“สหรัฐ” เลื่อนประกาศผลสอบนำเข้ายา–แผนเก็บภาษีอุตฯยา ออกไปหลายสัปดาห์
"สหรัฐ" เลื่อนประกาศผลสอบสวนการนำเข้ายาและแผนเก็บภาษีเฉพาะอุตสาหกรรมออกไปอีกหลายสัปดาห์ จากเดิมที่คาดว่าจะเสร็จภายใน ก.ค. เหตุให้ความสำคัญกับการประชุมสุดยอดสหรัฐ–รัสเซียก่อน
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 04.40 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประกาศผลการสอบสวนของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการนำเข้ายาและการจัดเก็บภาษีศุลกากรเฉพาะอุตสาหกรรม อาจยังต้องรออีกหลายสัปดาห์กว่าจะมีความชัดเจน แหล่งข่าวจากทางการและภาคอุตสาหกรรม 4 รายเปิดเผยว่า กำหนดเวลาดังกล่าวล่าช้ากว่าที่ให้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากทรัมป์กำลังให้ความสำคัญกับประเด็นอื่น
ฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวเมื่อเดือนเมษายน ตอนที่เริ่มต้นการทบทวนว่าการพึ่งพาการผลิตยาจากต่างประเทศส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ว่า คาดว่าจะสรุปผลสอบสวนได้ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน ขณะที่บริษัทยาข้ามชาติทั่วโลกกำลังจับตาผลการสอบสวนนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดการเก็บภาษีศุลกากรเฉพาะอุตสาหกรรม ที่ทรัมป์ระบุว่าอาจเริ่มในอัตราต่ำแล้วค่อยปรับขึ้นจนสูงถึง 250%
ทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แผนนี้จะใช้วิธีปรับภาษีเป็นขั้นตอน เพื่อให้ผู้ผลิตยามีเวลาขยายการผลิตในสหรัฐ ตามเป้าหมายของเขาที่จะปรับโครงสร้างความไม่สมดุลทางการค้าทั่วโลกในหลายอุตสาหกรรม
แหล่งข่าวจากรัฐบาลยุโรป 1 ราย แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการทำงานของทำเนียบขาว 1 ราย และแหล่งข่าวในบริษัทยายุโรป 2 รายที่ติดตามเรื่องนี้ ระบุว่ารายงานและการประกาศภาษียังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และน่าจะอีกหลายสัปดาห์
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวถึงรายงานของสื่อที่อ้างว่าผลสอบสวนอาจล่าช้าไปอีกหลายสัปดาห์ว่า เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น หากยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดการสอบสวนทั้งในอุตสาหกรรมยาและเซมิคอนดักเตอร์
การสอบสวนครอบคลุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาตั้งแต่ยาสำเร็จรูปตามใบสั่งแพทย์ ไปจนถึงสารออกฤทธิ์ทางยา (APIs) และวัตถุดิบอื่น ๆ โดยผลสอบสวนจะถูกรวมไว้ในรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ลัตนิกเคยระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า แผนเก็บภาษีจากรายงานนี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. เขากล่าวว่าจะเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์
การสอบสวนนี้ดำเนินการภายใต้มาตรา 232 ของกฎหมาย Trade Expansion Act ปี 1962 ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีปรับการนำเข้า รวมถึงการเก็บภาษี หากพบว่าสินค้าประเภทใดถูกนำเข้าในปริมาณที่คุกคามหรือทำให้ความมั่นคงของชาติเสื่อมถอยในระหว่างการสอบสวน อุตสาหกรรมยายังได้รับการยกเว้นจากมาตรการเก็บภาษีที่กว้างขวางซึ่งรัฐบาลทรัมป์บังคับใช้
สหรัฐได้ทำข้อตกลงการค้ารายประเทศกับสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป เพื่อให้มีเงื่อนไขเอื้อประโยชน์ต่อการส่งออกยามายังสหรัฐ มากกว่าที่คาดว่าจะเก็บในอัตราสำหรับตลาดโลก
เจ้าหน้าที่รัฐบาลยุโรปรายหนึ่งกล่าวว่าการประกาศก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมมีโอกาสน้อย แม้ไทม์ไลน์อาจเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทยายุโรปเปิดเผยว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังโฟกัสไปที่การประชุมสุดยอดสหรัฐ–รัสเซียในอลาสกาในวันศุกร์นี้ จึงไม่คาดว่าจะมีการประกาศในสัปดาห์นี้
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกระบวนการของทำเนียบขาวระบุเช่นกันว่า การประกาศผลสอบสวนไม่น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้เนื่องจากมีเรื่องอื่นที่ให้ความสำคัญมากกว่า โดยคาดว่ารัฐบาลทรัมป์จะประกาศผลการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ก่อน แล้วจึงประกาศเรื่องอุตสาหกรรมยา ซึ่งจะทำให้เลื่อนไปอีกหลายสัปดาห์
ในอดีต สินค้าด้านการแพทย์มักได้รับการยกเว้นจากสงครามการค้า เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงยาของผู้ป่วย ขณะที่ผู้ผลิตยาระบุว่าภาษีอาจบั่นทอนนโยบายด้านสาธารณสุขอื่น ๆ ของรัฐบาลทรัมป์ เช่น ความพยายามลดราคายา
การเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาของสหรัฐ จะเป็นมาตรการภาษีเฉพาะอุตสาหกรรมล่าสุดของรัฐบาลนี้ ต่อจากภาคโลหะและยานยนต์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่าจะผลักดันให้ต้นทุนของผู้บริโภคชาวอเมริกันสูงขึ้น
อ้างอิง : reuters.com