"เมลาเนีย" ฝากทรัมป์ส่งจดหมายของเธอให้ปูติน แสดงความกังวลรัสเซียลักพาตัวเด็ก
เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ เขียนจดหมายส่วนตัวฝากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มอบให้กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในระหว่างการประชุมสุดยอดสหรัฐฯ-รัสเซีย เพิ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (15 สิงหาคม) ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าทรัมป์ได้ส่งจดหมายของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกับมือของเขาเองให้กับผู้นำรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยภาพของจดหมายฉบับดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว กล่าวว่าข้อความในจดหมายเกี่ยวข้องกับความทุกข์ยากของเด็ก ๆ ทั้งในรัสเซียและยูเครนที่ต้องเผชิญ นอกจากนี้จดหมายของเมลาเนีย ทรัมป์ ยังกล่าวถึงประเด็น “การลักพาตัวเด็ก” ที่เกิดขึ้นจากผลพวงของสงครามในยูเครนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวไม่เคยเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับจดหมายของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งมาก่อน จนกระทั่งมีการพูดถึงอีกครั้งเมื่อจดหมายถูกส่งต่อไปถึงปูตินแล้ว
นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่เข้ามามีส่วนร่วมในความพยายามให้เกิดสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ย้อนไปเมื่อช่วงต้นปีทรัมป์เคยออกมากล่าวว่าภรรยาของเขาได้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ตัวเขาพยายามสร้างสันติภาพในยูเครนให้ได้ เช่นเดียวกับในช่วงที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเพิ่งเริ่มปะทุขึ้น เมลาเนีย ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้ผู้ติดตามของเธอบนโซเชียลมีเดียช่วยบริจาคเงินให้กับกาชาด พร้อมกับเรียกสงครามที่เกิดขึ้นว่าใจสลายและน่าหดหู่ที่ต้องเห็นผู้บริสุทธิ์ต้องเจ็บปวด
สำหรับประเด็นที่รัสเซียจับกุมตัวเด็กชาวยูเครน รอยเตอร์สรายงานว่า ประเด็นดังกล่าวยังคงละเอียดอ่อนและกระทบจิตใจชาวยูเครนอย่างมาก ทางการยูเครนเคยเปิดเผยว่ายอดเด็กที่ถูกกองทัพรัสเซียลักพาตัวมีมากกว่าหลายหมื่นคน โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากครอบครัวหรือผู้ปกครอง ซึ่งยูเครนมองว่าการกระทำนี้ถือเป็นอาชญากรรมสงครามที่เข้าข่ายคำจำกัดความของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตามสนธิสัญญาของสหประชาชาติ แต่รัสเซียกลับปฏิเสธและกล่าวว่ากองทัพรัสเซียได้พยายามปกป้องเด็ก ๆ ออกจากเขตสงคราม
อย่างไรก็ตาม สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามของสหรัฐฯ (Institute for the Study of War) หรือ ISW คาดการณ์ว่ามีเด็กชาวยูเครนมากกว่า 19,500 คน ถูกส่งตัวไปยังรัสเซียในช่วงสงคราม ขณะที่ ข้อมูลจากฝั่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่ากองทัพรัสเซียได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับเด็กชาวยูเครนนับล้านคนด้วยการละเมิดสิทธิของพวกเขา ตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการโจมตีในยูเครนเมื่อปี 2022 และเพราะประเด็นการลักพาตัวเด็กที่เกิดขึ้นได้ถูกนำมาร่วมพิจารณาก่อนที่ในปี 2023 ศาลอาญาระหว่างประเทศจะออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในฐานะอาชญากรสงคราม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อะแลสกา: เวที “ยกสถานะรัสเซีย” ด้วยสัญลักษณ์ ที่ไร้ข้อตกลง
- เราได้รู้อะไรบ้าง ? จากการประชุมสุดยอด ทรัมป์-ปูตินในอะแลสกา
- สำรวจปฏิกิริยาหลังการประชุม ทรัมป์-ปูติน สื่อนอกมองเหมือนโยนชัยชนะให้รัสเซีย
- ทรัมป์-ปูติน ประชุมร่วมที่อะแลสกาเสร็จสิ้น "ยังไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น" เกี่ยวกับสงครามในยูเครน
- “ทรัมป์” เดินหน้าลดคนภาครัฐ บีบออก 300,000 คน ในปีนี้ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน