โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปุ๋ย-ยาเคมีดัมพ์ราคาขายไม่ออก ทุเรียน-ผลไม้ยอดร่วงทั้งประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นักธุรกิจค้าเคมีเกษตร ปุ๋ย-ยา บ่นอุบ ประเมินยอดขายทั่วประเทศตก 40% เจอปัญหาสารพัด พืชผลออกล้นตลาด ลำไย มังคุด ข้าว ราคาตก ทุเรียนราคาตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี เหลือกิโลละ 35 บาท เกษตรกรลดคำสั่งซื้อ เลิกสต๊อกปุ๋ย ร้านค้าถล่มดัมพ์ราคา แต่ยังขายไม่ออก พืชสวนเกษตรทุกภาคขาดแรงงานหลักชาวกัมพูชาฉีดพ่นสารเคมีบำรุงดอก-ใบ

แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเคมีเกษตรรายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเคมีเกษตร ขายปุ๋ย ยาสำหรับใช้ในพืชผลการเกษตรทั่วประเทศน่าจะยอดขายลดลงเฉลี่ย 30-40% เนื่องจากหลายสาเหตุปัญหาหลักมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดทั้งทุเรียน ลำไย มังคุด ข้าว ฯลฯ ราคาตกต่ำ ภัยธรรมชาติจากน้ำท่วม

รวมถึงเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ พื้นที่เกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ยังไม่สามารถทำเกษตรได้เต็มที่ ส่งผลให้หลายบริษัทในวงการต่างพยายามพยุงยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ด้วยการดัมพ์ราคาขายปุ๋ย ยาลงมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีการจัดโปรโมชั่นกันกระหน่ำ แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นมากนัก เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมยอดขายทั้งปีของธุรกิจเคมีเกษตรปี 2568 ทุกรายต่างพยายามประคองให้ใกล้เคียงกับปี 2567

“ตอนนี้ผู้ประกอบการเคมีเกษตรต่างเผชิญกับยอดขายที่ลดลงหนักมาก ๆ ทุกรายต่างพยายามประคองตัว เร่งลดสต๊อกด้วยการปรับลดราคาลง มาร์จิ้นต่ำกันมาก ๆ เพื่อให้ได้เงินสดในมือขึ้นมาหมุนเวียนก่อน ปัจจัยหลักมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ต่ำลงมาก ๆ ตอนนี้ราคาทุเรียนใต้ต่ำถึง 35 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคานี้ย้อนกลับไปสัก 20 ปีก่อน

ขณะที่ 4 จังหวัดอีสาน สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ที่มีเหตุการณ์ปะทะกับกัมพูชาที่ผ่านมา บางพื้นที่ยังเข้าไม่ได้ เพราะมีระเบิดที่ยังไม่ระเบิดฝังอยู่ ได้ช่วยลูกค้าโดยยืดการชำระเงินออกไป ดังนั้น ผลประกอบการปลายปี 2568 คงต้องอาศัยอานิสงส์ของยอดขายช่วงต้นปี หากบริษัทไหนทำไว้ได้มากก็จะมาช่วยสนับสนุนยอดขาย 6 เดือนหลังที่ลดลง” แหล่งข่าวกล่าว

ร้านปุ๋ย-ยา ยอดวูบ 20-40%

นายนิมิตร สุวัฒน์ศรีสกุล ผู้จัดการ บริษัท เทพนิมิตการเกษตร จำกัด อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัญหาผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนราคาลดต่ำลงมากถึง 50% จากราคาเฉลี่ยปี 2567 กก.ละ 120-130 บาท ปี 2568 ลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 60-70 บาท และมีปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศอย่างกะทันหัน ทำให้ชาวสวนพยายามลดต้นทุนและทำสวนเองในระหว่างที่รอแรงงานมาทดแทน

หลังการเก็บเกี่ยวช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ชาวสวนจะเลือกใช้ปุ๋ย สารฉีดพ่นฆ่าแมลงเฉพาะที่จำเป็น ยอดขายลดลงประมาณ 30-40% และจะมีรอบการใช้ปุ๋ย ยา ปริมาณมากในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ทางร้านได้ปรับตัวลดการสั่งสินค้าจำนวนมากเพื่อไม่ให้สินค้าค้างสต๊อก และพยายามให้ลูกค้าเก่ารักษาวินัยทางการเงิน

