โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

โฆษก กต.มองคลิปทหารกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิด เป็นหลักฐานชั้นดีฟ้องภาคีออตตาวา

The Reporters

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โฆษก กต.มองคลิปทหารกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิด เป็นหลักฐานชั้นดีฟ้องภาคีออตตาวา บอกเป็นพฤติกรรมที่น่าผิดหวัง เรียกร้องหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง

วันนี้ (20 ส.ค. 68) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (Interim observer Team: IOT) ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย คณะได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568 คณะประกอบไปด้วยผู้ช่วยทูตทหารจาก 8 ประเทศได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม กองทัพได้จัดกำหนดการครอบคลุม เพื่อให้คณะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา และการขัดขวางการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ

ในห้วง 3 วัน คณะ IOT ได้สังเกตการณ์ชมการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เมื่อเช้านี้ยังได้เดินทางไปตรวจที่สถานที่ควบคุมตัวเชลยกัมพูชา จำนวน 18 คน รวมถึงสำรวจโรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบการโจมตีไม่เลือกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา สำหรับการลงพื้นที่บริเวณช่องอานม้า ทราบว่ามีเหตุการณ์ทหารกัมพูชาพยายามขัดขวางการสังเกตการณ์ของคณะ IOT และสื่อมวลชน

ฝ่ายไทยขอแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งสะท้อนถึงความไม่ถึงใจในการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะทำให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้เห็นหลักฐานด้วยตาตัวเอง ที่ไม่มีการจัดฉาก แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและความจริงใจของฝ่ายไทยในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่พยายามจัดฉากเหตุการณ์และปล่อยข่าวบิดเบือนออกมาอย่างต่อเนื่อง

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การดำเนินการในกลไก ทวิภาคี ประเทศไทยยืนยันว่ามั่นแก้ไขปัญหากับกัมพูชาโดยสันติผ่านกลไก RBC GBC และ JBC ล่าสุดเมื่อวันที่ 15-16 ส.ค.ที่ผ่านมา กองบัญชาการป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราของไทยกับภูมิภาคทหารที่ 3 ของกัมพูชา ได้จัดประชุม RBC สมัยวิสามัญที่จังหวัดตราด แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ฝ่ายกัมพูชายังคงไม่ตอบรับที่จะหารือ 2 ประเด็นสำคัญที่เป็นข้อเสนอของฝ่ายไทยคือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

ไทยคงพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมกรอบ RBC และ GBC ซึ่งประเทศไทยยังคงผลักดันการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนอย่างต่อเนื่อง หวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะเข้าร่วมด้วยความจริงใจและสุจริตใจเช่นเดียวกัน ส่วนกรอบพหุภาคีเรื่องการวางระเบิดของกัมพูชารัฐบาลไทยก็ทำเต็มที่และทำอย่างต่อเนื่องโดยตลอด โดยมีหนังสือถึงประธานการประชุมภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 ทั้งสิ้น 4 ฉบับ นับตั้งแต่ทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด และ เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวาได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาต่อคณะกรรมการแล้ว โดยจะเข้าพบกับคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 22 ส.ค.68 เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงและหลักฐานเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดพันธะกรณีและแสดงความรับผิดชอบในฐานะภาคีอนุสัญญา

การที่กองทัพออกมาเผยแพร่คลิป ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเป็นหลักฐานของกัมพูชาได้อย่างดี ในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ที่กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงและหลักฐานเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ประเทศไทยเห็นว่าความมุ่งมั่นในการกวาดล้างทุ่นระเบิดในอดีตที่กัมพูชากล่าวอ้าง ไม่ได้เป็นเครื่องประกันว่ากัมพูชาจะไม่ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเอกในปัจจุบันและอนาคต เห็นได้จากพฤติการณ์และหลักฐานที่ชัดเจนในการลักลอบเข้ามาวางระเบิดในแผ่นดินไทย แสดงถึงความไม่จริงใจของกัมพูชาซึ่งเป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง

การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา รวมถึงกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เราคงยังเห็นการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและการนำเสนอข่าวปลอมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ตัวอย่างล่าสุดในเรื่องนี้คือกล่าวหาว่าฝ่ายไทยวางลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งกองทัพบกได้ออกมาชี้แจงและกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ด้วย

นายนิกรเดช ได้อ่านแถลงการณ์อีกรอบว่า พื้นที่บ้านหนองจานเคยเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบในอดีตเข้ามาในประเทศไทย และต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้ขยายชุมชนออกไปถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 ประเทศไทยอดกลั้นอย่างสูงสุด

"ขอร้องให้กัมพูชายุติการบิดเบือนข้อเท็จจริงพร้อมแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดโดยสันติวิธี การที่ผมย้ำโดยตลอด เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งดังกล่าว ฝังรากลึกลงในจิตใจของประชาชนของทั้งสองฝ่าย“ นายนิกรเดช ทิ้งท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Reporters

‘พล.ต.วินธัย’ เผยกัมพูชารับเองทหารที่ช่องอานม้า ‘เมา’

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ลงพื้นที่ อ.พนมดงรัก ดูการเก็บกู้-ทำลายวัตถุระเบิด

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม