สปสช. ชะลอแผนพนักงาน รฟท.ใช้สิทธิบัตรทอง รอฟังความเห็นครม.ก่อน
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2568 ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมบอร์ด สปสช.มีมติรับทราบข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้ผู้ปฏิบัติงานและครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานการรถไฟแห่งประเทศไทยใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 พ.ศ. …นั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.68) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อ (ร่าง) พ.ร.ฎ.กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานและบุคคลในครอบครัวผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ
การดำเนินการตรา พ.ร.ฎ.ดังกล่าวจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิการได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาล หรือสิทธิประโยชน์ด้านรักษาพยาบาลของผู้ปฏิบัติงานและครอบครัวผู้ปฏิบัติงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
เพื่อให้สอดคล้องกับการรับบริการสาธารณสุขตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ที่บริหารจัดการโดย สปสช. เนื่องจากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการปรับปรุงสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับเงินรัฐวิสาหกิจจึงต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตาม พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ให้ผู้ปฏิบัติงานและครอบครัวผู้ปฏิบัติงาน รฟท.ใช้สิทธิด้านการรักษาพยาบาลตามสิทธิเดิมไปก่อนและเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการข้างต้นและมีความพร้อมแล้ว จึงจะมีการตรา พ.ร.ฎ.ให้ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ต่อไป
สำหรับความเป็นมาของเรื่องดังกล่าวมาจากมติที่ประชุมบอร์ด สปสช. ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2568 ที่เห็นชอบร่างข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการดำเนินงานเพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลของ รฟท. ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ และเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานและครอบครัวผู้ปฏิบัติงาน รฟท.ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขฯ ก่อนที่ต่อมาได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ รฟท. ต่อเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2568
ต่อมา สปสช. ได้เสนอ (ร่าง) พ.ร.ฎ.ดังกล่าวไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาซึ่งได้มีการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความเห็นประกอบการพิจารณาและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีข้อสังเกตดังกล่าวออกมา
"ตามมติที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้มอบให้ สปสช. ดำเนินการประสานกับ รฟท. เพื่อติดตามขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายและขอให้รายงานความก้าวหน้าให้ที่ประชุมบอร์ด สปสช. รับทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป" เลขาธิการ สปสช. กล่าว