โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

(แก้ไข) BOI ผนึก SET ดึงบริษัทต่างชาติชั้นนำกลุ่มเทคฯ เข้าตลาด ปูทางใช้ตลาดทุนสร้างเศรษฐกิจใหม่

efinanceThai

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

(แก้ไข) BOI ผนึก SET ดึงบริษัทต่างชาติชั้นนำกลุ่มเทคฯ เข้าตลาด ปูทางใช้ตลาดทุนสร้างเศรษฐกิจใหม่

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -18 ส.ค. 68 9:57: น.

แก้ไข หัวเป็น BOI

BOI จับมือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึกกำลังขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ นำร่องดึงต่างชาติที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขาหลัก คือ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ผ่านสิทธิประโยชน์บีโอไอและโครงการ JUMP+

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 บีโอไอ ได้หารือร่วมกับ นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ และคณะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีขีดความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการใช้เครื่องมือของทั้งบีโอไอและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการผลักดัน 2 เรื่องสำคัญ คือ

1) การดึงบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศที่เข้ามาตั้งฐานธุรกิจในประเทศไทยและได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

2) การสนับสนุนให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว มีการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการให้สิทธิประโยชน์จากทั้งสองหน่วยงาน

สำหรับการสนับสนุนให้บริษัทชั้นนำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งสองหน่วยงานเห็นตรงกันที่จะเริ่มนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขาหลัก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีตัวอย่างความสำเร็จของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในปัจจุบัน อาทิ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET

นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันสนับสนุนให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว มีการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนในการจัดทำแผนการเติบโต การสื่อสารกับผู้ลงทุน และการเพิ่ม Corporate Visibility ผ่านโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน (โครงการ JUMP+) และบีโอไอจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความยั่งยืน ผ่านมาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart and Sustainable Industry) โดยทั้งสองหน่วยงานจะเพิ่มช่องทางบริการพิเศษ (Fast-Track) สำหรับบริษัทที่ประสงค์จะเข้าร่วมทั้งสองมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบีโอไออีกด้วย

"ในสถานการณ์โลกปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูง บีโอไอ และตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นถึงความสำคัญของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการและเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเดิมมีการปรับตัว ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และมุ่งสู่ความยั่งยืน ขณะเดียวกัน ก็ต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงให้สามารถสร้างฐานที่มั่นคงในประเทศไทย เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว โดยเราต้องการเชิญชวนให้บริษัทชั้นนำเหล่านี้ มาดำเนินธุรกิจในไทยแบบครบวงจร ทั้งฐานการผลิต การวิจัยและพัฒนา สำนักงานภูมิภาค รวมทั้งการขยายธุรกิจผ่านตลาดทุน โดยอาศัยเครื่องมือสนับสนุนและการทำงานอย่างใกล้ชิดของทั้งบีโอไอและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น" นายนฤตม์ กล่าว

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างบีโอไอและตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจใหม่ ๆ เข้าถึงแหล่งเงินทุนและสามารถขยายการเติบโตผ่านตลาดทุนได้แล้ว ยังเป็นโอกาสในการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนในธุรกิจและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพอีกด้วย นอกจากนั้น การที่บีโอไอจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความยั่งยืน ภายใต้มาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart and Sustainable Industry) ซึ่งรวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการ "JUMP+" ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย จะช่วยให้เกิดความสนใจและสร้างความตื่นตัวให้บริษัทจดทะเบียน พัฒนาการดำเนินงานและขับเคลื่อนความยั่งยืน ทั้งด้านธุรกิจ ด้านธรรมาภิบาล และการจัดการก๊าซเรือนกระจก เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียน"

เรียบเรียง โดย สุรเมธี มณีสุโข
อีเมล์. suramatee@efnancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก efinanceThai

SC ผนึก IHG เปิดตัว `โวโค กรุงเทพฯ สยาม` มูลค่า 2.2 พันลบ. เปิดบริการปี 72 ต่อยอดพอร์ตสร้างรายได้ประจำ

25 นาทีที่แล้ว

GBS มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้พักตัวในกรอบ 1,230-1,280 จุด จับตา ศาลรธน.วินิจฉัยปมคลิปเสียงนายกฯ 29 ส.ค.นี้

37 นาทีที่แล้ว

(แก้ไข) รัฐบาลเปิดเฮียริ่ง คนไทย! หนุนร่าง พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟ-สร้างอนาคตพลังงานสะอาด ถึง 20 ส.ค.นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

BAY มองเงินบาทสัปดาห์นี้ 32.10-32.75 บาท/ดอลลาร์ ตลาดลุ้นเฟดลดดบ.50bp ในการประชุมรอบถัดไป

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

วิดีโอ

จบแล้ว! ยุคทอง ค้าปลีก • ค้าส่งไทย ไม่รอด #ประตูน้ำ #สำเพ็ง [ThaiFranchise Today]

ThaiFranchiseCenter

พะเยา ม.พะเยาโชว์นวัตกรรม หุ่นยนต์ AI–IoT ลาดตระเวนอัจฉริยะ เสริมความปลอดภัยอาคาร 24 ชั่วโมง

77kaoded

Canon เปิดตัวเครื่องพิมพ์ ดัน Made in Thailand สู่ตลาดโลก

ประชาชาติธุรกิจ

SC ผนึก IHG เปิดตัว `โวโค กรุงเทพฯ สยาม` มูลค่า 2.2 พันลบ. เปิดบริการปี 72 ต่อยอดพอร์ตสร้างรายได้ประจำ

efinanceThai

แว่นท็อปเจริญ นำร่อง 15 สาขา เปิดถึงเที่ยงคืน 'ตัดแว่น' รอรับใน 20 นาที

ประชาชาติธุรกิจ

GBS มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้พักตัวในกรอบ 1,230-1,280 จุด จับตา ศาลรธน.วินิจฉัยปมคลิปเสียงนายกฯ 29 ส.ค.นี้

efinanceThai

องค์กรเร่งสปีดใช้พลัง 'AI' ช่วยปลดล็อกศักยภาพใหม่ธุรกิจ

กรุงเทพธุรกิจ

Reboot Bond Port บริการตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นกู้ วางกลยุทธ์ลงทุนอย่างเป็นระบบ ด้วยโมเดล 5F2M

Finnomena

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดสูตรความสำเร็จ THE KLINIQUE ธุรกิจความงามบนเวทีตลาดหุ้น

efinanceThai

จับตา IPO ครึ่งหลังปี 68 คึกคัก 11 หุ้นใหม่จ่อเข้าเทรด ขยับพอร์ตนักลงทุน

efinanceThai

หุ้น S&P 500 กำลังเป็นกระทิงคลั่งหรือฟองสบู่? รู้ให้ทันก่อนตลาดหุ้นซ้ำรอย 1999

efinanceThai
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...