ปุ๋ย-ยาเคมีดัมพ์ราคาขายไม่ออก ทุเรียน-ผลไม้ยอดร่วงทั้งประเทศ
นักธุรกิจค้าเคมีเกษตร ปุ๋ย-ยา บ่นอุบ ประเมินยอดขายทั่วประเทศตก 40% เจอปัญหาสารพัด พืชผลออกล้นตลาด ลำไย มังคุด ข้าว ราคาตก ทุเรียนราคาตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี เหลือกิโลละ 35 บาท เกษตรกรลดคำสั่งซื้อ เลิกสต๊อกปุ๋ย ร้านค้าถล่มดัมพ์ราคา แต่ยังขายไม่ออก พืชสวนเกษตรทุกภาคขาดแรงงานหลักชาวกัมพูชาฉีดพ่นสารเคมีบำรุงดอก-ใบ
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเคมีเกษตรรายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเคมีเกษตร ขายปุ๋ย ยาสำหรับใช้ในพืชผลการเกษตรทั่วประเทศน่าจะยอดขายลดลงเฉลี่ย 30-40% เนื่องจากหลายสาเหตุปัญหาหลักมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดทั้งทุเรียน ลำไย มังคุด ข้าว ฯลฯ ราคาตกต่ำ ภัยธรรมชาติจากน้ำท่วม
รวมถึงเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ พื้นที่เกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ยังไม่สามารถทำเกษตรได้เต็มที่ ส่งผลให้หลายบริษัทในวงการต่างพยายามพยุงยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ด้วยการดัมพ์ราคาขายปุ๋ย ยาลงมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีการจัดโปรโมชั่นกันกระหน่ำ แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นมากนัก เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมยอดขายทั้งปีของธุรกิจเคมีเกษตรปี 2568 ทุกรายต่างพยายามประคองให้ใกล้เคียงกับปี 2567
“ตอนนี้ผู้ประกอบการเคมีเกษตรต่างเผชิญกับยอดขายที่ลดลงหนักมาก ๆ ทุกรายต่างพยายามประคองตัว เร่งลดสต๊อกด้วยการปรับลดราคาลง มาร์จิ้นต่ำกันมาก ๆ เพื่อให้ได้เงินสดในมือขึ้นมาหมุนเวียนก่อน ปัจจัยหลักมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ต่ำลงมาก ๆ ตอนนี้ราคาทุเรียนใต้ต่ำถึง 35 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคานี้ย้อนกลับไปสัก 20 ปีก่อน
ขณะที่ 4 จังหวัดอีสาน สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ที่มีเหตุการณ์ปะทะกับกัมพูชาที่ผ่านมา บางพื้นที่ยังเข้าไม่ได้ เพราะมีระเบิดที่ยังไม่ระเบิดฝังอยู่ ได้ช่วยลูกค้าโดยยืดการชำระเงินออกไป ดังนั้น ผลประกอบการปลายปี 2568 คงต้องอาศัยอานิสงส์ของยอดขายช่วงต้นปี หากบริษัทไหนทำไว้ได้มากก็จะมาช่วยสนับสนุนยอดขาย 6 เดือนหลังที่ลดลง” แหล่งข่าวกล่าว
ร้านปุ๋ย-ยา ยอดวูบ 20-40%
นายนิมิตร สุวัฒน์ศรีสกุล ผู้จัดการ บริษัท เทพนิมิตการเกษตร จำกัด อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัญหาผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนราคาลดต่ำลงมากถึง 50% จากราคาเฉลี่ยปี 2567 กก.ละ 120-130 บาท ปี 2568 ลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 60-70 บาท และมีปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศอย่างกะทันหัน ทำให้ชาวสวนพยายามลดต้นทุนและทำสวนเองในระหว่างที่รอแรงงานมาทดแทน
หลังการเก็บเกี่ยวช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ชาวสวนจะเลือกใช้ปุ๋ย สารฉีดพ่นฆ่าแมลงเฉพาะที่จำเป็น ยอดขายลดลงประมาณ 30-40% และจะมีรอบการใช้ปุ๋ย ยา ปริมาณมากในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ทางร้านได้ปรับตัวลดการสั่งสินค้าจำนวนมากเพื่อไม่ให้สินค้าค้างสต๊อก และพยายามให้ลูกค้าเก่ารักษาวินัยทางการเงิน
เจ้าของร้าน ส.มิตรเกษตร อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” เพิ่มเติมว่า จากราคาผลไม้ในปีนี้ไม่ดีเหมือนปีก่อน ทำให้ชาวสวนระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินและพยายามลดต้นทุนการผลิต หลังการเก็บเกี่ยวเตรียมการผลผลิตฤดูกาลหน้า ชาวสวนจะไม่ซื้อ ปุ๋ย ยา ล่วงหน้าไปสต๊อก แต่ซื้อเฉพาะที่ใช้ ปกติช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เป็นช่วงที่ใช้ปุ๋ย ยา ปริมาณมากขึ้น เพราะเป็นช่วงทำใบ ทำดอก เพื่อให้ได้ผลผลิตในเดือนเมษายนปีหน้า โดยเฉพาะการพ่นยาฆ่าแมลง ฆ่าเชื้อรา
แต่เมื่อแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในสวนกลับประเทศ ทำให้มีแรงงานน้อยลง น่าจะส่งผลกระทบให้ปริมาณการซื้อ ปุ๋ย ยาลดลงไปอีก ประกอบกับแม่ปุ๋ยมีการปรับราคาขึ้น กระสอบละ 40-50 บาท (กระสอบขนาด 50 กก.) ทำให้เจ้าของสวนไม่อยากลงทุนมากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ยอดจำหน่ายของร้านตอนนี้ลดลงไป 30%
เช่นเดียวกับ นายดุษฎี วงศ์โรจน์ ผู้จัดการร้านเกษตรเนินสูง จำหน่ายปุ๋ย ยา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ระบุว่า ขณะนี้ยอดขายปุ๋ย และยาของทางร้านลดลง เนื่องจากปัญหาหลักราคาทุเรียนลดต่ำมากในปีนี้ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานกัมพูชา ทำให้ชาวสวนรุ่นใหม่ ๆ คิดคำนวณลดต้นทุนให้ได้มาก โดยใช้ปัจจัยการผลิตเท่าที่จำเป็น ขณะที่ทางร้านพยายามที่จะคุมต้นทุนให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ จะไม่ส่งเสริมให้ลูกค้าตุนยาเพื่อเอายอดขาย
แรงงานเขมรกลับประเทศ
ผู้บริหารร้านชัยพฤกษ์อโกรเทค อ.ขลุง จ.จันทบุรี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ยอดขายปุ๋ย และยาของทางร้านลดลง ประมาณ 20% ทางร้านต้องปรับตัวไม่สั่งสินค้ามาสต๊อกไว้มาก เนื่องจากสวนขนาดใหญ่ที่เป็นลูกค้าหลายแห่งที่ปกติใช้แรงงานประมาณ 40-50 คน ประสบปัญหาแรงงานกัมพูชาจำนวนมากกลับประเทศ และราคาผลผลิตลำไยที่ลดต่ำลง ส่งผลให้สวนลำไยไม่มีการเร่งยาให้ลำไยออกนอกฤดู ดังนั้นการผลผลิตลำไยนอกฤดูปีนี้น่าจะลดลงมาก เกษตรกรจะมาซื้อปุ๋ย ยา เท่าที่จำเป็น
สวนหันใช้บริการโดรนพ่นยา
