โบรกฯ มอง SET 1,230-1,330 จุด หลังปลดล็อกภาษีสหรัฐฯ 19% จับตาแรงเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง-Sell on Fact
โบรกฯ มอง SET 1,230-1,330 จุด หลังปลดล็อกภาษีสหรัฐฯ 19% จับตาแรงเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง-Sell on Fact
โบรกฯ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ตอบรับเชิงบวก หลังไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯ อัตรา 19% หนุนดัชนีแตะ 1,230-1,330 จุด จากแรงเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เตือนระวัง Sell on Fact ระยะสั้น พร้อมติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจากผลกระทบภาษี
"KSS" ลุ้นหุ้นไทย 1,330 จุด หลังปิดดีลภาษี 19%
บล.กรุงศรี ระบุว่า ประเทศไทยได้ดีล Reciprocal Tariff จากสหรัฐอัตรา 19% ใกล้เคียงประเทศอื่นๆในภูมิภาค ทั้งฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย แต่ต่ำกว่า เวียดนาม คาด SET Index ตอบรับเชิงบวกวันนี้ในกรอบ 1,230-1,260 จุด และในระดับเดือน 1,295 -1,330 จุด
ไทยได้ดีล Reciprocal Tariff ภาษีจากสหรัฐ อัตรา 19% ถือว่าใกล้เคียง VS. อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อัตราภาษี 19% แต่ต่ำกว่าเวียดนาม 20%
KSS ประเมินว่า Effective tariff rate (ETR) ของไทยจะอยู่ราว 18.4% ต่ำกว่าระดับอินโดนีเซีย ETR 26% แต่ใกล้เคียงกับเวียดนาม
คาด SET Index ตอบรับเชิงบวกวันนี้ในกรอบ 1,230-1,260 จุด และในระดับเดือน 1,295 -1,330 จุด
กลยุทธ์ : เน้นหุ้น กลุ่ม Reopening Trade ที่ Deep Value อาทิ Export: KCE, HANA นิคมฯ WHA, AMATA กลุ่มได้ประโยชน์จากการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ คาดต้นทุนลดลง ADVANC, COM7, ADVICE, INSET นำเข้าก๊าซ : PTTGC, GPSC, BGRIM
"KS" ลุ้น SET ทดสอบ 1,275 จุด
บล.กสิกรไทย คาดว่า SET Index ของไทยแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,240-1,275 จุด หลังสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของไทยที่ 19% ปรับตัวลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 36% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซียและเวียดนาม โดยมีลักษณะการขึ้นภาษีแบบภูมิภาค
มองว่า SET index มีแนวโน้มที่จะไปทดสอบระดับ 1,275 จุดหรือ -0.50 SD ในขณะเดียวกันคาดว่ามี Upside 2025GDP จากประมาณการเดิมของเราที่ 1.4% จาก Upside ของการส่งออก (ปัจจุบันคาดการณ์ 1.5% เทียบกับธปท.คาดการณ์ 4%+/-)
ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ AMATA จากการคลาย overhang ของภาษีนำเข้าสหรัฐ และ KLINIQ เก็งลดลงกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐ อาจส่งผลให้ GPM มีการปรับตัวขึ้นจากราคายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ปรับตัวลดลง
"ลิเบอเรเตอร์ " มองปลดล็อกภาษี หนุน SET แกว่งขึ้น
บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุในบทวิเคราะห์ คาด SET วันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบ 1,230-1,260 จุด โดยสหรัฐฯประกาศอัตราภาษีของสินค้าไทยที่ 19% ใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้าน คาดปลดล็อกความกังวล หนุนแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยกลยุทธ์เน้นสะสมหุ้นที่คาดได้โมเมนตัมเชิงบวก โดยสำหรับวันนี้แนะนำ AMATA
ภาพรวม SET เดือน ก.ค. ขึ้นแกร่ง (+14%m-m) ขานรับความคาดหวังเชิงบวกต่ออัตราภาษีการค้าที่คาดจะลดลงต่ำกว่าระดับเดิม บวกกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมาดีกว่าตลาดคาด และ Valuation ของ SET ที่อยู่ในระดับที่ไม่แพง กระตุ้นกระแสเงินทุนไหลเข้า
"ไอร่า" แนะระวัง Sell on Fact
บล.ไอร่า คาดตลาด Sideways ตลาดจะให้ความสนใจไปกับอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐ (Reciprocal Tariff) ที่จะเรียกเก็บจากสินค้าไทยในระดับ19% เทียบเท่าอัตราส่วนใหญ่ที่ประเทศในภูมิภาคโดน (ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อย) คาดจะส่งผลให้ประเทศในภูมิภาคยังมีระดับการแข่งขันทางการค้าใกล้เคียงเดิม
อย่างไรก็ตามยังคงมุมมองตลาดรับรู้ความคาดหวังดังกล่าวไป พอสมควรแล้วมีโอกาสที่จะเห็นแรง Sell on Fact ออกมาได้ในระยะสั้น หลังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้เรายังคงแนะน าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q68 ของ บจ. ในตลาด รวมทั้งติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐคาดจะออกมาในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า อาจเป็นจิตวิทยาเชิงบวกได้เพิ่มเติม
"FSS" จับตาจีดีพีครึ่งปีหลัง จากผลกระทบภาษีสหรัฐฯ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,230-1,250 จุด หลังสหรัฐฯประกาศอัตราภาษีสินค้านำเข้าไทยที่ 19% ใกล้เคียงคาด ขณะที่ดัชนีปรับตัวขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้ารับความคาดหวังดังกล่าวไปมากพอสมควร
สิ่งที่ดีคืออัตราภาษีที่ไทยได้รับใกล้เคียงกับประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย (19%) เวียดนาม ไต้หวัน (20%) ทำให้โดยรวมคาดว่าไทยจะยังรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ อย่างไรก็ตามอัตราภาษีดังกล่าวไม่ได้ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับคาดว่าตลาดจะโฟกัสกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจใน 2H25 มากขึ้นว่าจะชะลอตัวมากน้อยเพียงใดจากอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นจากระดับชั่วคราวตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ 10%
ด้าน Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูงและยังกดดันค่าเงินสกุลเอเชียให้อ่อนค่า ล่าสุดค่าเงินบาทยังอยู่ที่ 32.73 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่การทยอยประกาศกำไร 2Q25 บจ. ภาพรวมคาดว่าจะชะลอตัวทั้ง q-q และ y-y และต้องติดตามการปรับประมาณหลังประกาศงบและเพื่อสะท้อนแนวโน้มการเติบโตใน 2H25 ระยะสั้นเรามอง SET Index มี Upside จำกัดมากขึ้นหลังปรับตัวขึ้น 17% จาก Low ปลายเดือน มิ.ย. หุ้นที่ Laggard คาดมีโอกาสพลิกมาฟื้นตัวตามตลาด
เรียบเรียง โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