[Vision Exclusive] LEO โอกาสทองขนส่ง US ดันวอลุ่มโต 25%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 1.13 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - LEO เร่งเครื่องโลจิสติกส์ครึ่งปีหลัง 68! รับแรงหนุนสงครามการค้าคลี่คลาย ฟากบอสใหญ่ "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" สั่งลุยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ชูจุดแข็งเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกข้ามทวีปกว่า 280 เอเจนต์ทั่ว 40 มลรัฐ ดันวอลุ่มขาเข้าโตทะลุ 25% พร้อมหวังเพิ่มมาร์จิ้น ขานรับดีมานด์การค้าโลกฟื้นตัวเต็มสูบไตรมาส 4 นี้
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยกับ'ทีมข่าวหุ้นวิชั่น'ว่า แนวโน้มธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีทิศทางที่ดีขึ้น จากความชัดเจนในด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นด้านภาษีของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีความแน่นอนมากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคการขนส่งทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่ประเทศไทย โดยหลายประเทศมีแนวโน้มเร่งการผลิตเพื่อการส่งออก หนุนให้ฟันเฟืองทางการค้าเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ จุดแข็งของ LEO คือการวางกลยุทธ์รุกตลาดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยอาศัยความได้เปรียบจากเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งในระดับสากล โดยบริษัทมีพันธมิตรมากกว่า 280 เอเจนต์ ครอบคลุมมากกว่า 40 มลรัฐ ซึ่งสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ทำให้สามารถควบคุมระยะเวลา ประสิทธิภาพ และต้นทุนได้อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดส่งสินค้าถึงปลายทางในประเทศไทยได้อย่างราบรื่น คาดว่าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนของการนำเข้าสินค้าจากอเมริกาเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าขาเข้าจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ให้ปรับตัวดีขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักมาจากการขนส่งสินค้าขาออกไปยังสหรัฐฯเป็นหลัก การนำเข้าสินค้าจากอเมริกาติดอันดับ Top 10 ของธุรกิจขนส่งในประเทศ เชื่อว่าการรุกตลาดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา ประกอบกับกลยุทธ์การทำตลาดเชิงรุก จะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่ง (วอลุ่ม) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจให้บริการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จะสามารถเติบโตได้ในระดับ 20-25% ในอนาคตอันใกล้ สอดรับกับแนวโน้มการฟื้นตัวของการค้าโลกและความต้องการสินค้านำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น ในปี 2567 ที่ผ่านมา LEO มี Volume การขนส่งสินค้าทั้งนำเข้า-ส่งออกระหว่างไทย-สหรัฐฯ มากกว่า 8,000 TEUs ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อมาตรฐานการให้บริการระดับสากล และชี้ชัดถึงศักยภาพของบริษัท ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะตลาดส่งออกเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับตลาดขาเข้า (Import) อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
อีกทั้ง LEO ยังเป็นผู้ประกอบการ Logistic Services Provider (LSP) ของคนไทย ที่สามารถให้บริการในลักษณะ Weekly LCL/Consolidation Service to/from ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นส่วนใหญ่ล้วนเป็นบริษัทข้ามชาติ
“การปรับลดภาษีส่งออกและนำเข้าจากสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะทีมผู้ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับอัตราภาษีที่ต่ำกว่าจีนและเวียดนามในขณะเดียวกัน สำหรับผู้นำเข้าสินค้าจากอเมริกา เช่น วัตถุดิบชิ้นส่วนอุตสาหกรรม เทคโนโลยี อุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคบางประเภท ก็จะสามารถลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ LEO ยังเตรียมแผนเสริมความแข็งแกร่งในฝั่งบริการดำเนินพิธีการศุลกากร ศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Warehouse) เพื่อรองรับเทรนด์การค้าระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การปรับลดภาษีของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของปริมาณการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อรายได้ของธุรกิจโลจิสติกส์ในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานลูกค้าส่งออก-นำเข้าไปยังตลาดสหรัฐฯ
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision