“สุชาติ” เผยเร่งออกกม.คุ้มครองพุทธศาสนา คาด 3-4 เดือนชัด
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.21 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 14 ก.ค.- “สว.ปริญญา” จี้ รัฐกู้วิกฤติศรัทธาวงการสงฆ์ บอก อยากให้มีสีกากอล์ฟร้อยคน ขุดพระเลวออกจากศาสนา ลั่น พระที่ดีมีแค่พระพุทธรูป ด้าน “สุชาติ” เผย เร่งออกกฎหมายคุ้มครองศาสนาพุทธโดยเร็ว คาด 3-4 เดือนรู้เรื่อง
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถาม เรื่องวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ ของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ถามนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายปริญญา ตั้งกระทู้ถามว่า ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่มีวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา สมัยก่อนเราจะเห็นพระลูกวัดมั่วสีกา เสพยา แต่วันนี้พระชั้นผู้ใหญ่ถึงราชาคณะ ที่มีพฤติกรรมเลวทรามทำให้ศาสนาเสื่อมอย่างยิ่ง ทำลายความรู้สึกคนไทยมาก ปัจจุบันในประะทศไทยมีวัดเป็นจำนวนมากมาย ประชาชนเข้าวัดกันอย่างศรัทธายิ่งภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดคือวัด ขณะนี้มีสีกาชื่อดัง คือ”สีกากอล์ฟ” ตนอยากได้ “สีกากอล์ฟ”แบบนี้อีก 100 คนเพื่อมาขุดพระเลวๆ พระชั่วๆ จะได้รื้อศาสนาให้กลับมาดีได้อีกครั้งหนึ่ง
“ในอดีตเรามีพระดังจากเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับสีกา เริ่มจากพระยันตระ ที่มั่วสีกา กลายเป็นเด็กใจแตก จนถึงวันนี้ท่านไปสู่โลกภิภพของท่านเรียบร้อยแล้ว ต่อมาสมีเจี๊ยบ เปรียญธรรม 9 ประโยค มีเมียเกือบ 10 คน ,พระนิกร ,พระภาวนาพุทธโธ ,พระอิสระมุณี, เณรคำ,พระกาโตะ เป็นต้น จนมาถึงปัจจุบันเราจะเห็นปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นสีกากอล์ฟคนดัง เล่นชั้นเทพไปแล้ว ไม่รู้กี่คนและวัดต่างๆเป็นวัดที่ประชาชนให้ความศรัทธาค่อนข้างมาก อยากถามว่าวันนี้พระเป็นอะไรเรามีการควบคุมดูแลมากน้อยแค่ไหน ทางมหาเถรสมาคมจะไปยุ่งเกี่ยวกับพระมากไม่ได้ แต่จริงๆแล้วจะปล่อยไว้อย่างนี้หรือ พวกเรากราบแทบเท้าท่าน แต่วันนี้ท่านไปกราบตีนเมียเรียบร้อยแล้ว สภาพที่เห็นทำร้ายจิตใจพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธแค่ไหนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจพระ สิ่งที่เราสังเกตเห็นเวลานี้ผู้หญิงเขาไม่ไปอาเสี่ยแล้ว เขามาหาเจ้าอาวาสดีกว่ารวยกว่าเสี่ยไหนๆ ทุกวันนี้เรามีพระดีแค่พระพุทธรูปเท่านั้น “นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวว่า จึงขอถามใน 4 ข้อ คือ 1. รัฐบาลและสำนักพระพุทธฯ มีการวางแผนและแก้ปัญหานี้อย่างไรในการร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม 2.การดำเนินคดีกับสมีทั้งหลาย สามารถทำได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และเรื่องเงิน เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้นักการเมือง ข้าราชการกับนักการเมืออย่างไรก็สู้พระไม่ได้ เพราะพระรวยกว่า 3.ในอนาคตรัฐบาลจะมีการตรวจสอบเงินเงินอย่างจริงจังเมื่อไหร่ หรือจะแก้ไขฎหมายเพื่อให้ด้ต่อการตรวขสอบได้หรือไม่ และ 4. ควรเร่งพลักดันพ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้แล้วหรือยัง เพื่อกำหนดโทษ ว่าพระที่กระทำความผิดเช่นนี้ และทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนามีโทษอาญาจำคุกได้หรือไม่
ด้านนายสุชาติ ชี้แจงว่า ปัญหาในวงการสงฆ์ขณะนี้ เป็นที่กล่าวขวัญและสะเทือนใจมาก ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ผู้นับถือศาสนาพุทธ แต่การที่เสนอว่าให้คนแบบสีกากาล์ฟมีเยอะๆ เพื่อที่จะให้ปราบปรามพระไม่ดีนั้น ไม่ได้ เพราะตอนนี้เสื่อมมากแล้ว การที่คนเกิดวิกฤติศัทธา เกิดจากตัวพระสงฆ์ แต่เรานับถือคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ดังนั้น ต้องแยกกัน และการแก้ปัญหาสงฆ์มีวิธีอื่น ไม่ใช่ส่งสีกาไปเยอะ ก็จะยิ่งเสื่อมเสียกันใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ให้นโยบายกับสำนักพระพุทธฯ ว่าต้องทำงานในเชิงรุก เพราะวัดต่างๆที่อยู่ทั้งในเมืองและตามต่างจังหวัด ทำไมประชาชนจึงรู้ว่าพระปฏิบัติไม่ดี อย่างไร ยักยอกเงินวัดอย่างไร เอาเงินวัดไปทำอะไร ไปแอบเสพเมถุนกับใคร แล้วทำไมสำนักพระพุทธฯไม่รู้ ซึ่งตนได้บอกว่าตั้งแต่นี้ต่อไปสำนักพระพุทธฯต้องทำงานเชิงรุก ไปหาข่าวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวบ้าน
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้การควบคุมพระสงฆ์เป็นการดำเนินของพระมหาเถรสมาคม ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดพระธรรมวินัยหรือสมี ปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุน หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระเลย ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องรีบร่างพ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพิ่มโทษพระที่ผิดพระธรรมวินัยถึงจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยค่าปรับประมาณหลายหมื่นบาท ถึงหลักแสนบาท ส่วนสีกาก็ต้องมีความผิดด้วย แม้ขณะนี้จะเอาความผิดสีกาไม่ได้ แต่หากพบว่าไปล่อลวง ข่มขู่ เราก็เอาผิดกฎหมายอาญอื่นๆได้ อย่างไรก็ตามเรารีบออกกฎหมาย โดยขณะนี้ได้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว คิดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะมีการแก้กฎหมาย โดยอาจจะรวมไปถึงการเอาผิดการเรี่ยไร หรือการบริจาค ซึ่งการบริจาคเงินให้วัดทางมหาเถรสมาคม ออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปทุกวัดที่มีเงินบริจาค ต้องนำเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ และวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท และบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง.-315 -สำนักข่าวไทย