เจ้าของร้าน ส.มิตรเกษตร อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” เพิ่มเติมว่า จากราคาผลไม้ในปีนี้ไม่ดีเหมือนปีก่อน ทำให้ชาวสวนระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินและพยายามลดต้นทุนการผลิต หลังการเก็บเกี่ยวเตรียมการผลผลิตฤดูกาลหน้า ชาวสวนจะไม่ซื้อ ปุ๋ย ยา ล่วงหน้าไปสต๊อก แต่ซื้อเฉพาะที่ใช้ ปกติช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เป็นช่วงที่ใช้ปุ๋ย ยา ปริมาณมากขึ้น เพราะเป็นช่วงทำใบ ทำดอก เพื่อให้ได้ผลผลิตในเดือนเมษายนปีหน้า โดยเฉพาะการพ่นยาฆ่าแมลง ฆ่าเชื้อรา

แต่เมื่อแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในสวนกลับประเทศ ทำให้มีแรงงานน้อยลง น่าจะส่งผลกระทบให้ปริมาณการซื้อ ปุ๋ย ยาลดลงไปอีก ประกอบกับแม่ปุ๋ยมีการปรับราคาขึ้น กระสอบละ 40-50 บาท (กระสอบขนาด 50 กก.) ทำให้เจ้าของสวนไม่อยากลงทุนมากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ยอดจำหน่ายของร้านตอนนี้ลดลงไป 30%

เช่นเดียวกับ นายดุษฎี วงศ์โรจน์ ผู้จัดการร้านเกษตรเนินสูง จำหน่ายปุ๋ย ยา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ระบุว่า ขณะนี้ยอดขายปุ๋ย และยาของทางร้านลดลง เนื่องจากปัญหาหลักราคาทุเรียนลดต่ำมากในปีนี้ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานกัมพูชา ทำให้ชาวสวนรุ่นใหม่ ๆ คิดคำนวณลดต้นทุนให้ได้มาก โดยใช้ปัจจัยการผลิตเท่าที่จำเป็น ขณะที่ทางร้านพยายามที่จะคุมต้นทุนให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ จะไม่ส่งเสริมให้ลูกค้าตุนยาเพื่อเอายอดขาย

แรงงานเขมรกลับประเทศ

ผู้บริหารร้านชัยพฤกษ์อโกรเทค อ.ขลุง จ.จันทบุรี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ยอดขายปุ๋ย และยาของทางร้านลดลง ประมาณ 20% ทางร้านต้องปรับตัวไม่สั่งสินค้ามาสต๊อกไว้มาก เนื่องจากสวนขนาดใหญ่ที่เป็นลูกค้าหลายแห่งที่ปกติใช้แรงงานประมาณ 40-50 คน ประสบปัญหาแรงงานกัมพูชาจำนวนมากกลับประเทศ และราคาผลผลิตลำไยที่ลดต่ำลง ส่งผลให้สวนลำไยไม่มีการเร่งยาให้ลำไยออกนอกฤดู ดังนั้นการผลผลิตลำไยนอกฤดูปีนี้น่าจะลดลงมาก เกษตรกรจะมาซื้อปุ๋ย ยา เท่าที่จำเป็น

สวนหันใช้บริการโดรนพ่นยา

นางสาววริสา มีเจริญ เจ้าของสวนผลไม้ “M.J.” อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศแบบกะทันหันส่งผลมากต่อเจ้าของสวนส่วนใหญ่ที่ใช้แรงงานกัมพูชา 80-90% ซึ่งแรงงานเหล่านี้อยู่กันมานาน และรู้งาน สวนแต่ละแห่งไม่มีแผนสำรองในการรับมือได้ทัน

สำหรับทางสวนได้แก้ปัญหาโดยหันไปใช้บริการโดรนพ่นยา รถตัดหญ้าที่มีคนรับจ้างทำ เพราะแรงงานไทยหายาก ค่าแรงแพง ทำงานไม่อดทน แต่บางสวนกลับไม่หมด เจ้าของสวนพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่ไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ เพราะทางรัฐบาลกัมพูชายังมีการเรียกร้องให้กลับประเทศอยู่

