"เมย์แบงก์" มอง "อสังหาฯ" กำไร 2Q68 หดตัว แนวโน้ม 3Q68 ทรุดต่อ ลุ้นยอดจองคอนโดฯฟื้น-LTV หนุน

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เมย์แบงก์” มอง “อสังหาฯ” กำไรไตรมาส 2 หดตัว แนวโน้มไตมาส 3 ยังทรุดต่อ รอลุ้นยอดจองคอนโดฯฟื้น-LTV หนุน

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST รายงานบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ลดลง YoY คาดว่าหุ้นในกลุ่มอสังหาฯภายใต้การวิเคราะห์จะมีกำไรรวมกันที่ 5,400 ล้านบาทในไตรมาส 2/68 ลดลง 6% YoY แต่เพิ่มขึ้นถึง 82% QoQ

โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเช่นการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และการจดจำนองที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 68 และการผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อต่อมูลค่า หรือ LTV ที่เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 68 ช่วยสนับสนุนผลประกอบการในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ยังไม่มีมาตรการดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากำไรจะยังลดลงจากปีก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจากผลกระทบของมาตรการภาษีของสหรัฐฯซึ่งกดดันทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความต้องการที่อยู่อาศัยแนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดว่ากำไรในไตรมาส 3/68 จะฟื้นตัว QoQ อย่างต่อเนื่อง โดยผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมน่าจะค่อยๆคลี่คลาย นอกจากนี้เรายังคาดว่าการจองและโอนคอนโดมิเนียมสุทธิจะสูงขึ้นในไตรมาสนี้รวมถึงมาตรการผ่อนคลาย LTV ที่จะมีผลเต็มไตรมาส

อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรสุทธิยังคงลดลง YoY เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศโดยรวมยังคงชะลอตัวเลือก AP เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มเราคาดว่าผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมาร์ที่สั่นสะเทือนไปถึงกรุงเทพฯจะมีผลจำกัดต่อ AP เนื่องจาก 4 ใน7 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ของบริษัทในปีนี้เป็นโครงการแนวราบ นอกจากนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงสร้างเงินทุนของAP โดยอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน หรือ Net Gearing ณ สิ้นไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 0.68 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.08 เท่า และในแง่ของมูลค่า AP ซื้อขายที่ P/E ปี 68 เพียง 5.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีของกลุ่มอสังหาฯที่อยู่อาศัยถึง 1.5 SD

คงมุมมอง"เท่าตลาด" กลุ่มอสังหาฯเลือก AP เป็นหุ้นเด่นเราคงมุมมอง “เท่าตลาด” สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยมองว่ากลุ่มนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายด้านขณะที่ในระยะกลางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัว ซึ่งบางส่วนได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่าหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความเสี่ยงดังกล่าวแล้วโดยหุ้นส่วนใหญ่ซื้อขายที่อัตรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง