โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

'เวิลด์แบงก์' มองจีดีพีไทยปี 2025 โต 1.8% จากเทรดวอร์กดดันส่งออก

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงรอบด้านทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกจนทำให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาชะลอตัวลงอย่างมาก

ล่าสุด (3 ก.ค.68) ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกรายงาน Thailand Economic Monitor ซึ่งปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2025 ลงเหลือ 1.8% และปีหน้าลงเหลือ 1.7% เนื่องจากหลายปัจจัยแต่ที่เด่นที่สุดคือ “ผลกระทบจากสงครามการค้า

รายงานระบุว่า ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการช่วงเดือนก.พ. จากรายงาน Thailand Economic Monitor ที่ตอนนั้นคาดการณ์ว่าจีดีพีจะโตได้สูงถึง 2.9% แต่ความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากในปัจจุบันจนทำให้เกิดความไม่แน่นอนทั่วโลก ซึ่งกระทบต่อการส่งออกโดยตรง และชะลอการลงทุนภายในประเทศ

ทั้งนี้ รายงาน Ease Asia and Pecific Update ของธนาคารโลก ซึ่งเป็นรายงานฉบับปรับปรุงที่รายงานออกมาในเดือนเม.ย. ระหว่างการประชุม IMF-World Bank Spring Meeting รายงานฉบับปรับปรุงนี้ ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยทั้งปี 2025 อยู่ที่ 1.6%

ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส จากเวิลด์แบงก์ ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการกรุงเทพธุรกิจ Deeptalk ว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าจะทำให้การส่งออกช่วงที่เหลือของปีชะลอตัวซึ่งแม้ว่าในไตรมาสที่หนึ่งตัวเลขการส่งออกจะดูดี แต่ก็เป็นเพราะเป็นการเร่งการส่งออกในช่วงการชะลอภาษี 90 วันของโดนัลด์ ทรัมป์ หรือ Front-loading ซึ่งเมื่อหักล้างกับช่วงที่เหลือของปีแล้วก็คาดว่าจะทำให้จีดีพีโตได้แค่ 1.8% ตามรายงาน

อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันการเติบโตของปีนี้เช่นเดียวกัน ดร.เกียรติพงศ์ กล่าวว่า คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 เนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนย้ายไปประเทศอื่นในเอเชีย

เงินเฟ้อไทยต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ธปท.

สำหรับทิศทางราคาสินค้า และบริการ เวิลด์แบงก์มองว่า แนวโน้ม “เงินเฟ้อของไทย” มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากบางช่วงเวลาติดลบ และใกล้เคียงกับ 0% โดยอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

สาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อต่ำนี้ สะท้อนจาก 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้ :

  • อุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ : เวิลด์แบงก์ ชี้ว่านี่เป็นสิ่งที่เห็นมานานแล้ว และปัจจุบันยิ่งชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคที่ได้รับผลกระทบจาก ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเปรียบเสมือน "กรรมเก่า" ที่ไทยต้องชดใช้ และส่งผลต่อการบริโภคที่ลดลง
  • นโยบายการตรึงราคา : ประเทศไทยมีนโยบายตรึงราคาสินค้า และบริการบางประเภท เช่น ค่าไฟฟ้า ส่งผลให้ราคาของสินค้าหลายหมวดไม่ค่อยมีการขยับ ซึ่งทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำ

“แม้เงินเฟ้อจะต่ำ แต่ ณ ปัจจุบันเงินเฟ้อไทยยังไม่ได้อยู่ในภาวะเงินฝืด (deflation) ซึ่งหมายถึง การปรับลดลงของราคาในทุกหมวดหมู่สินค้าในวงกว้าง โดยมองว่าการลดลงของราคาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงาน” ดร.เกียรติพงศ์ กล่าว

'แบงก์ชาติ' มองเศรษฐกิจไทยดีกว่า 'เวิลด์แบงก์'

มากไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ธปท.ได้ปรับประมาณการจีดีพีไทยในปี 2025 ขึ้นเป็น 2.3% จากตัวเลขการส่งออกในไตรมาสที่ 1 ที่สดใสตามคาด และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ในไตรมาส 2 ที่เริ่มออกมา ดังนั้นเมื่อถามว่าทำไมเวิลด์แบงก์ และ ธปท. มองแนวโน้มจีดีพีปี 2025 แตกต่างกันค่อนข้างมาก

ในประเด็นนี้ ดร.เกียรติพงศ์ กล่าวว่า “ธปท. อ้างอิงตัวเลขจีดีพีในไตรมาสแรกที่ออกมาดีกว่าคาด แต่ทางธนาคารโลกมองว่าการที่จีดีพีในไตรมาส 1 ดูดีนั้นมาจากปัจจัยชั่วคราว คือ เรื่องการส่งออกที่เร่งตัว แต่คาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปีนี้”

ปัญหาเชิงโครงสร้าง '3 เนิน' เศรษฐกิจไทย

นอกจากปัญหาระยะสั้นจากสงครามการค้าแล้ว เมื่อถามถึง “ภาพรวมปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย” ว่ามีอะไรบ้างและเปรียบเสมือนอะไร นักเศรษฐศาสตร์จากเวิลด์แบงก์ผู้นี้ระบุว่า ความท้าทายของเศรษฐกิจไทยเปรียบเสมือน “เนิน” ที่มีอยู่ทั้งหมด 3 ประการ ประกอบด้วย

1. สังคมสูงอายุ : จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจยากขึ้น

2. ทุนมนุษย์ และทักษะ (Digital Skill) : การขาดแคลนทักษะดิจิทัล และการศึกษาที่ยังไม่ตอบสนองต่อเศรษฐกิจดิจิทัล แม้ไทยมีการรับรองหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรมสูง แต่ยังขาดแคลนคนที่มีทักษะในการควบคุม และบริหารจัดการ

3. นโยบายการคลัง : การบริหารจัดการงบประมาณ การจัดสรรการใช้จ่าย และการจัดเก็บรายได้ เพื่อลงทุนในอนาคตของประเทศโดยไม่สร้างภาระหนี้ที่เกินตัวให้กับคนรุ่นหลัง

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

พาณิชย์ เดินหน้าปราบนอมินี แม้การเมืองเปลี่ยน ลุยสอบ“นอมินี” 46,918 ราย ทั่วประเทศ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

COSMOTALKS 2025 ชี้เทรนด์! ความงามยุคใหม่ เน้น AI-สุขภาพยั่งยืน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คู่มือเอาตัวรอดจาก Toxic Boss จอมบงการ ต้องพลิกเกมอย่างมืออาชีพ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'มิสเตอร์เกษตร' เผยรัฐบาลตีตกงบกระตุ้นศก.ของ 'อปท.' ทุกโครงการ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

15 หุ้น “โรบอทเทรด” คึก! แรงซื้อ AWC ดันราคาปิดเด้ง 5%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เตือนผู้ใช้ SCB EASY เร่งเช็กชื่อบัญชี-ซิมให้ตรง ภายใน 8 ก.ค.นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ 4 ก.ค. อัปเดตราคาเบนซิน-ดีเซล-แก๊สโซฮอล์ ล่าสุดที่นี่

The Bangkok Insight

รีบอัปเดตก่อน 22 ก.ค. นี้! "LINE" เตรียมยุติรองรับ Wear OS 1.4.2

PPTV HD 36

“ชูศักดิ์” ชี้ปรับแผนรับศึกนับองค์ประชุม ย้ำ “สส.เพื่อไทย” เข้าร่วมมากกว่า 90%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

หุ้นอินเดีย จุดสูงสุด หยุดชั่วคราว หรือพร้อมพุ่งทะยาน?

Finnomena

พาณิชย์ เดินหน้าปราบนอมินี แม้การเมืองเปลี่ยน ลุยสอบ“นอมินี” 46,918 ราย ทั่วประเทศ

กรุงเทพธุรกิจ

SCB EIC มองลดหย่อนภาษี “โซลาร์รูฟท็อป” หนุนติดตั้งเพิ่ม วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้น

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...