ปตท. ตั้งเป้าเพิ่มกระแสเงินสดทะลุ 1 แสนล้านบาท ลุ้นชงจ่ายปันผลระหว่างกาล
ปตท. โว!! ผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกปี 68 ยังแข็งแกร่ง กำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มกระแสเงินสดทะลุ 1 แสนล้านบาทภายในปี 69 ลุ้นชงจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกปี 2568 ยังคงแข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิของทั้งปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 90,072 ล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์มาถูกทาง แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ แต่ปตท. ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าจะสร้างกระแสเงินสดเพิ่มอีกกว่า 1 แสนล้านบาทภายใน 2 ปี (ปี 68-69) โดยแบ่งเป็นในปี 68 ประมาณ 38,000 ล้านบาท และปี 69 อีกประมาณ 77,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นโครงการ Asset Monetization (A1) หรือการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงานและมีความมั่นคงในระยะยาว แสวงหาโอกาสในการสร้างผลกำไร รวมถึงเพิ่มผลตอบแทนจากเงินลงทุน (ROIC) จากเดิมอีก 5-10% จากฐานเดิม
สำหรับความคืบหน้าแผน EBITDA Uplift และตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้น โดยจะเดินหน้าบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ D1 และ Project One (P1) เพื่อยกระดับ Synergy ภายในกลุ่ม ปตท.ตั้งเป้าจะเพิ่ม EBITDA ประมาณ 5,800 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 73 ซึ่งเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 4,700 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้วราว 2,300 ล้านบาท
โครงการ MissionX ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการทำ Change Management และ Best Practice Sharing เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ประมาณ 30,000 ล้านบาท ภายในปี 70 ซึ่งเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้วราว 4,700 ล้านบาท
โครงการ AXIS การขับเคลื่อน Digital Transformation ตั้งเป้าจะเพิ่ม EBITDA ประมาณ 12,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 72 โดยเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้วราว 60 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทมีตั้งเป้าโครงการลดต้นทุน (Cost Saving) ปีนี้ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถลดค่าใช้จ่ายดำเนินการได้แล้วราว 3,814 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าแผนระยะกลางในการหาพันธมิตรร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีทั้ง 3 บริษัท คาดว่าจะมีความชัดเจนในการคัดเลือกพันธมิตรเข้ามาลงทุนได้ภายในปีนี้และจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีหน้า ซึ่งการหาผู้ร่วมลงทุนจะเป็นผู้ประกอบการระดับโลกที่สามารถเพิ่มแวลู่ให้กับบริษัทได้ ส่วนการแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นให้กับพันธมิตรยังไม่สามารถระบุได้ แต่นโยบายของกลุ่มปตท.จะต้องเป็นเรือธงหรือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 73 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 78 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐซึ่งหากราคาน่าสนใจก็คาดว่ากว่าจะมีการซื้อขายกันจริงในอีก 4 ปีข้างหน้า
ดร.คงกระพัน กล่าวว่า บริษัทจะนำเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 68 เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติได้ภายในช่วงไตรมาสนี้ (Q3/68) พร้อมยืนยันการจ่ายเงินปันผลเป็นเรื่องที่บริษัทตระหนักและต้องพิจารณาให้ดี เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนคาดหวัง
ส่วนปัญหาเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีการแบนสินค้าไทย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อปั๊มน้ำมันพีทีที กัมพูชานั้น ประเด็นนี้ต้องบอกว่า เวลานี้เรื่องของประเทศชาติสำคัญที่สุด ไม่สามารถตอบแทนโออาร์ได้ตรง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ก็เหมือนกับสินค้าที่มีอายุของตัวเอง ก็ต้องบริหารจัดการต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น ผลประกอบการแข็งแกร่ง ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 44,848 ล้านบาท
- ผลงานกลุ่มปตท. ครึ่งแรก ปี 2568 – ส่องมุมมองครึ่งปีหลัง
- ‘กลุ่ม ปตท.’ เผยกำไรครึ่งแรกปี 2568 อยู่ที่ 44,848 ล้านบาท เร่งปรับแผนเสริมแกร่ง
ติดตามเราได้ที่