ทรัมป์เตือนปูตินแรง หลังเตรียมการประชุมสุดยอดกับผู้นำยุโรป

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตือนว่าเขาจะ “ออกมาตรการที่จะมีผลกระทบร้ายแรงตามมา” หากวลาดิมีร์ ปูติน ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงหยุดยิงในปลายสัปดาห์นี้ หลังจากการโทรศัพท์หารือกับผู้นำยุโรปก่อนการพบปะกับประธานาธิบดีรัสเซีย

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาหวังที่จะใช้การประชุมวันศุกร์นี้เพื่อ “จัดการประชุมครั้งที่สองอย่างรวดเร็ว” กับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน หลังจากที่พันธมิตรกดดันให้เขาผลักดันการประชุมสุดยอดดังกล่าว

“มีโอกาสสูงมากที่เราจะมีการประชุมครั้งที่สองที่จะมีประสิทธิผลมากกว่าครั้งแรก” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธ (13 ส.ค. 68 ) ที่ศูนย์เคนเนดี พร้อมเสริมว่า เขากำลัง “จัดเตรียมโต๊ะสำหรับการประชุมครั้งที่สอง”

คำกล่าวของประธานาธิบดีส่งสัญญาณทั้งว่าเขาต้องการลดความคาดหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์จากการประชุมสุดยอดที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา กับปูติน และการตอบสนองต่อข้อกังวลของพันธมิตรยุโรปที่เรียกร้องให้เขาให้ความสำคัญกับการเจรจาโดยตรงระหว่างปูตินและเซเลนสกี

ผู้ที่กังขาความพยายามของทรัมป์แสดงความกังวลว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเคยกล่าวว่าข้อตกลงในที่สุดจะรวมถึงการแลกเปลี่ยนดินแดน อาจตกลงตามเงื่อนไขสันติภาพที่ปูตินเสนอ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อยูเครน

ทรัมป์ให้คำมั่นกับผู้นำผ่านการประชุมออนไลนส์ว่า เขาจะไม่เจรจาเรื่องดินแดนกับปูติน และจะผลักดันให้ผู้นำรัสเซียพบกับเซเลนสกี ตามรายงานจากหลายแหล่งที่ได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการหารือ

ทรัมป์ย้ำคำกล่าวต่อสาธารณชนว่า เขาจะทราบได้อย่างรวดเร็วว่าประธานาธิบดีรัสเซียจริงจังกับการเจรจาหรือไม่ และกล่าวว่าสหรัฐฯ ยินดีให้การสนับสนุนการรับประกันความมั่นคงบางประการแก่ยูเครน ยกเว้นกรณีที่เคียฟเป็นสมาชิกนาโตอย่างเต็มรูปแบบ

ประเด็นอ่อนไหว ทรัมป์จะยอมยกดินแดนยูเครนให้รัสเซียหรือไม่

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธหลังการหารือทางโทรศัพท์ว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการประนีประนอมดินแดนที่อาจเกิดขึ้นจะต้องดำเนินการโดยยูเครน และไม่มี "แผนการแลกเปลี่ยนดินแดนที่จริงจังบนโต๊ะในวันนี้"

“ทรัมป์ชัดเจนมากเกี่ยวกับความจริงที่ว่าสหรัฐฯ ต้องการหยุดยิงในการประชุมครั้งนี้ที่อะแลสกา” มาครงกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เมืองเบรกานซง ประเทศฝรั่งเศส “เราขอย้ำว่าจนกว่าจะมีการหยุดยิงและสันติภาพที่ยั่งยืน เราต้องสนับสนุนยูเครนต่อไป และที่ผมพูดว่าเรา ผมหมายถึงชาวยุโรปและชาวอเมริกัน”

ทรัมป์และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจ.ดี. แวนซ์ ได้เข้าร่วมการหารือกับผู้นำยุโรปหลายคน รวมถึงจากเยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ และอิตาลี รวมถึงเซเลนสกีและมาร์ก รุตเตอร์ เลขาธิการนาโต ในการหารือที่กินเวลาราวหนึ่งชั่วโมง อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเข้าร่วมการหารือด้วย ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ “พูดคุยกันอย่างราบรื่น” และ “ช่วยเสริมสร้างจุดร่วมสำหรับยูเครน”

ทรัมป์ได้อธิบายการหารือในทำนองเดียวกัน โดยกล่าวว่าเขาจะ “ให้คะแนนเต็ม 10” และกล่าวว่าเขาได้สัญญาว่าจะบรรยายสรุปให้เซเลนสกีและผู้นำยุโรปทราบทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการหารือกับปูติน

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขายินดีที่จะถอนตัวหากเขามองว่าปูตินไม่จริงใจ

