ITTHI เปิดเกมรุกอีวีชาร์จ กำไรพุ่ง 33%-ปั๊มงบ 2 พันล.
#ITTHI #ทันหุ้น – ITTHI ผลงานไตรมาส 2/2568 สุดแกร่ง กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 พุ่ง 33% รับอานิสงส์โครงการภาครัฐ ฟากผู้บริหารมองครึ่งปีหลังโตต่อ มีลุ้นคว้างานเพิ่มในไตรมาส 3/2568 เตรียมลุยธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ปักเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1 พันล้านบาท ส่วนปีหน้า 2 พันล้านบาท
นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ผลประกอบการล่าสุดออกมาน่าพอใจ และมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในไตรมาส 3/2568
นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ผลประกอบการล่าสุดออกมาน่าพอใจ และมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในไตรมาส 3/2568
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ“กริดเด็กซ์ จำกัด” (GRIDEX Co., Ltd.) เพื่อดำเนินธุรกิจสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ช่วยผลักดันรายได้ในอนาคต
@ รายได้แตะ 2พันล.
สำหรับปี 2569 บริษัทประเมินรายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอุปกรณ์ไฟส่องสว่างราว 1,000 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจ EV ราว 500–1,000 ล้านบาท
“การรุกตลาด EV และสถานีชาร์จไฟฟ้าจะช่วยเสริมพอร์ตธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว ควบคู่กับการรักษาฐานรายได้จากธุรกิจไฟส่องสว่างที่เป็นจุดแข็งของบริษัท” นายธนเสฎฐ์ กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลา 3 เดือน อยู่ที่ 7.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 5.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 17.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.6% จาก 14.6 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตนี้มีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐ ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนสินค้า การวางแผนสั่งซื้อ และการบริหารคลังสินค้าและการจัดส่งที่ดีขึ้น
@ กวาดรายได้ 200 ล.
ขณะที่รายได้และการเติบโต ในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% จาก 163.7 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จาก 321.6 ล้านบาท ในปี 2567 รายได้หลักมาจากการจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง โดยสินค้าหลักที่ช่วยหนุนการเติบโตคือ โคมไฟโซลาร์เซลล์ ซึ่งมียอดขายรวม 318 ล้านบาท
สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 82% ของรายได้รวม และมีการเติบโตถึง 47% ลูกค้ากลุ่มโครงการภาครัฐเป็นส่วนสำคัญของรายได้ โดยคิดเป็น 47% ของรายได้ทั้งหมด และมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 76% อย่างไรก็ตาม ยอดขายในกลุ่มลูกค้างานโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 43% เนื่องจากสถานการณ์ธุรกิจที่ชะลอตัว
ต้นทุนและกำไรขั้นต้น สำหรับไตรมาส 2/2568 บริษัทมีต้นทุนขายและการให้บริการ 173 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 86.4 ของรายได้ ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 13.6
สำหรับแนวโน้มและปัจจัยการเติบโตในอนาคต บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับการจำหน่ายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้างานโครงการภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะการจำหน่ายโคมไฟถนนโซลาร์เซลล์ให้หน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตได้อีกหลายเท่าตัว บริษัทจะเตรียมสินค้าให้พร้อมและมีบุคลากรที่เพียงพอด้วยต้นทุนและราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งควบคุมความเสี่ยงในการส่งมอบสินค้าล่าช้าเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