“เจ้าของสวนต้องลดต้นทุน รัดเข็มขัด ซื้อยาใช้เท่าที่จำเป็น เช่น กำจัดแมลง ฆ่าเชื้อรา อาหารเสริม ยาบำรุงลดลงและลดความถี่ต่อรอบในการใช้น้อยลง และเปลี่ยนมาใช้โดรนพ่นยากันมากขึ้น ทั้งจันทบุรีและตราด ทดแทนแรงงานคนได้ 4-5 คน เกษตรกรทั้งระยอง จันทบุรี และตราด มีลักษณะเดียวกันคือ พยายามลดต้นทุน และใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร เข้ามาช่วยทดแทนแรงงาน ทำงานได้รวดเร็วและใช้ปริมาณยาที่พ่นน้อยกว่าการใช้แรงงานคน แต่ตอนนี้การบินโดรนพ่นยาต้องระงับไว้ก่อนจากสถานการณ์ชายแดน ต้องรอดูหลัง 15 สิงหาคมไปแล้ว” นางสาววริสากล่าว

ทุเรียนใต้ดิ่ง 35 บ./กก.

ทางด้านแหล่งข่าวจากตัวแทนผู้จำหน่ายปุ๋ยเคมีและอินทรีย์รายใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ปกติช่วงฤดูกาลผลไม้ออกในภาคใต้ กลุ่มผู้แทนจำหน่ายปุ๋ยในเครือรายใหญ่ ๆ จะมีเงินหมุนสะพัดประมาณ 100 ล้านบาทต่อราย แต่ในฤดูกาลผลไม้ภาคใต้ปี 2568 ร้านค้าในเครือหลายรายชะลอคำสั่งซื้อปุ๋ย ยา ทำให้ยอดขายจาก 100% หดตัวไปถึง 60-70% ร้านค้าที่เคยสั่งเป็นประจำ 5 ตันก็ชะลอไว้ ที่เหลืออยู่ก็มีคำสั่งซื้อลักษณะค้าปลีกรายย่อย เนื่องจากภาวะพืชเศรษฐกิจ เช่น ทุเรียน มังคุด ยาง ปาล์มน้ำมัน ข้าว ราคาผันผวนตกต่ำ โดยเฉพาะทุเรียนพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช ผลผลิตออกมาจำนวนมาก

ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาทุเรียนไม่ได้คุณภาพส่งออก เช่น จ.ยะลา เกรด A ราคาหน้าสวน 50 บาท/กก. เกรด B ราคา 35-40 บาท เป็นต้น ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยเฉพาะรายใหญ่ขนาดหลายสิบไร่และ 100 ไร่ขึ้น ขาดทุนในระดับหลักหลายล้านบาท

นายสุรศักดิ์ กุลลาย ประธานเครือข่ายทุเรียนจังหวัดพัทลุง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ผันผวน โดยเฉพาะทุเรียนราคาต่ำลง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตในการดูแลรักษา ทำให้เกษตรกรต่างต้องรัดเข็มขัด

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปุ๋ย-ยาเคมีดัมพ์ราคาขายไม่ออก ทุเรียน-ผลไม้ยอดร่วงทั้งประเทศ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ทูน่า-กุ้งแพงรับ ‘ภาษีทรัมป์’ ไทยชิงแชร์แย่งตลาดสหรัฐ 3 หมื่นล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘โรงแรม-ค้าปลีก’ หนี้เสียพุ่ง NPL ธุรกิจขนาดจิ๋วทะลุ 14.8%

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

บังคับทุกคนยื่นภาษี! "คลัง" เดินหน้าใช้ "Negative Income Tax" เริ่มปี 70 เพื่อคัดกรองสวัสดิการแม่นยำ-เป็นธรรม

สยามรัฐ

เปิดรายชื่อ "สินค้าส่งออกไทย" พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และโอกาสตลาดทดแทน หนีภาษีทรัมป์ 19%

TNN ช่อง16

ทูน่า-กุ้งแพงรับ ‘ภาษีทรัมป์’ ไทยชิงแชร์แย่งตลาดสหรัฐ 3 หมื่นล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด 3ปัจจัยสำคัญระหว่าง 18-22ส.ค.รวมตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2ปี68

ฐานเศรษฐกิจ

น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.16 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 62.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

สยามรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 34.86 จุด ปิดที่ 44,946.12 จุด

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ปุ๋ย-ยาเคมีดัมพ์ราคาขายไม่ออก ทุเรียน-ผลไม้ยอดร่วงทั้งประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

TK กำไรครึ่งปี'68 เพิ่มขึ้น 469.8% ชี้คุมเข้มนโยบายปล่อยสินเชื่อ

ประชาชาติธุรกิจ

ผลสำรวจ Gen Z เกือบครึ่งหนึ่ง ยอมรับเคยโกหก-เขียนเรซูเม่เกินจริง

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...