หนุน สปสช. ตรวจเวชระเบียนผู้ป่วยใน คุมเบิกจ่ายงบบัตรทอง
จากกรณีที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีมาตราการตรวจสอบความถูกต้องของเวชระเบียนและยอดการเบิกจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยใน (IP) ของโรงพยาบาลในระบบทุกแห่งในปีงบประมาณ 2569 และเรียกคืนเงินจากหน่วยบริการที่เบิกเกิน โดยนำเงินคืนเข้าสู่กองทุนรวมผู้ป่วยในระดับเขต (Global IP เขต) เพื่อใช้สำหรับจัดสรรให้กับทุกหน่วยบริการต่อไปนั้น
นายนิมิตร์ เทียนอุดม เครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพขอสนับสนุนมาตรการตรวจสอบเวชระเบียนเพราะเป็นเรื่องที่เหมาะสมและจำเป็นกับระบบหลักประกันสุขภาพของรัฐที่มีงบประมาณจำกัด เพราะเป็นการช่วยรักษาสมดุลระหว่างงบประมาณกับการให้บริการของโรงพยาบาล และยังช่วยให้การวางแผนในการจัดสรรงบประมาณในภาพรวมมีความแม่นยำ เหมาะสม และสร้างความเป็นธรรมในระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียน 3% ที่ผ่านมา สปสช.ดำเนินการเป็นปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีทั้งต่อโรงพยาบาลและระบบ แม้ที่ผ่านมายังไม่มีการนำไปขยายผลกับส่วนที่เหลือทั้งหมด แต่เพื่อความยั่งยืนของระบบ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจึงขอสนับสนุนให้ในปีงบประมาณ 2568 ใช้ผลการสุ่มตรวจสอบเวชระเบียน 3% ควรขยายเป็น 100% ต่อไป ในปีงบประมาณ 2569 ซึ่งงบประมาณที่เรียกคืนจากโรงพยาบาลที่เบิกเกินจะต้องนำไปกระจายคืนให้กับโรงพยาบาลที่เบิกไม่เพียงพอ
ด้านนางสาวแสงศิริ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า แม้มาตรการดังกล่าวจะสร้างความไม่พอใจแก่หน่วยบริการที่ถูกเรียกคืนเงินเนื่องจากเบิกเกินและมีเสียงเรียกร้องให้ของบกลางมาเติม แต่การของบกลางมาเติมไปเรื่อย ๆ โดยไม่ดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้เสียก่อน จะส่งผลกระทบต่อการจัดการงบปลายปิดที่เป็นค่าเหมาจ่ายรายหัวและความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ หากไม่นำผลตรวจสอบมาใช้ จะต้องของบกลางเพิ่มมากถึง 5,609 ล้านบาท แต่หากใช้ผลตรวจสอบมาขยายผล 100% จะของบกลางเติมเพียง 2,061 ล้านบาท
นางสาวแสงศิริ กล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับหน่วยบริการในเขต ถ้ามีโรงพยาบาลไหนเบิกเกินเป็นเงินจำนวนมาก ก็จะเป็นการเอาเปรียบเพื่อนโรงพยาบาลอื่นในเขตพื้นที่เดียวกัน และจากข้อมูลพบว่า มีโรงพยาบาลที่จะถูกปรับลดจำนวน 955 แห่ง และมีโรงพยาบาลที่ได้รับเงินเพิ่มมากขึ้น 170 แห่ง
"การเบิกเงินเกินของหน่วยบริการ มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความผิดพลาด หรือตั้งใจเบิกเกิน โดยกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพยึดมั่นในการปกป้องเงินจากภาษีของประชาชนทุกคน ดังนี้นสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ จึงขอให้ สปสช.จัดหาคนกลางมาทำการศึกษาว่า การตรวจสอบ (audit) มีผลอย่างไร จะกำกับการเบิกจ่ายที่เป็นธรรมได้อย่างไร จะทำให้เกิดประสิทธิภาพอย่างไร และขอให้ สปสช.ประกาศให้ชัดเจนว่า ในปีงบประมาณ 2569 การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียน 3% จะนำมาขยายผลเป็น 100% เพื่อให้เป็นที่รับทราบทั่วกัน" ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าว