ผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใหญ่ในเทกซัสพุ่งเกิน 80 ราย เตรียมรับมือฝนถล่มซ้ำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮันต์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของรัฐเทกซัส อัปเดตจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันครั้งรุนแรง ซึ่งเป็นผลจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 82 ราย ในจำนวนนี้รวมเด็กอย่างน้อย 28 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่เขตเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเทกซัส ซึ่งแม่น้ำกัวดาลูป เอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ภายในเวลาเพียง 45 นาที
ขณะเดียวกัน จากจำนวนเด็กหญิงอย่างน้อย 27 คน ซึ่งสูญหายระหว่างการทำกิจกรรมที่ค่ายมิสติก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกัวเดอลูป ลดลงเหลืออย่างน้อย 10 ราย เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กหญิงที่สูญหายอย่างต่อเนื่อง และยังมีรายงานผู้สูญหายในอีกหลายเขตของรัฐเทกซัสด้วย
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) พยากรณ์ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเทกซัสจะยังคงเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักระลอกใหม่ในสัปดาห์นี้ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และการพังทลายของสิ่งปลูกสร้าง
ขณะที่นางคริสตินา ดาห์ล รองประธานของ "ไคลเมต เซ็นทรัล" ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสงหาผลกำไรด้านสภาพอากาศ กล่าวว่า ภาคกลางของรัฐเทกซัสมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เพิ่มขึ้นประมาณ 20% นับตั้งแต่ปี 2513 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะในสหรัฐ แต่ยังรวมถึงอีกหลายประเทศบนโลก
เมื่อสภาพภูมิอากาศบนโลกร้อนขึ้น บรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกหนักแบบสุดขั้วเช่นนี้ได้ ภายในช่วงเวลาอันสั้น และเห็นได้ชัดว่า ขอบเขตขอบความสูญเสีย และจำนวนผู้เสียชีวิต สะท้อนว่า สหรัฐยังคงขาดความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงระดับที่จะมาถึงกับการที่โลกของเรายังคงร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ดาห์ลวิจารณ์การที่รัฐบาลสหรัฐตัดงบประมาณและลดจำนวนบุคลากรของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) และสำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (โนอา) ว่าส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพด้านการแจ้งเตือน และการรับมือกับภัยธรรมชาติ "ที่ควรจะทันท่วงทีกว่านี้".
เครดิตภาพ : AFP, GETTY IMAGES