โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ก่อสร้างไทยโตช้า แต่เปลี่ยนเร็ว กลยุทธ์ ‘จระเข้’ ในวันที่วัสดุก่อสร้าง ต้องตอบโจทย์มากกว่าแค่การใช้งาน

The Momentum

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE MOMENTUM

ท่ามกลางการเติบโตอย่างช้าๆ แต่มั่นคงของวงการก่อสร้างในประเทศไทย ยังคงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการวัสดุก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมอาคารเก่าในเมืองใหญ่ แม้อัตราการเติบโตในภาพรวมจะไม่ได้พุ่งสูงแบบก้าวกระโดด แต่ก็มีทิศทางที่ชัดเจนและมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะในตลาดวัสดุก่อสร้างที่เริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรมมากขึ้น

รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุคโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่ขึ้นในหลายพื้นที่ ยังเป็นปัจจัยเร่งให้เจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา และนักพัฒนาโครงการหันมาให้ความสำคัญกับวัสดุก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความแข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนานมากกว่าเดิม ทำให้ผู้เล่นในตลาดต้องปรับกลยุทธ์ให้เท่าทันกับความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้นในทุกมิติ

กลยุทธ์การรุกตลาดของ ‘จระเข้’

แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่เติบโตมากับยุคเฟื่องฟูของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย แต่ในวันที่ตลาดเข้าสู่ภาวะชะลอตัวและปัจจัยแวดล้อมแปรปรวนมากขึ้น บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กลับสามารถรักษาอัตราการเติบโตในครึ่งปีแรกของปี 2568 ไว้ที่ 9.5% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจากบริบทตลาดที่มีแรงกดดันรอบด้าน ทั้งต้นทุนการผลิตที่ผันผวน อัตราดอกเบี้ยสูง และดีมานด์ภาคเอกชนที่หดตัวต่อเนื่อง

เบื้องหลังตัวเลขที่ดูเป็นบวกนี้ ไม่ได้สะท้อนเพียงประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กรเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนวิธีคิดและกลยุทธ์การขยายตลาดของแบรนด์จระเข้ในยุคที่วัสดุก่อสร้าง ไม่ใช่เพียงเรื่องของความทนทาน แต่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน สุขภาวะ และการรับมือกับภัยพิบัติ

สิ่งที่บริษัททำได้ดีคือ การตอบสนองต่อเทรนด์การซ่อมแซม ที่เพิ่มขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งในภูมิภาค ซึ่งไม่เพียงกระตุ้นยอดขายระยะสั้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้กับสินค้ากลุ่มเคมีก่อสร้างที่มีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าเดิม โดยเฉพาะวัสดุที่มีมาตรฐานความปลอดภัยและคุณสมบัติทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน ซึ่งผู้ว่าจ้างในปัจจุบันให้ความสำคัญมากขึ้น

ด้านโครงสร้างตลาด แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปีนี้จะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย แต่โครงการเมกะโปรเจกต์ภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เช่น รถไฟความเร็วสูง โครงสร้างพื้นฐานใน EEC และท่าเรือใหม่ๆ ซึ่งช่วยพยุงดีมานด์ในบางเซกเมนต์ และกลายเป็นฐานสำคัญให้บริษัทวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่สามารถรักษารายได้เอาไว้ได้

จระเข้ก็อาศัยจุดแข็งในฐานะเจ้าตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนว (ที่มีมูลค่าตลาดรวมราว 5,500 ล้านบาท) พร้อมขยายบทบาทในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง ที่กำลังเติบโตเฉลี่ย 5.5% ต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 กลุ่มนี้ถือเป็นตลาดใหม่ที่สร้างโอกาสระยะยาว แม้การแข่งขันจะยังเข้มข้นจากทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ

การขยายตลาด CLMV โอกาสที่ต้องลงมือจริง

ขณะที่หลายบริษัทในอุตสาหกรรมเน้นการป้องกันความเสี่ยงจากตลาดในประเทศด้วยการกระจายพอร์ตไปยังตลาด CLMV แบรนด์จระเข้เองก็เร่งขยายไปยังภูมิภาคนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเวียดนามที่กลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ในอาเซียน รวมถึงเมียนมา ที่ความเสียหายจากภัยธรรมชาติกระตุ้นความต้องการวัสดุก่อสร้างจากไทย ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่เพียง 10% แต่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 16% ภายในไม่กี่ปี ผ่านเครือข่ายพันธมิตรในท้องถิ่นและตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่

อีกหนึ่งยุทธศาสตร์หลักของจระเข้คือ การเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายคู่ค้าในประเทศ โดยเฉพาะ ‘จระเข้ช็อป’ ซึ่งทำหน้าที่มากกว่าร้านค้าทั่วไป แต่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นช่างฝีมือ ผู้รับเหมา ไปจนถึงนักพัฒนาโครงการอสังหาฯ โมเดลนี้ช่วยให้จระเข้ควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าตลอดห่วงโซ่การใช้งาน พร้อมสร้างระบบนิเวศของแบรนด์แบบครบวงจร

