โคตรวิ่ง โคตรบ้า โคตรซ่า! D’heygere แบรนด์ของสาวเบลเยียม ที่ใส่อารมณ์ขัน และสารพัดความเป็นไปได้ลงใน ‘เครื่องประดับ’ ทั้งเข็มขัด-แหวนจุดไฟได้ หรือต่างหู-สร้อยที่ใส่ดอกไม้ ไฟแช็ก บุหรี่ ธนบัตร และปากกาได้พอดี
เล่นบ้าให้สุด เลื่อนฟีดเจอแล้วต้องหยุดมอง ใส่ไปข้างนอกแล้วคนต้องเหลียวหลัง จะชะงักแล้วชมว่าโคตรเก๋ โดนใจในความปั่นก็ย่อมได้ หรือจะยืนงงแล้วสงสัยว่า “อะไรวะนั่น?!” หรือ “ถามจริ๊งงงง” ก็ล้วนเป็นอารมณ์ขัน ที่แบรนด์เครื่องประดับ ‘D’heygere’ ของสาวเบลเยียม Stéphanie D’heygere ต้องการปรุงรสให้อุตสาหกรรมแฟชั่นและลูกค้าได้สนุกม่วนจอยกับชีวิต และ ‘ไม่เครียด’ จนเกินไป (โลกทุกวันนี้ก็เครียดอยู่แล้วอะเนอะ) เพราะจะเครียดหรือจริงจังตลอดเวลากันไปทำไม มันปวดหัววววว ขำบ้างไรบ้าง หลุดกรอบหน่อยจะเป็นไรไป สีสันประจำวัน อิอิ
D’heygere เสิร์ฟความซ่าไม่หยุดพัก ตั้งแต่ต่างหูที่เอาแผ่น DVD ทั้งหนังหรืออัลบั้มเพลงในกรุมาทำเป็นต่างหูชิ้นเท่าขนาดจริง! เข็มขัดสุดคูลที่วันไหนเกิดอยากดูดบุหรี่ ก็แค่หยิบไม้ขีดไฟขึ้นมา แล้วจุดมันตรงหัวเข็มขัดได้เลย เพราะมันจุดไฟได้จริงไม่จ้อจี้! เช่นเดียวกับแหวนรูปหัวใจทำจากเทียนไข ที่จุดไฟได้เหมือนกัน หรือจะแหวนที่ทำเป็น card holder จบทุกปัญหาลืมบัตรต่างๆ เพราะมันอยู่ติดนิ้วแล้วจ้าพี่ หรือแก๊งต่างหูและสร้อยอเนกประสงค์ที่ดีไซน์มาเพื่อมีรู ‘ใส่ของ’ ต่างๆ แบบลงล็อกพอดีเป๊ะ ไม่ว่าจะใส่ดอกไม้ลงไปติดหูหรือห้อยบนคอ ม้วนแบงก์พัน ยัดปากกา และบุหรี่สักมวนลงไปก็ได้ตามอัธยาศัย รวมถึงบางรุ่นก็ทำใหญ่ขึ้นมาหน่อยไว้ใส่ไฟแช็ก รวมถึงมีต่างหูที่ทำเป็นตั๋วรถไฟ metro ในปารีส ต่างหูเล็บปลอม กิ๊บติดผมที่เหมือนพลาสเตอร์มีรอยเลือดซึมของคนหัวแตก หรือจะแหวนที่ทำเป็นกล่องแหวนใส่บนนิ้วแบบปั่นๆ หลุดๆ ไปเลยก็มี
ฉะนั้นอะไรที่ธรรมดาๆ หรือตรงไปตรงมาตามแบบแผนคำว่าเครื่องประดับ D’heygere ขอผ่านค่ะ และหากย้อนดูประวัติของเจ้าของแบรนด์ก็จะรู้ว่า เธอคนนี้ไม่ธรรมดา ทั้งเก่ง มากประสบการณ์ และหัวสร้างสรรค์สุดๆ เพราะก่อน Stéphanie จะมาเปิดแบรนด์ของตัวเองและเป็น creative director ให้กับแบรนด์ เธอเรียนและจบสายแฟชั่นจาก Royal Academy of Fine Arts Antwerp เคยทำงานเป็น head of jewelry ให้กับ Maison Margiela เป็น senior jewelry designer ให้กับ Dior รวมถึงทำฟรีแลนซ์ร่วมงานทำเครื่องประดับกับแบรนด์ดังต่างๆ เช่น JACQUEMUS, Y/Project, Courrèges, Jean Paul Gaultier, Jill Sander, Vêtements ฯลฯ และเมื่อมาทำแบรนด์ของตัวเอง เธอก็พา D’heygere ไปคอลแลบกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Longchamp และ Gentle Monster ที่แว่นคอลฯ ที่ทำกับเธอ ซึ่งดีไซน์ให้สามารถใส่ต่างหูลงไปบริเวณขาแว่นได้ ก็นับว่านำหนึ่งก้าว และแมสสุดๆ ไวรัลสุดๆ
“อารมณ์ขันเป็นส่วนสำคัญสำหรับแนวทางการทำงานของฉันเสมอ ฉัน appreciate ผู้คนที่เขามีอารมณ์ขัน เพราะการหัวเราะมันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม! และในวงการแฟชั่น สิ่งสำคัญคือฉันคิดว่าเราไม่ควรจะซีเรียสกับสิ่งต่างๆ มากเกินไป หากคุณมองย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์แฟชั่น คุณจะเจออารมณ์ขันกรุยทางไว้อยู่เสมอ” Stéphanie กล่าวกับ MAD Brussels ถึงอย่างนั้นเธอก็ย้ำว่าคงไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะใส่ความฮาลงไป เพียงแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในทุกยุคทุกสมัยเรามักจะเห็นความปั่น ความสนุก ที่ดีไซเนอร์หลายๆ คนใส่ความเป็นตัวเองลงไปแบบที่ไม่จำเป็นต้องสนกรอบบางอย่างของสังคม
สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับแต่ละชิ้น เธอเล่าว่า “แรงบันดาลใจหลักของฉันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันใช้ในชีวิตประจำวันนั่นแหละ บางครั้งฉันก็ออกแบบเครื่องประดับมาสนองความต้องการของตัวเอง” เธอยกตัวอย่างเช่น ต่างหูที่มีรูสำหรับใส่ของบางอย่างไว้ข้างในว่า “ฉันชอบดอกไม้ ดอกไม้เป็นหนึ่งในสิ่งที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้…ฉันจึงมองหาวิธีในการเอามันมาใส่ในเครื่องประดับ” หรือจะหมวกแก๊ปสำหรับใส่รูปถ่าย ที่เธอได้แรงบันดาลใจจากการเก็บรูปถ่ายของเพื่อน หรือคนที่รักไว้ในกระเป๋าตังค์ จนเกิดไอเดียอยากให้คนเห็นรูปบนหมวกซะเลย!
หรือจะต่างหู DVD ที่เธอได้มากจากแผ่น DVD ส่วนตัวของเธอเอง ที่ไม่ได้ดูมาสักพักแล้ว แต่จะให้ทิ้ง เธอบอกว่าทิ้งไม่ลง ด้วยความ nostalgia ของมัน ทว่าวางไว้เฉยๆ แบบนั้นก็เปล่าประโยชน์ เธอก็เลยจับมันมารีไซเคิลเป็นต่างหูซะเลยให้มันจบ แถมยังออกมาเก๋มากด้วย นอกจากนี้เธอยังหาไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในทุกสถานที่ที่เธอไป หรือสิ่งที่เธอพบเห็น ไม่ว่าจะถนน เมือง รถไฟใต้ดิน งานศิลปะ จนถึงพฤติกรรมของผู้คน โดยเล่าให้ Men’s Folio ฟังว่า “มันจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ประโยคคำถาม การเล่นคำ (word play) เครื่องประดับที่ฉันซื้อมาจากตลาดนัด งานศิลปะที่ฉันดูตามนิทรรศการ หรืออะไรสักอย่างที่ฉันเห็นตอนเดินผ่านเมืองหรือขึ้นรถไฟ ฉันคิดว่าถนนต่างๆ นี่เป็นแหล่งผลิตแรงบันดาลใจชั้นยอดเลย!”
“แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่มีตัวตนของ Stéphanie อยู่เต็มไปหมด ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือแบรนด์มันสะท้อนตัวเจ้าของแบรนด์ได้ค่ะ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์มีความยูนีค ถึงอย่างนั้นแบรนด์จะอยู่ได้ ฉันก็ต้องมีทีมงานที่เจ๋งๆ รอบตัวด้วยค่ะ”
และไม่ใช่เก๋อย่างเดียวด้วยนะ แต่ Stéphanie ค่อนข้างให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า โดยเธอทำงานกับโรงงานอิตาลีเพื่อผลิตสินค้าออกมาให้มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ทุกการสั่งซื้อสินค้า D’heygere จะบริจาค 1€ ต่อ 1 ชิ้น ให้กับ UNRWA หรือ สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ อีกด้วย
ใครอยากเลื่อนดูสินค้ามันๆ ของแบรนด์นี้ เข้าไปดูได้ที่ https://dheygere.com/ หรือ https://www.instagram.com/d_heygere/
อ้างอิง:
https://www.mens-folio.com/style/stephanie-dheygere-exclusive-interview/
https://mad.brussels/en/humor-has-always-been-essential-part-my-approach
https://www.wallpaper.com/watches-jewellery/dheygere-dvd-earrings
https://www.wallpaper.com/fashion/dheygere-the-belgian-accessories-brand-keeping-it-surreal
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- โคตรวิ่ง โคตรบ้า โคตรซ่า! D’heygere แบรนด์ของสาวเบลเยียม ที่ใส่อารมณ์ขัน และสารพัดความเป็นไปได้ลงใน ‘เครื่องประดับ’ ทั้งเข็มขัด-แหวนจุดไฟได้ หรือต่างหู-สร้อยที่ใส่ดอกไม้ ไฟแช็ก บุหรี่ ธนบัตร และปากกาได้พอดี
- Caudalie Vinoperfect Serum เซรั่มที่ขายออกทุก 15 วินาที เคลียร์ผิวหมอง ลดจุดด่างดำ กับสิทธิบัตรเฉพาะที่ค้นคว้ากว่า 20 ปี อ่อนโยนจนคุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมลูกใช้ได้
- “จะทําอย่างไรให้เศษอวนที่สร้างปัญหาต่อสัตว์ทะเลกลายเป็นวัสดุที่ ‘โลก’ ต้องรักษา” Aqua-R-Us คอลเล็กชันใหม่จาก PIPATCHARA เก็บขยะ ‘แหอวน’ ใต้ทะเล มาสร้างชุด Ready-to-Wear เพื่อสะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราควรให้ความสำคัญ
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com