โต้กลับ! "ฮุน เซน" เผย ไทยคือแหล่งฟอกเงิน-ยาเสพติด หยุดโยนความผิดให้กัมพูชา
โต้กลับ! "ฮุน เซน" เผย ไทยคือศูนย์กลางฟอกเงิน-ค้ายาเสพติดระดับโลก เรียกร้องหยุดโยนความผิดให้กัมพูชา ท้าเปิดหน้าสู้ด้วยข้อเท็จจริง แฉ "ทักษิณ" เล่าความต้องการว่าอยากให้ "อนุทิน" พ้นจากตำแหน่ง มท.1
สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอเรียกร้องให้ผู้นำโลกและผู้นำอาเซียน ยอมรับข้อกล่าวอ้างของทักษิณ
ดังที่ผมเคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2025 ณ จังหวัดพระวิหารว่า ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ในประเทศไทยนั้นได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง โดยกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นฐานที่มั่นของอาชญากรไซเบอร์และเครือข่ายฟอกเงินขนาดใหญ่ ซึ่งเครือข่ายอาชญากรรมนี้ได้แผ่ขยายจากไทยเข้าสู่กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ วันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ทักษิณได้ยอมรับต่อสาธารณชนผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ในประเทศไทยว่า ผู้ต้องหาคดีหลอกลวงทางออนไลน์รายใหญ่หลายราย กำลังอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูในกรุงเทพฯ ที่มีมูลค่านับพันล้านบาท และสามารถเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างเสรี
ในวันเดียวกันนั้นเอง (9 กรกฎาคม 2025) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้จับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการฟอกเงิน มูลค่ารวม 11.52 พันล้านบาท ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง ขณะเดียวกัน รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้ระบุว่า การผลิตและการค้ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งติดชายแดนพม่า ลาว และไทย ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเทศไทยได้กลายเป็นเส้นทางผ่านหลัก และศูนย์กลางการกระจายยาเสพติดในปริมาณมหาศาลจากภูมิภาคดังกล่าว
ดังนั้น ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้บรรดาผู้นำของโลก รวมถึงผู้นำในภูมิภาคอาเซียน รับฟังและยอมรับข้อมูลที่ทักษิณเปิดเผย และขอเตือนไปยังนักการเมืองไทยให้เลิกกล่าวโทษกัมพูชาโดยไม่มีหลักฐาน ขณะเดียวกันกลับละเลยปัญหาในประเทศของตนเอง ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งพักพิงอันปลอดภัยของเครือข่ายมิจฉาชีพ แก๊งค้ายาเสพติด และขบวนการฟอกเงิน
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีของไทย (ซึ่งปัจจุบันถูกพักการปฏิบัติหน้าที่) ได้เคยกล่าวว่า การปิดพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชาเพื่อแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรมทางการเมืองอย่างร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในประเด็นนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของประเทศในภูมิภาค ในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในทุกรูปแบบ
ข้าพเจ้ายังพบข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ทักษิณกล่าวว่า จะไม่มีสงครามระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ แต่เปรียบเทียบสถานการณ์ว่า “นี่คือการแข่งขันดำน้ำ ใครดำน้ำได้นานกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ”
ในมุมมองของข้าพเจ้า ทักษิณกำลังสื่อถึงความอดทนต่อสถานการณ์ปิดพรมแดน ว่าใครทนได้นานกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผู้อยู่เบื้องหลังการปิดพรมแดนก็คือ ทักษิณ นั่นเอง ส่วนกัมพูชาก็ยอมรับในเกมนี้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน สิ่งที่น่ากังวลคือ ผู้ที่เป็นฝ่ายจุดชนวนให้เกิดเกมนี้ อาจจะล้มก่อนที่เกมจะจบด้วยซ้ำ
วันหนึ่ง ข้าพเจ้าอาจต้องใช้เวลากว่าสามชั่วโมงเต็ม เพื่อพูดถึงเรื่องของทักษิณ — บุคคลที่ข้าพเจ้าเคยให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2025 โดยในช่วงเย็นของวันที่ 15 มิถุนายน 2025 ทักษิณได้ส่งสารผ่านทางคุณคลัง หวด ว่า ให้ถอดถอนนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถเข้าควบคุมกระทรวงมหาดไทย ข้าพเจ้าจึงตอบกลับไปว่า “ถ้าคุณถอดเขา เขาก็จะถอนตัวคุณกลับเช่นกัน”
ในความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่รู้สึกแปลกใจเลยกับการที่ทักษิณทรยศข้าพเจ้า เพราะแม้แต่ประเทศชาติและสถาบันของตนเอง เขายังกล้าทรยศ แล้วทำไมจะไม่กล้าทรยศข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนต่างชาติ? แต่ทักษิณไม่ควรลืมว่า มีหลายเรื่องมากที่เขาเคยมาขอคำปรึกษาจากข้าพเจ้า เช่น การสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหมภายในเวลา 24 ชั่วโมง หรือคำพูดล่วงเกินที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งพระมหากษัตริย์ในอดีตและพระองค์ปัจจุบัน
นักวิชาการไทยบางท่านถึงกับกล่าวว่า ข้าพเจ้ามีความเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง และจะไม่ให้เข้าใจได้อย่างไร ในเมื่อทักษิณให้ข้อมูลและมาขอคำปรึกษากับข้าพเจ้าแทบทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน ขึ้นอยู่กับภาระงาน — ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องของกัมพูชาเลย แต่เป็นเรื่องการเมืองในประเทศไทยต่างหาก