohu Technology และสำนักข่าวอื่น ๆ ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ROMOSS ออกประกาศหยุดงานเป็นเวลา 6 เดือน โดยให้พนักงานบางส่วนรับผิดชอบงานเรียกคืนสินค้า ส่วนที่เหลือถูกสั่งหยุดงานและหยุดจ่ายเงินเดือน พนักงานหลายคนเปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทแทบไม่เหลือกระแสเงินสด การดำเนินธุรกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤต
พนักงานระดับกลางรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาเรื่องคุณภาพ ผู้บริหารหลัก 5 คนก็หายตัวไปทั้งหมด คาดว่าได้เดินทางไปมาเลเซียอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับเปลี่ยนแปลงนิติบุคคลแล้ว อีกทั้งยังกล่าวหาว่าผู้บริหารเหล่านี้ใช้บริษัทเป็นเหมือน "ตู้เอทีเอ็มส่วนตัว" มีการนำเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ที่ฮ่องกงอย่างฟุ่มเฟือย และเมื่อบริษัทเผชิญปัญหา กลับหายตัวไปโดยไม่รับผิดชอบ
พนักงานถูกทิ้ง
พนักงานรายเดิมยังระบุอีกว่า ROMOSS มีรายได้ประมาณ 200 ล้านหยวนต่อเดือน (ประมาณ 816 ล้านบาท) แต่กลับมีเงินสดในบัญชีเหลืออยู่น้อยมาก รายได้ทั้งหมดแทบจะถูกนำไปจ่ายค่าสินค้าเดือนก่อนหน้า เงินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนไม่มีเงินสะสมหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะเงินสำรองสำหรับความเสี่ยงแทบไม่มี เหลือเพียงพอสำหรับประคองบริษัทแค่ 1 เดือนเท่านั้น
สถานการณ์ยิ่งแย่ลงในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อบริษัทเพิ่งจ่ายเงินค่าสินค้าให้กับซัพพลายเออร์หลัก 2 ราย เป็นเงินหลายสิบล้านหยวน แต่หลังจากต้องเรียกคืนสินค้า กระแสเงินสดก็ขาดช่วงทันที ส่งผลกระทบต่อทั้งซัพพลายเชนและพนักงานอย่างรุนแรง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Qichacha ระบุว่า ROMOSS จดทะเบียนด้วยทุน 6 ล้านหยวน (ประมาณ 24.47 ล้านบาท) โดยมีผู้ถือหุ้นหลักคือ Lei Guibin และ Lei Canhuo คนละ 50% ของบริษัท เดิมบริษัทมี Lei Xingrong และ Lei Shexing เป็นตัวแทนนิติบุคคล และ Lei Yanling เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี
Lei Guibin ผู้ก่อตั้ง เคยเป็นนักธุรกิจเก่าแก่จากย่าน Huaqiangbei ในเซินเจิ้น เริ่มต้นธุรกิจแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กมาตั้งแต่ปี 2000 และก่อตั้ง ROMOSS ในปี 2012 ด้วยจุดขายแบตเตอรี่สำรองความจุสูง ราคาประหยัด จนประสบความสำเร็จในตลาด
หลังข่าวหยุดงานและข่าวลือเรื่องผู้บริหารหนีออกนอกประเทศเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ชาวเน็ตจีนต่างแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลายคนวิจารณ์ว่าผู้บริหาร "ทำตัวไม่รับผิดชอบ" และกล่าวว่า "ได้โบนัสปีละหลายสิบล้านหยวน แต่พอเกิดเรื่องกลับหนี พนักงานจะอยู่กันยังไง" รวมถึงตั้งคำถามว่า "ปัญหาคุณภาพคือจุดตาย ความเสียหายของลูกค้าใครจะรับผิดชอบ" ขณะที่ทางบริษัทเองยังไม่มีการออกมาแถลงตอบโต้หรือชี้แจงต่อสาธารณะจนถึงขณะนี้