ปัจจุบันจระเข้มีจุดจำหน่ายกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะจระเข้ช็อปที่ผสานบทบาททั้งศูนย์จัดจำหน่ายและศูนย์ให้ความรู้กับผู้ใช้ปลายทาง ถือเป็นการสร้างความได้เปรียบทั้งด้าน Loyalty และ Expertise ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่คู่แข่งจะลอกเลียนได้ง่าย ยิ่งในยุคที่แนวโน้มการตัดสินใจซื้อเปลี่ยนจากผู้รับเหมา มาอยู่ในมือผู้ใช้งานจริง และตลาด DIY เติบโตต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้จึงมีความสำคัญในเชิงโครงสร้างระยะยาว

‘Green Demand’ ไม่ใช่กระแส แต่เป็นกลยุทธ์

ขณะเดียวกันภายใต้นโยบาย Sustainable Building Innovation บริษัทได้เร่งพัฒนาและวางตำแหน่ง Green Products อย่างจริงจัง ปัจจุบันมีสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมถึง 63% พร้อมตั้งเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 กลยุทธ์นี้ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ แต่ยังสอดรับกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตระยะยาว

กลยุทธ์ด้าน Green Products ไม่ได้เป็นเพียงการทำตามกระแส แต่สะท้อนถึงการวางรากฐานธุรกิจที่รองรับบริบทสิ่งแวดล้อมใหม่ และเป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างที่แข็งแรงในระยะยาว

แม้จระเข้ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้มั่นคง แต่ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าไม่ได้จำกัดแค่เรื่องยอดขาย แต่เป็นการรับมือกับการเปลี่ยนผ่านของตลาดแรงงาน ผู้บริโภค และข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมในยุคหลังโควิด-19 หากไม่สามารถปรับระบบให้รับกับโจทย์ใหม่เหล่านี้ได้ทันท่วงที ก็อาจต้องแลกกับต้นทุนที่สูงขึ้นในการรักษาความแข็งแรงของแบรนด์

ความสำเร็จของจระเข้ในปีนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขรายได้ แต่เป็นการพิสูจน์ว่า แบรนด์ไทยสามารถยืนอยู่แถวหน้าในอุตสาหกรรมได้ หากวางกลยุทธ์บนฐานข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค เทรนด์โลก และความร่วมมือในเชิงระบบอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศและภูมิภาค

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

‘โซนยอชิแดตลอดไป’ ฉลองครบรอบ 18 ปี Girls’ Generation แม่พิมพ์เกิร์ลกรุ๊ปแห่งวงการ K-Pop

17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การุณยฆาตแบบอ่อนโยน สวนสัตว์เปิดขอบริจาคขอสัตว์เลี้ยง เพื่อนำไปเป็น ‘เหยื่อ’ ของสัตว์กินเนื้อ

23 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

III โชว์กำไร Q2/68 ที่ 73.5 ล้านบาท เดินหน้าแผน Synergy 360° ยกระดับศักยภาพขับเคลื่อนการเติบโต

การเงินธนาคาร

'กอบศักดิ์' ชี้ภาษีทรัมป์ไม่จบ! แนะไทยหั่นดอกเบี้ย-อัดมาตรการอุ้มSMEs

Amarin TV

กสทช. เร่งตรวจสอบบริษัท “ชาวสิงคโปร์” หลังยึดโดรน-ปืนยิงโดรน

อีจัน

อสังหาฯ ภูเก็ต โตแรงทั้งตลาดซื้อ-เช่ารับนักลงทุนทั่วโลก

การเงินธนาคาร

‘ภูมิธรรม’ ถกซีอีโอบริษัทยักษ์เรียกความเชื่อมั่น!

ไทยโพสต์

ประกันสังคมเร่งช่วยเหลือ! คนงานตกจากรถเครนเสียชีวิตในวิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุง ทายาทรับสิทธิรวมกว่า 9 แสน

สยามรัฐ

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ครองแชมป์เที่ยวบินในประเทศจากสุวรรณภูมิ

PostToday

ทองโลกอพักฐาน จับตาเฟด ศึกภาษีทรัมป์

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Alibaba ชี้โอกาส SMEs ไทย บุกตลาดโลกด้วยข้อมูล กลยุทธ์ และดิจิทัลแพลตฟอร์ม

The Momentum

เจาะลึกตลาด Specialty Coffee เติบโตสวนเศรษฐกิจ ราคาต่ำกว่า 100 ขายดี

The Momentum

MK Group เดินเกมรุก เปิดตัว ‘โบนัส สุกี้’ ท้าชนตลาดสุกี้บุฟเฟต์ราคาประหยัด

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...