หุ้นไทยเปิดเช้าร่วง 8.67จุด ความไม่แน่นอนของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ใกล้กำหนดเส้นตาย 9 ก.ค.นี้
ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 7 ก.ค.2568 ปรับตัวลง 8.67 จุด หรือ 0.77% หรืออยู่ที่ 1,111.27 จุดมูลค่าการซื้อขาย 991.24 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้เกาะติดการประกาศภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. นี้ โดยจากความคืบหน้าล่าสุดของทีม Thailand ที่ได้เข้าไปเจรจากับสหรัฐฯเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ความเสี่ยงมากขึ้น โดยไทยจำเป็นจะต้องเร่งปรับข้อเสนอใหม่ก่อนเส้นตาย เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนภาษีระดับที่เคยประกาศไว้เมื่อ 2 เม.ย.ที่ 36%
โดย คาดว่าข้อเสนอใหม่ของไทย จะช่วยเปิดตลาดสินค้าของสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มการซื้อก๊าซ LNG, ถ่านหิน, สินค้าเกษตร, เครื่องบิน Boeing และตั้งเป้าลดดุลการค้ากับสหรัฐฯ จากเดิมที่ไทยได้ดุลราว 4.6 หมื่นล้านเหรียญต่อปี ให้ลดลง 70 % ภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อหวังให้สหรัฐฯปรับลดภาษีนำเข้าลงสู่ระดับ 10–20%
อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันระยะสั้นเพิ่มเติมต่อประเด็นที่สหรัฐฯเตรียมจำกัดการส่งออก Chip AI ไปในบางประเทศ เพื่อจำกัดการส่งต่อไปยังจีน ซึ่งไทย และมาเลเซียอาจเข้าข่ายประเด็นดังกล่าว เป็นปัจจัยที่กดดัน SET เพิ่ม
ทั้งนี้ คาดSET วันนี้ย่อตัว ตอบรับความเสี่ยงภาษีนำเข้าสหรัฐฯฯ ที่สูงขึ้นและการจำกัดส่งออก Chip AI โดยวันนี้ประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,100 จุด แนะเพิ่มความระมัดระวังในระยะสั้นมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ที่น่าติดตาม แนะจับตารายงานเงินเฟ้อไทย เดือน มิ.ย. คาด CPI -0.1%y-y และ Core CPI +1.1%y-y โดยดัชนีย่อตัวในกรอบ 1100-1130 จุด
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ADVANC กสทช. มีมติเสียงข้างมากรับรองการประมูลคลื่นรอบใหม่ โดย ADVANC ชนะคลื่น 2100 MHz 3 ชุด ที่ราคา 4.95 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนที่เคยเช่าจาก NT ลงไปได้กว่า 2.9 พันล้านบาทต่อปี แนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดจะเติบโตทั้ง q-q และ y-y จากทิศทาง ARPU ที่ยังเพิ่มขึ้น ผสานการควบคุมต้นทุนที่อยู่ในระดับที่ดี ราคาเป้าหมายที่ 300 บาท
วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้นักลงทุนจะไปให้น้ำหนักกับเส้นตายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับนานาประเทศ ตามกำหนดการจะแล้วเสร็จในวันที่ 9 ก.ค.2568 ประเทศที่สามารถตกลงการค้ากับสหรัฐฯได้ประกอบไปด้วย จีน เวียดนาม อังกฤษ ข้อมูลล่าสุดสหรัฐฯระบุว่าบางประเทศอาจเผชิญภาษีนำเข้าเพียง 10% และบางประเทศก็อาจสูงถึง 70%
แต่อย่างไรก็ตามกับประเทศไทยนั้นล่าสุดรัฐมนตรีคลังได้แถลงในวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยระบุว่าการเจรจากับสหรัฐฯเป็นไปได้ด้วยดี โดยได้พูดคุยกับทั้งฝั่งรัฐบาลและเอกชนแต่ข้อเสนอที่ทางไทยเสนอให้กับสหรัฐฯอาจยังไม่ตรงกับความต้องการจึงต้องกลับมาทำข้อเสนอให้กับสหรัฐฯใหม่ โดยสรุปก็คือยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงรอบสุดท้ายได้ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Team Thailand ได้ระบุว่าจะเจรจาให้ทันก่อนวันที่ 9 ก.ค.2568 คาดหวังให้ภาษีต่ำกว่าระดับ 18% ฝั่งสหรัฐฯก็ได้ระบุว่าในวันจันทร์นี้จะเตรียมส่งจดหมายให้แต่ละประเทศว่าจะเก็บภาษีนำเข้าในอัตราเท่าใด
ทั้งนี้ เราประเมินความน่าจะเป็นของภาษีแบ่งออกเป็นดังนี้
1.กรณีดีที่สุดไทยอาจเผชิญกับภาษีนำเข้าในระดับ 10% กรณีนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2% และSET INDEX มีโอกาสตอบรับเชิงบวกนำและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมกับส่งออกจะได้ผลบวกจากปัจจัยข้างต้น แต่เชื่อว่าโอกาสน้อย
2.กรณีกลางๆกล่าวคือไทยเผชิญภาษีนำเข้าในช่วง 15-25% เศรษฐกิจไทยน่าจะพอเติบโตได้ในช่วง 1-1.5% SET INDEX อาจตอบรับเชิงบวกระยะสั้นๆและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมกับส่งออกอาจได้รับผลกระทบแต่ยังไม่มากเท่าใดนักโดยให้โอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด
3.กรณีเผชิญภาษีนำเข้า 30% ขึ้นไป หากกรณีเช่นนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% และ SET INDEX มีโอกาสตอบรับเชิงลบมีโอกาสทดสอบระดับ Low เดิมที่ 1050 จุด สร้างแรงกดดันต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและส่งออก
สำหรับเวียดนามนั้นสินค้าส่งออกหลักๆไปยังสหรัฐฯได้แก่อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอุปกรณ์เกี่ยวกับนิวเคลียร์ ซึ่งจากการประเมินแล้วกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสเผชิญผลกระทบมากที่สุด ถัดมาจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม สัปดาห์นี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วยเงินเฟ้อไทยในวันจันทร์ Bloomberg Consensus คาดการณ์ -0.1%YoY
โดย สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1070 – 1140 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจลดพอร์ตการลงทุนเพื่อรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศรวมถึงไทยหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้จะเป็นความเสี่ยงกับเศรษฐกิจโลกและไทย แต่หากรับความเสี่ยงได้ระยะสั้นอาจเลือกกลุ่ม Defensive อาทิ โรงพยาบาล BDMS หุ้นที่อิงกับต่างประเทศ MINT สื่อสาร ADVANC INTUCH