SEAFCO ชี้ Q3 จุดพีค สายสีส้ม-งานเอกชนหนุนงบโต
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 21.51 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - SEAFCO ไตรมาส3/68 โตต่อเข้าสู่จุดพีค หลังรับรู้งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมล่าสุดจัดหนักรับงานเอกชนเพิ่ม 2 งานหนุนโตต่อเนื่อง ด้านปัญหาแรงงานกัมพูชา ชี้ไร้กังวลเตรียมแผนรับมือแล้ว ด้านโบรกมองทิศทางฟื้น ลุ้นโอกาสได้งานเพิ่ม ประเมินกำไรปีนี้เป็น 105 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดทำได้ 142 ล้านบาท เคาะราคาเป้าหมายที่ 2.50 บาท
ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ระบุว่า ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาสมาส 3 ปี 2568 คาดเป็นจุดพีคของบริษัท หลังมีงานรถไฟฟ้าจำนวน 5 สถานี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น และจะรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงไตรมาส 2 ปี 2569 นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทยังได้รับงานเอกชนเพิ่มเติมจำนวน 2 งาน แม้ว่างานภาคเอกชนเข้าสู่ภาวะซบเซา บริษัทยังเตรียมเสนอราคารับงานอื่นๆในระยะถัดไปอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทยังคงจับตาสำหรับโครงการของภาครัฐ รวมถึงงบประมาณที่ภาครัฐคาดทยอยออกในอนาคต
vสำหรับความกังวลเรื่องกลุ่มแรงงานกัมพูชากังวลที่ขาดหายไป ส่งผลให้บริษัทมีความระมัดระวังมากขึ้นในการรับงานเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องวางแผนให้รัดกุม ได้มองหากลุ่มเอเจนซี่แรงงานมาเติมเพื่อแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันบริษัทมีแรงงานเพียงพอ เป็นชาวไทยและชาวพม่าเป็นหลัก และได้จ่ายค่าล่วงเวลาแก่แรงงานที่มีอยู่เสมอ ซึ่งไม่กระทบต่อต้นทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ
โชว์รายได้ Q2/68 ที่ 405 ลบ.
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2568 สิ้นสุด ณ. วันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทมีรายได้ 405.34 ล้านบาท มีกําไรสุทธิ 37 ล้านบาท จากการเข้าดำเนินงานสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกําไรสุทธิ 5.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 562.39% ส่วนในงวด 6 เดือน ได้ขาดทุนสุทธิ 24.73 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 39.04 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 163.34%
สำหรับงานในมือ หรือ Backlog ของบริษัท ณ สิ้นสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานเอกชนเพิ่มจำนวน 2 โปรเจกต์ ส่งผลBacklog รวมทั้งสิ้น 2,660.05 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคเอกชน 815.39 ล้านบาท คิดเป็น 31% และภาครัฐ 1,844.66 ล้านบาท คิดเป็น 69%
โบรกมองถึงจุดเร่งตัว!
ด้าน บล.ดาโอ ประเมินหุ้น SEAFCO โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมาย 2.50 บาท อิง 2026E PER 15x (-0.5SD below 5-yr average PER โดยคำนวณไม่รวมช่วงปีที่ผลการดำเนินงานขาดทุน) ฝ่ายวิจัยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2026E
ทั้งนี้ SEAFCO รายงานกำไรปกติ 2Q25 (ไม่รวมรายการพิเศษจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ) ที่ 43 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก จากกำไรปกติ 2Q24 ที่ 2 หมื่นบาท และฟื้นจากขาดทุนปกติ 1Q25 ที่ -60 ล้านบาท ใกล้เคียงตลาดคาด หนุนโดยรายได้สูงขึ้น +53% YoY, +196% QoQ และ GPM ดีขึ้นในรอบ 6 ไตรมาสอยู่ที่ 21.5% จากการเริ่มงานสายสีส้ม โดยบริษัทมีการเข้างาน 3 สถานี (จากทั้งหมด 6 สถานีที่บริษัทได้รับงาน)
ฝ่ายวิจัยปรับกำไรสุทธิปี 2025E/26E ลง -20%/-7% เป็น 105 ล้านบาท/142 ล้านบาท จากการปรับสมมติฐานรายได้และ GPM ลงเพื่อสะท้อนการเข้าพื้นที่โครงการใหญ่สายสีส้มล่าช้ากว่าที่คาด
อย่างไรก็ตามสำหรับ 3Q25E ฝ่ายวิจัยประเมินผลการดำเนินงานจะยังเร่งตัว YoY, QoQ จากงานสายสีส้ม progress ต่อเนื่องและงานอาคารใหญ่อื่นๆ ที่มีการทยอยเริ่มงานตั้งแต่ 2Q25 ราคาหุ้น in line กับ SET ใน 3 เดือน แต่กลับมา underperform SET -8% ใน 1 เดือน
แม้ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการปี 2025E/26E ลง แต่ยังคงมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานที่ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวหนุนโดย backlog ทรงตัวสูง >2 พันล้านบาท ช่วย secure รายได้อย่างน้อยถึง 1H26E ขณะที่มองว่าบริษัทยังมีโอกาสได้งานอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น Double Deck