เฟรเซอร์สฯ โกยกำไร Q3/68 พุ่ง 90% อานิสงส์ขายที่ดิน–ดีมานด์เช่า
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดผลงานรอบ 9 เดือนแรกปีงบการเงิน 2568 (ต.ค. 2567 – มิ.ย. 2568) มีกำไรสุทธิ 1,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.6% จากปีก่อน แม้รายได้รวม 10,336 ล้านบาท จะลดลงเล็กน้อย 0.8% แต่ในไตรมาส 3/2568 (เม.ย.–มิ.ย.) บริษัทฯ ทำผลงานโดดเด่น รายได้รวม 4,038 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% และมีกำไรสุทธิพุ่งแตะ 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ ได้แก่
- อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย
เปิด 3 โครงการใหม่รวมมูลค่า 4,200 ล้านบาท ได้แก่ “โกลดีน่า สุขุมวิท–แบริ่ง” ทาวน์โฮมระดับพรีเมียมโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ และบ้านเดี่ยวลักชัวรี “แกรนดิโอ ขอนแก่น–มิตรภาพ” และ “แกรนดิโอ โคราช–เทอร์มินอล” ทั้งหมดมียอดพรีเซลล์รวมกว่า 1,000 ล้านบาทภายใน 2 วัน และมีแผนเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,600 ล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายปีงบประมาณ
- อสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม
ทำสถิติอัตราการเช่าสูงสุด 93% ของพอร์ตโฟลิโอในไทยและต่างประเทศ หนุนจากกระแสการย้ายฐานการผลิตมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
ในไตรมาสนี้ ส่งมอบคลังสินค้าใหม่ขนาด 24,000 ตร.ม. ให้ลูกค้าอีคอมเมิร์ซในเวียดนาม พร้อมบุ๊คกำไรจากการขายที่ดินไทย–เวียดนามกว่า 400 ล้านบาท ถือเป็นกลยุทธ์เพิ่มสภาพคล่องและบริหารสินทรัพย์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ
- อสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม
ธุรกิจอาคารสำนักงานและรีเทลยังไปได้ดี อัตราการเช่าสูงถึง 91% จากการปรับค่าเช่าในการต่อสัญญาใหม่ ช่วยเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจโรงแรมได้รับแรงกดดันจากนักท่องเที่ยวจีนลดลงและเหตุการณ์แผ่นดินไหวช่วงปลายมีนาคม ทำให้รายได้หดตัว แต่ยังคงมีฐานลูกค้าหลากหลายและปรับกลยุทธ์รับนักท่องเที่ยวตลาดใหม่ทดแทน
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FPT ระบุว่า บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ยืดหยุ่น บริหารพอร์ตสินทรัพย์และเงินทุนอย่างรัดกุม เพื่อรักษาสภาพคล่องและเสถียรภาพทางการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอ พร้อมเดินหน้าขยายโครงการในทุกเซกเมนต์โดยเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมที่ยังมีดีมานด์สูง และที่อยู่อาศัยระดับบนซึ่งยังเติบโตได้ดี
ทั้งนี้ FPT มองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในภูมิภาคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักจากการลงทุนของผู้ผลิตต่างชาติ ขณะเดียวกันตลาดบ้านหรูยังมีแรงซื้อจากกลุ่มกำลังซื้อสูงที่ไม่ถูกกระทบมากจากภาวะดอกเบี้ยสูง ส่วนสำนักงานและรีเทลยังเป็นแหล่งรายได้ประจำที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว