"AOC 1441" เตือนภัย "โจรออนไลน์" อ้างเป็น "ศุลกากร" ลวงจ่ายภาษีพัสดุตปท. หลอกติดแอปฯดูดเงิน เสียหายเกือบ 16 ล.
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 21 - 27 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 1,653,000 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร แจ้งว่ามีพัสดุส่งมาจากต่างประเทศตกค้าง จะต้องมีการชำระค่าภาษีและค่าขนส่งจึงจะสามารถรับพัสดุได้ จากนั้นเพิ่มเพื่อนทาง Line แล้วสอนให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อยืนยันการรับพัสดุและชำระเงิน โดยให้สแกน QR Code เมื่อเสร็จสิ้นผู้เสียหายได้รับข้อความ SMS จากธนาคารแจ้งว่ายอดเงินในบัญชีได้ถูกโอนออกไปจนหมด จึงพยายามติดต่อมิจฉาชีพแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 3,269,706 บาท โดยผู้เสียหายได้พบโฆษณากิจกรรมแจกต้นไม้ ผ่านช่องทาง Facebook ตนสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียดผ่านทาง Messenger Facebook จากนั้นเพิ่มเพื่อนทาง Line ต่อมามิจฉาชีพชักชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมกดถูกใจและโพรโมตสินค้า เมื่อทำกิจกรรมครบตามกำหนดจะได้รับค่าคอมมิชชันเป็นการตอบแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปร่วมกิจกรรม ในช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริงจึงโอนเงินเพิ่มมากขึ้น ต่อมาต้องการยกเลิกและถอนเงิน มิจฉาชีพอ้างว่าต้องชำระค่าภาษีก่อนจึงจะสามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินค่าภาษีไป ภายหลังจากโอนเงินไม่สามารถถอนเงินและไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่าความเสียหาย 1,560,000 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Tiktok ชักชวนลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงินดิจิทัล ผู้เสียหายสนใจจึงสอบถามรายละเอียดและเริ่มทดลองลงทุน ในช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริง สามารถถอนเงินได้ จึงโอนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้น ภายหลังต้องการถอนเงินแต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพแจ้งว่าเนื่องจากมีเหรียญสกุลเงินดิจิทัลอยู่ในระบบจำนวนมาก จะต้องชำระค่าภาษีก่อนจึงสามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินค่าภาษีไป ภายหลังจากโอนเงินไม่สามารถถอนเงินและไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 6,622,577 บาท ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนลงทุนเทรดหุ้น ผู้เสียหายสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียดผ่านทาง Messenger Facebook และเพิ่มเพื่อนทาง Line จากนั้นมิจฉาชีพให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อลงทุน แนะนำวิธีการลงทุนเทรดหุ้น โดยให้ทดลองลงทุนเงินจำนวนน้อยก่อน ในช่วงแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้ จึงโอนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้น ภายหลังไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่าต้องชำระค่าภาษีและค่าธรรมเนียมก่อน ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
และคดีที่ 5 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 2,699,955 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ Flash Express แจ้งว่าสินค้าที่สั่งได้รับความเสียหายจะจ่ายเงินค่าประกันสินค้าคืนให้ โดยทำตามขั้นตอนใน Mobile Banking เป็นแอปพลิเคชันธนาคารของผู้เสียหาย เพื่อรับเงินค่าชดเชย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำตามที่มิจฉาชีพแนะนำ หลังจากจบสายสนทนาตรวจดูเงินในบัญชีพบว่ายอดเงินถูกโอนเงินออกไปจนหมด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 15,805,238 บาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 มีตัวเลขสถิติผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. สายโทรเข้า 1441 จำนวน 1,943,612 สาย / เฉลี่ยต่อวัน 3,070 สาย
2. ระงับบัญชีธนาคาร จำนวน 793,714 บัญชี / เฉลี่ยต่อวัน 1,254 บัญชี
3. ระงับบัญชีตามประเภทคดีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่ (1) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 250,911 บัญชี คิด เป็นร้อยละ 31.62 (2) หลอกลวงหารายได้พิเศษ 179,921 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 22.67 (3) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 119,923 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 15.11 (4) หลอกลวงลงทุน 108,683 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 13.69 (5) หลอกลวงให้กู้เงิน 56,245 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 7.09 (และคดีอื่นๆ 77,951 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 9.82)
“จากเคสตัวอย่างมิจฉาชีพได้หลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร แจ้งว่ามีพัสดุจากต่างประเทศตกค้าง ต้องโอนเงินชำระภาษี และค่าขนส่ง โดยให้ติดตั้งแอปฯ หลอกโอนเงิน พบเสียหายกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเคสหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้น พบความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท และเคสหลอกหารายได้พิเศษ โดยรวมแล้วมีมูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 16 ล้านบาท” นางสาววงศ์อะเคื้อ กล่าว
ทั้งนี้ขอย้ำว่า การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรต่างๆ หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ ควรตรวจสอบให้แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ จะไม่มีการติดต่อกับประชาชนโดยตรง หรือติดต่อผ่านทางโซเชียลมีเดีย และการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขณะเดียวกันไม่ควรสแกน QR Code หรือดาวน์โหลดลิงก์ต่างๆ ที่ยังไม่มีการตรวจสอบ เพราะอาจเป็นการติดตั้งแอปฯดูดเงิน และข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ โดยกระทรวงดีอี ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านศูนย์ AOC 1441 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) | Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com