“ตอนนี้อาจจะไม่มีการประชุมครั้งที่สองแล้ว เพราะถ้าผมรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะประชุม เพราะผมไม่ได้รับคำตอบที่เราต้องการ เราก็จะไม่ได้ประชุมครั้งที่สอง” ทรัมป์กล่าว

แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ตุรกีถูกกล่าวถึงในการสนทนาทางโทรศัพท์ว่าจะเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างทรัมป์ ปูติน และเซเลนสกี หากการประชุมเกิดขึ้นจริง

การเจรจาเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาอย่างเข้มข้นหลายวันระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยุโรป และยูเครน ก่อนที่ทรัมป์จะประชุมกับปูตินที่อะแลสกาในวันศุกร์นี้

ผู้นำยุโรปหนุนหลังยูเครนเต็มที่

ฟรีดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่ายูเครนจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจใดๆ

“เราได้แจ้งอย่างชัดเจนแล้วว่ายูเครนจะเข้าร่วมการเจรจาทันทีที่มีการประชุมติดตามผล” แมร์ซกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเบอร์ลินพร้อมกับเซเลนสกี “ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้การหยุดยิงเป็นอันดับแรก”

บลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้ว่า มอสโกเรียกร้องให้ยูเครนยกดินแดนดอนบาสตะวันออกทั้งหมด รวมถึงคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งกองกำลังของปูตินได้ผนวกเข้าอย่างผิดกฎหมายในปี 2014 ปูตินเสนอเป็นเงื่อนไขในการยุติการหยุดยิงและเข้าสู่การเจรจาเพื่อหาข้อยุติที่ยั่งยืน

ผลลัพธ์ดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลในเคียฟต้องสละพื้นที่บางส่วนของจังหวัดลูฮันสก์และโดเนตสก์ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม และมอบชัยชนะให้กับรัสเซีย ซึ่งกองทัพรัสเซียไม่สามารถบรรลุได้ทางการทหารมานานกว่าทศวรรษ

เซเลนสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาจะไม่ยกดินแดนดอนบาส และเสริมว่าเครมลินอาจใช้พื้นที่นี้เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับการรุกในอนาคต ชาติต่างๆ ในยุโรปได้แจ้งอย่างชัดเจนต่อสหรัฐฯ ว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับรองดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองอย่างผิดกฎหมายอย่างเป็นทางการ

มาครงกล่าวว่า คำถามเกี่ยวกับดินแดนดังกล่าว“จะมีเพียงประธานาธิบดียูเครนเท่านั้นที่จะเจรจา”

“เราสนับสนุนจุดยืนนี้ และประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงออกอย่างชัดเจน” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่าผู้นำสหรัฐฯ จะต่อรองเพื่อให้มี การประชุมไตรภาคีกับปูตินและเซเลนสกี

เคียฟและพันธมิตรโต้แย้งว่าการสงบศึกตามแนวรบปัจจุบันควรเป็นก้าวแรกสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการ ผู้นำยุโรปยังย้ำกับทรัมป์ว่ายูเครนต้องการการรับประกันความมั่นคงที่แข็งแกร่งเพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงใดๆ จะมีผลทางปฏิบัติจริง

“หากไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากฝั่งรัสเซียในการประชุมที่อะแลสกา สหรัฐอเมริกาและเราชาวยุโรปควรและต้องเพิ่มแรงกดดัน” แมร์ซกล่าว “ประธานาธิบดีทรัมป์ตระหนักถึงจุดยืนนี้และส่วนใหญ่เห็นด้วย”

จนถึงขณะนี้ ทรัมป์ยังไม่ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรโดยตรงใดๆ กับมอสโก แม้ว่าเขาจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียเป็นสองเท่าเป็น 50% ในสัปดาห์ที่แล้วสำหรับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจในนิวเดลี

เขาขู่ว่าจะเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อมอสโก เว้นแต่ปูตินจะตกลงหยุดยิงภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา เส้นตายดังกล่าวผ่านไปโดยไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศการประชุมสุดยอดครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคม

ผู้นำยุโรปยังกล่าวอีกว่า ทรัมป์ ปูติน และเซเลนสกี อาจตั้งเป้าที่จะยุติการสู้รบอย่างเป็นทางการควบคู่ไปกับการทำข้อตกลงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์หลักสำหรับการเจรจาสันติภาพในการประชุมไตรภาคี ทั้งนี้ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ

เซเลนสกีกล่าวว่าผู้เข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์เห็นพ้องต้องกันว่า “ต้องมีการรับประกันความมั่นคง และต้องเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น หากรัสเซียไม่ยอมหยุดยิงในการประชุมที่อะแลสกา”

“เราต้องการแรงกดดันมากขึ้น ไม่ใช่แค่การคว่ำบาตรจากอเมริกาเท่านั้น แต่รวมถึงจากยุโรปด้วย” เซเลนสกีกล่าว