นางสาววริสา มีเจริญ เจ้าของสวนผลไม้ “M.J.” อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศแบบกะทันหันส่งผลมากต่อเจ้าของสวนส่วนใหญ่ที่ใช้แรงงานกัมพูชา 80-90% ซึ่งแรงงานเหล่านี้อยู่กันมานาน และรู้งาน สวนแต่ละแห่งไม่มีแผนสำรองในการรับมือได้ทัน
สำหรับทางสวนได้แก้ปัญหาโดยหันไปใช้บริการโดรนพ่นยา รถตัดหญ้าที่มีคนรับจ้างทำ เพราะแรงงานไทยหายาก ค่าแรงแพง ทำงานไม่อดทน แต่บางสวนกลับไม่หมด เจ้าของสวนพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่ไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ เพราะทางรัฐบาลกัมพูชายังมีการเรียกร้องให้กลับประเทศอยู่
“เจ้าของสวนต้องลดต้นทุน รัดเข็มขัด ซื้อยาใช้เท่าที่จำเป็น เช่น กำจัดแมลง ฆ่าเชื้อรา อาหารเสริม ยาบำรุงลดลงและลดความถี่ต่อรอบในการใช้น้อยลง และเปลี่ยนมาใช้โดรนพ่นยากันมากขึ้น ทั้งจันทบุรีและตราด ทดแทนแรงงานคนได้ 4-5 คน เกษตรกรทั้งระยอง จันทบุรี และตราด มีลักษณะเดียวกันคือ พยายามลดต้นทุน และใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร เข้ามาช่วยทดแทนแรงงาน ทำงานได้รวดเร็วและใช้ปริมาณยาที่พ่นน้อยกว่าการใช้แรงงานคน แต่ตอนนี้การบินโดรนพ่นยาต้องระงับไว้ก่อนจากสถานการณ์ชายแดน ต้องรอดูหลัง 15 สิงหาคมไปแล้ว” นางสาววริสากล่าว
ทุเรียนใต้ดิ่ง 35 บ./กก.
ทางด้านแหล่งข่าวจากตัวแทนผู้จำหน่ายปุ๋ยเคมีและอินทรีย์รายใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ปกติช่วงฤดูกาลผลไม้ออกในภาคใต้ กลุ่มผู้แทนจำหน่ายปุ๋ยในเครือรายใหญ่ ๆ จะมีเงินหมุนสะพัดประมาณ 100 ล้านบาทต่อราย แต่ในฤดูกาลผลไม้ภาคใต้ปี 2568 ร้านค้าในเครือหลายรายชะลอคำสั่งซื้อปุ๋ย ยา ทำให้ยอดขายจาก 100% หดตัวไปถึง 60-70% ร้านค้าที่เคยสั่งเป็นประจำ 5 ตันก็ชะลอไว้ ที่เหลืออยู่ก็มีคำสั่งซื้อลักษณะค้าปลีกรายย่อย เนื่องจากภาวะพืชเศรษฐกิจ เช่น ทุเรียน มังคุด ยาง ปาล์มน้ำมัน ข้าว ราคาผันผวนตกต่ำ โดยเฉพาะทุเรียนพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช ผลผลิตออกมาจำนวนมาก
ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาทุเรียนไม่ได้คุณภาพส่งออก เช่น จ.ยะลา เกรด A ราคาหน้าสวน 50 บาท/กก. เกรด B ราคา 35-40 บาท เป็นต้น ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยเฉพาะรายใหญ่ขนาดหลายสิบไร่และ 100 ไร่ขึ้น ขาดทุนในระดับหลักหลายล้านบาท
นายสุรศักดิ์ กุลลาย ประธานเครือข่ายทุเรียนจังหวัดพัทลุง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ผันผวน โดยเฉพาะทุเรียนราคาต่ำลง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตในการดูแลรักษา ทำให้เกษตรกรต่างต้องรัดเข็มขัด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปุ๋ย-ยาเคมีดัมพ์ราคาขายไม่ออก ทุเรียน-ผลไม้ยอดร่วงทั้งประเทศ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net